บท
ตั้งค่า

โน้มน้าวหาตัวแทน

“หากไม่ทำเช่นนี้แล้วจะทำอย่างไรล่ะเจ้าคะ”

“ข้าขอคิดดูก่อนแล้วกัน แม้ตระกูลเรากับตระกูลสือไม่ลงรอยกัน ทว่าตระกูลสือถือเป็นตระกูลใหญ่ที่มีอำนาจในราชสำนักอยู่ไม่น้อย หากเข่อซิงแต่งเข้าไปย่อมไม่เสียหาย”

“ฮูหยิน ท่านคิดตื้นเขินเกินไปกระมัง แม้ตระกูลสือเป็นตระกูลใหญ่ก็จริง แต่ท่านอย่าลืมความจริงที่ว่านายท่านหักหลังเพื่อนรักตัวเองจนทำให้สองตระกูลไม่ลงรอยกัน ถ้าคุณหนูรองแต่งเข้าไปอย่างมากได้เป็นเพียงฮูหยินเอก แต่สามีชิงชังไม่เหลียวแล ท่านลองคิดอีกคราเถิด ท่านโหวคงไม่อยากแม้แต่เห็นหน้าฮูหยินที่มาจากตระกูลที่เป็นต้นเหตุให้บิดาตัวเองต้องตายหรอกนะเจ้าคะ”

“ข้าก็คิดเช่นนั้น แต่ข้าไม่อยากให้เว่ยซูเหม่ยผู้นั้นแต่งกับตระกูลดี ๆ นี่ คนอย่างนางเหมาะสมกับการใช้ชีวิตชั้นต่ำอยู่บ้านสวนนู่น แค่คิดว่าต้องเห็นหน้านางข้าก็รู้สึกสะอิดสะเอียดเต็มทน”

“นางไม่ได้จะอยู่นานเป็นปีเสียหน่อย อย่างมากคงอยู่ในจวนแค่สามเดือน”

“เพื่อเข่อซิงข้าจะอดทนใช้อากาศร่วมกันกับนางก็แล้วกัน!”

“แสดงว่าฮูหยินตัดสินใจแล้วใช่ไหมเจ้าคะ”

“แต่ท่านพี่นี่สิไม่รู้จะยินยอมรึไม่”

“ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกเจ้าค่ะ แต่ไหนแต่ไรมานายท่านไม่เคยใส่ใจเรื่องของนางอยู่แล้ว”

“ที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล เช่นนั้นข้าไปหาท่านพี่เสียหน่อย”

ใต้เท้าเว่ยฉือนั่งสะสางงานอยู่เรือนใหญ่ ใบหน้าของเขาเรียบเฉยดูแล้วน่าเกรงขาม เขาเป็นคนที่ได้ชื่อว่าอำมหิตที่สุดเพราะฆ่าได้แม้กระทั่งสหายรักของตัวเอง

“นายท่าน ฮูหยินขอพบขอรับ”

“ตอนนี้ข้ายุ่ง บอกนางให้กลับไปก่อนเถิด”

“คะ...คือว่า ฮูหยินบอกว่ามีเรื่องสำคัญที่ต้องหารือกับท่านขอรับ”

“เรื่องอะไรหรือ”

“เรื่องพระราชทานสมรสเจ้าค่ะ” ฮูหยินเว่ยแทรกขึ้น ก่อนสาวเท้าเดินเข้ามาด้านในอย่างถือวิสาสะ

“มารยาทของเจ้าลืมทิ้งไปไว้ที่ใด หรือว่าตระกูลเหลียงไม่เคยสอนว่าอย่าถือวิสาสะเข้าห้องคนอื่น ถ้ายังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของก่อน”

“ข้าหาใช่คนอื่นไกล แต่เป็นฮูหยินของท่าน เจ้าออกไปก่อน” นอกจากนางจะไม่รู้สึกอับอายที่ถูกต่อว่าแล้วยังไล่ให้คนรับใช้ข้างกายสามีออกไปด้วย

“เรื่องแต่งงานกับตระกูลสือ ข้าไม่มีวันให้เข่อซิงของข้าแต่งเข้าจวนนั้นแน่”

“เจ้ากล้าขัดพระราชโองการรึ ถึงได้พูดเช่นนี้ออกมา” เขาเงยหน้ามองฮูหยินของตนนัยน์ตาแน่วนิ่ง

“ข้าหรือจะกล้าขัด เพียงแต่ข้าคิดเปลี่ยนตัวเจ้าสาว”

“เปลี่ยนตัวอย่างนั้นรึ ไหนเจ้าว่ามาซิ ว่าจะให้ผู้ใดแต่งงานแทนบุตรสาวของเจ้า”

“พวกเรายังมีคุณหนูเว่ยซูเหม่ยอยู่มิใช่รึ เดิมทีนางก็ไร้ค่าอยู่แล้วหากให้นางแต่งเข้าตระกูลสือยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ท่านไม่คิดเหมือนข้าหรือเจ้าคะ”

“สตรีอัปมงคลอย่างนางแต่งเข้าไปมีแต่จะทำให้จวนเราอับอาย หากเจ้ามีสมองก็ไม่ควรพูดเช่นนี้ออกมา”

“เช่นนั้นท่านจะให้ข้าทนเห็นลูกสาวเพียงคนเดียวแต่งเข้าปากเสือปากจระเข้หรือ ถ้าจะให้ข้าทนเห็นภาพนั้นสู้ข้าตายไปเสียยังดีกว่า”

“เช่นนั้นเจ้าก็ตายเถิด เพราะข้าไม่มีวันทำตามที่เจ้าว่า”

“ท่านพี่ เหตุใดท่านถึงได้ใจดำกับข้าเยี่ยงนี้ถึงอย่างไรเสียข้าก็เป็นฮูหยินของท่านนะเจ้าคะ”

“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ข้าตัดสินใจเองได้ เจ้าไม่คิดบ้างรึว่าถ้าตระกูลสือรู้เข้าว่าเราส่งเว่ยซูเหม่ยไปแทนแล้วเอาเรื่องนี้ไปทูลฮ่องเต้ หากพระองค์ทรงกริ้วขึ้นมาเห็นทีตระกูลเว่ยคงเหลือแค่ชื่อ”

“แต่ฝ่าบาทไม่ได้บอกเสียหน่อยนี่เจ้าคะ ว่าต้องเป็นเข่อซิงเท่านั้น ท่านเห็นแก่หน้านางสักครั้งเถิด”

“เช่นนั้นข้าต้องถามนางด้วยตัวเองก่อน ถ้าหากนางไม่อยากแต่งข้าย่อมไม่ฝืนใจนาง”

“ขอบคุณท่านพี่ที่รับฟังคำขอของข้า”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel