ตอนที่สอง เผ่าเปี้ยน (NCนิดๆ) 2
ตอนที่สอง เผ่าเปี้ยน
เสียงบ่นพึมพำพร้อมความรู้สึกว่ามีคนเดินวนไปวนมาและหยุดจ้องมองทำให้หญิงสาวใจเต้นรัว จนเมื่อทุกอย่างเงียบสงบลงจึงกล้าลืมตาขึ้นมองสำรวจโดยรอบ
ลักษณะห้องที่นอนอยู่คล้ายยุคโบราณ มีเตียงที่เธอนอนอยู่ตรงกลาง และมีฉากกั้นสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ด้านหลัง
ที่นี่...ไม่ใช่ด้านหลังเวทีแน่
แล้วก็ไม่ใช่โรงพยาบาลด้วย
หรือว่า เธอจะตกลงมาจนตายแล้วมาเข้าร่างของคนอื่นอย่างที่เคยได้ยินบ่อยๆ
ทันทีที่ตระหนักถึงความจริง หลิงหลิงจึงก้มลงสำรวจร่างที่นอนอยู่อย่างละเอียด
ใช่จริงด้วย ตัวเล็กขาวเนียน แต่อกอวบอึ๋มขนาดนี้ ไม่ใช่เธอแน่ๆ
ฮือๆๆๆๆ เทวดาเจ้าขา หนูเพิ่งเรียนจบยังไม่มีลูกมีผัวเลย ทำไมตายเร็วแบบนี้
ที่สำคัญคือหนูเพิ่งจะได้ทำในสิ่งที่วาดฝันมาตั้งแต่เด็ก มีโอกาสได้สัมผัสความสุขความสำเร็จสักครั้งในชีวิต
ทำไมถึงต้องมาเข้าร่างนี้ เท่าที่ได้ยินมามีแต่เรื่องแย่ๆ
คล้ายว่าจะเป็นนางรำที่ถูกยกให้เผ่าป่าเถื่อน
เทวดาเจ้าขา อย่าใจร้ายกับหนูนักเลย
หญิงสาวนอนเกลือกกลิ้งโอดครวญพร่ำเพ้อก่อนจะหลับไปพร้อมความทรงจำที่ผุดขึ้นมาราวภาพตัดต่ออันไม่ชัดเจน
“โอ้ว...เสียวยิ่งนัก เจ้าอย่าได้ตอดรัวเช่นนี้ บีบจนเนื้อของข้าแทบขาดแล้ว”
“โอ๊ย...ข้าเจ็บ อย่าได้กระแทกแรงนัก”
“อ้า...สตรีแคว้นต้าฉางช่างอวบอัดเต็มไม้เต็มมือเหลือเกิน”
“อย่ากัดข้า โอ๊ย!...อย่ากินเต้าทรวงของข้า”
“อืม...ข้าขออีกคราเถิด”
“พอแล้ว ข้าไม่ไหวแล้ว”
คำตอบโต้ของชายหญิงที่ขัดแย้งกันพร้อมแรงกระแทกกระทั้นอย่างสมจริงทำให้หลิงหลิงสะดุ้งตื่นอีกครั้ง
ผู้ชายคนนั้นป่าเถื่อนจริง ทั้งกัดทั้งกระแทก มิน่าล่ะ ร่างนี้ถึงได้เจ็บขนาดนี้
เฮ้อ!...นอนหลับๆตื่นๆจนเหงื่อแตกไปหมดแล้ว เหนียวตัวจังเลย
แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องนอนเปลือยกายไม่สวมใส่เสื้อผ้าแต่เพราะอ่อนล้าเกินกว่าจะถาม เมื่อผู้หญิงสูงวัยสองคนที่เคยเข้ามาดูแลพากันเดินเข้ามาช่วยเช็ดตัวและป้อนยาให้อีกครั้ง หลิงหลิงจึงลุกขึ้นมาอย่างว่าง่าย
คราวนี้มีน้ำข้าวต้มและนมอุ่นเพิ่มมาอีกด้วย หญิงสาวซึ่งเพิ่งรู้ตัวว่าหิวจนแทบกินวัวได้ทั้งตัวจึงอ้าปากกลืนทุกอย่างลงท้องอย่างตะกละตะกลาม
“ดื่มเข้าไปให้หมดเถอะนะหลิงหลิง อย่างน้อยก็ควรรักษาชีวิตเอาไว้”
“เอ่อ...” หญิงสาวที่ตื่นเต็มตาแล้วพยายามเอ่ยปากแต่ไม่รู้จะพูดถ้อยคำอย่างไร
“ป้าขอโทษที่ไม่อาจช่วยได้มากกว่านี้” หญิงสูงวัยอีกคนน้ำตาร่วงด้วยความสงสาร หลิงหลิงจึงตัดสินใจถามขึ้น
“ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้น”
หญิงสูงวัยทั้งสองต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัย
“เจ้านอนหลับข้ามวันข้ามคืนจนหลงลืมทุกอย่างไปแล้วหรือ หลิงหลิง”
“ใช่ค่ะ” หญิงสาวรีบสวมรอย
“เอาเถอะ นางคงสับสนไม่เข้าใจ ข้าจะเล่าเองก็แล้วกัน คืนวันก่อนพวกเจ้าเหล่านางรำได้ร่ายรำต่อหน้าพระพักตร์ของฮ่องเต้เพื่อต้อนรับชาวเผ่าต่างๆที่มาถวายบรรณาการ
จู่ๆหัวหน้าเผ่าเปี้ยนก็ลุกขึ้นมาเอ่ยปากขอตัวเจ้าและเหล่านางรำชุดนั้น ซึ่งฮ่องเต้ก็ออกปากพระราชทานให้เพื่อความสัมพันธ์อันดี
จากนั้นพวกเขาก็พากันอุ้มพวกเจ้าทั้ง12คนมายังเรือนที่พักรับรอง เหตุการณ์ต่อจากนั้น เฮ้อ…” เสียงทอดถอนใจพร้อมอาการส่ายหน้าอย่างปลดปลงทำให้หลิงหลิงเดาเหตุการณ์ต่อได้ทันที
“หมายความว่า นางรำทั้ง12คนต้องพลีร่างสังเวยกามให้กับคนของเผ่าเปี้ยนหรือคะ”
แม้จะสะดุดในคำพูดจาที่แปลกไปแต่หญิงสูงวัยยังคงตอบคำถามด้วยความมีน้ำใจ
“จะว่าเช่นนั้นก็คงได้ เดิมทีคิดว่าพวกเขาคงทะนุถนอมพวกเจ้าบ้างด้วยเป็นสตรีบอบบางอ้อนแอ้นอรชร อีกทั้งแต่ละนางก็ล้วนงดงามแช่มช้อย
ไม่คิดเลยว่าพวกเขาทั้งมูมมามทั้งหยาบคาย ยามที่พวกข้าเดินเข้ามาพบเห็นแต่ภาพน่าอนาถด้วยพวกเจ้าบางคนถูกรุมล้อมจนไม่เหลือชิ้นดี”
“รุมล้อม ป่าเถื่อนมาก” หญิงสาวเผลอตวาดเสียงดัง
