ตอนที่สาม ป่าเถื่อน (NC)
“รุมล้อม ป่าเถื่อนมาก” หญิงสาวเผลอตวาดเสียงดัง
“หลิงหลิง อย่าเสียงดังไป นับว่าเจ้าโชคดีมากที่หัวหน้าเผ่ายังหวงแหนเอาไว้คนเดียวไม่ยอมให้ผู้ใดแตะต้อง เพียงแต่เขาทั้งตัวใหญ่และมีพละกำลัง เมื่อเผชิญหน้ากับสตรีเย้ายวนเช่นเจ้าคงไม่อาจอดกลั้นจึงกระทำรุนแรงจนเจ้าเองก็ยับเยินไม่น้อย”
อ้อ...ความเจ็บแสบกับปวดระบมไปทั้งตัวนี่เกิดมาจากการที่ถูกเจ้าหัวหน้าเผ่ากินจนอิ่มหรอกหรือ
มิน่า...ภาพฝันนั้นจึงคล้ายจริงเหลือเกิน
เพียงคิดถึงภาพในความทรงจำที่ร่างใหญ่โตกำลังโยกคลอนชักท่อนกายเข้าๆออกๆอยู่บนตัว หลิงหลิงถึงกลับต้องสะบัดหน้าเพื่อเรียกสติตนเอง
“เมื่อครู่เขาเพิ่งส่งคนมาเร่งให้พวกเรารีบฟื้นฟูเจ้าโดยเร็ว คงใจร้อนอยากเสพสมกับเจ้าอีกครา”
หา!....ไม่นะ ไม่...
หลิงหลิงส่ายหน้าจนผมกระจาย แม้เธอจะเคยผ่านการร่วมรักตามประสาวัยอยากรู้อยากลอง แต่นั่นเป็นเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นแล้วยังไม่ได้รู้สึกดีสักเท่าไร
ยิ่งในภาพความทรงจำ หัวหน้าเผ่าคนนี้ทั้งเอาแต่ใจทั้งกอบโกยเอาแต่ได้ แม้ได้ยินเสียงร้องไห้หรือโวยวายว่าเจ็บ เขาก็ยังไม่ปรานีมุ่งมั่นถาโถมจนสมใจ
ไม่อย่างนั้นเธอจะหมดสภาพนอนแบบอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้หรือ
“เจ้าผ่านครั้งแรกมาแล้ว ครั้งต่อไปคงจะดีขึ้น ทำใจให้คล้อยตามอย่าขัดขืนฝืนความกล้ำกลืนเอาไว้ ไม่นานเจ้าจะพบว่าเรื่องเช่นนี้ความจริงก็ไม่เลวนัก” หญิงสูงวัยพยายามปลอบโยนและสั่งสอน
ถ้ามีความสุขร่วมกันทั้งสองฝ่ายก็คงจะเป็นเรื่องดี แต่ถ้าตักตวงเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว จะดีได้อย่างไร
หลิงหลิงเถียงในใจ
“เอาล่ะ อดทนอีกเพียงไม่กี่วัน อย่างไรพวกเขาก็ต้องเดินทางกลับ แม้จะเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว แต่พวกเจ้ายังสาวและเยาว์วัย คงหาบุรุษที่ยอมรับได้ไม่ยาก”
คำปลอบยังออกมาอย่างต่อเนื่องจนหลิงหลิงสัมผัสได้ถึงความหวังดีจากใจจริง
“ขอบคุณมาก” หญิงสาวก้มหัวด้วยความเคารพทั้งมองส่งสองสาวสูงวัยซึ่งเดินออกจากห้องไปจนสุดสายตา
เอาน่า อย่างน้อยก็ไม่ได้หัวเดียวกระเทียมลีบเหมือนอย่างร่างก่อนที่ต้องสู้ทนฟันฝ่าทุกอย่างมาด้วยตัวคนเดียว
หลิงหลิงนอนหลับด้วยฤทธิ์ยาไปอีกครั้ง ในภาพแห่งความฝันครั้งนี้ปะติดปะต่อได้ชัดเจนกว่าที่ผ่านมา
เธอเห็นร่างนี้กำลังกรีดร้องอย่างตกใจด้วยโดนโยนลงบนเตียงอย่างแรงจนจุก
จากนั้นร่างอันใหญ่โตก็กัดกินผิวกายขาวนวลอย่างหิวโหยแล้วสอดใส่ทะลุทะลวงไม่ยั้งแรงด้วยความหื่นกระหาย เจ้าของร่างนี้ยังเป็นหญิงพรหมจรรย์ เมื่อโดนความรุนแรงตั้งแต่คราแรกจึงเจ็บปวดแทบตาย
หลังจากนั้นเจ้าของแท่งกายอันแข็งแกร่งยังคงตะบี้ตะบันทิ่มแทงอย่างคึกคัก แม้เมื่อเห็นน้ำตาของสาวงามแล้วจะเบาลงไปบ้าง แต่เมื่อความเสียวซ่านพุ่งสูง เรี่ยวแรงที่มีจึงถูกโหมกระหน่ำลงมาจนร่างเล็กแทบขาดใจ
โอ๊ย!...ตาย ผู้ชายคนนี้ทั้งกินดุกินจุไม่บันยะบันยัง
ถูกเขาพร่าสวาทอย่างรุนแรงไม่รู้วันรู้คืนต่อเนื่องแบบนี้ ต่อให้แข็งแรงแค่ไหนก็ต้องไม่ไหวแน่
มิน่าร่างนี้จึงนอนพังพาบหมดสิ้นเรี่ยวแรงลุกแทบไม่ขึ้น
หญิงสาวสะดุ้งตื่นอย่างไม่รู้วันเวลาด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงคล้ายคนกำลังโวยวายทะเลาะกัน
เมื่อฟังให้ดีกลับเป็นเสียงกลุ่มคนยุแยงให้คนอื่นทำอะไรสักอย่างด้วยความฮึกเหิมโดยมีเสียงหญิงสาวดังแว่วแผ่วเบาคล้ายอยู่ไม่ไกล
หญิงสาวรวบผ้าห่มเข้าหาตัวพลางลุกขึ้นเดินย่องไปยังหน้าต่างด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ภาพหญิงสาวเปลือยกายขาวสล้างถูกมัดมือปิดตาอยู่กลางลานกว้างโดยมีมือหลายคู่ช่วยกันขยำขยี้ทั้งทรวงอกนุ่มและล้วงควานเข้าไปในร่องดอกไม้แดง
“พวกเขาป่าเถื่อนเหลือเกิน” หลิงหลิงพึมพำอย่างสลดใจ
นี่เธอตกเข้ามาอยู่ในวงล้อมของเผ่าอะไรกันถึงทำกับผู้หญิงขนาดนี้
“ว่าอย่างไร หากตอบถูกเจ้าจะได้ร่วมรักกับข้า แต่หากตอบผิดเห็นทีคงต้องยอมสละให้พี่น้องได้เสพสุขร่วมกัน”
เสียงผู้ชายคนหนึ่งตะโกนถามก่อนที่ผู้หญิงจะตอบเสียงเบาพลางหันร่างหนีมือหยาบกร้านที่ต่างช่วยกันรุมบีบก้อนเนื้อสองเต้าของตนเอง
“พวกเจ้าเข้ามาทีละคนไม่ได้หรือ รุมพร้อมกันเช่นนี้ข้าจะแยกแยะได้อย่างไร”
