บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 หวังดีหรือประสงค์ร้าย

เกาอิ่งและกู้หรงหันมาสบตากันด้วยความตกใจ เมื่อเห็นร่างสูงกำลังก้าวฉั่บๆเดินตรงเข้ามา ท่าทางของเขาบ่งบอกถึงความโกรธเคืองเป็นอย่างมาก กู้หรงตั้งใจจะเข้าไปเตือนเจ้านายสาว แต่เพียงแค่นางผลักประตูให้เปิดออกก็มีร่างสูงของใครบางคนเดินสวนเข้าไป จากนั้นร่างบางของกู้หรงก็กระเด็นออกมาพร้อมกับประตูที่ปิดลงเสียงดังปัง!

"ดูเหมือนว่าท่านโหวจะโกรธมาก ฮูหยินของพวกเจ้าจะโดนลงโทษอย่างไรบ้างนะ" หลิวม่านแย้มยิ้มออกมาด้วยความสะใจ

"เจ้า!" กู้หรงได้ยินเช่นนั้นจึงถลาเข้าไปหานึกอยากตบสั่งสอนคนปากดียิ่งนัก ทว่าเกาอิ่งกลับคว้ามือของนางเอาไว้เสียก่อน

"อย่ามีเรื่องกันเลย หาไม่ฮูหยินจะต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยเป็นแน่"

กู้หรงได้ยินคำเตือนสติของสหาย นางจึงพยายามข่มใจพร้อมลดมือลง แต่สายตากลับไม่ได้ละไปจากหลิวม่านแต่อย่างใด ในขณะที่ผู้ถูกมองทำท่าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอันใด

จากที่คิดว่าจะมาเอาเรื่องคนที่ฝ่าฝืนคำสั่งกลับต้องหยุดความคิดลง เมื่อสายตาคมหันไปมองยังเตียงกว้าง แลเห็นสองคนต่างวัยกำลังนอนกอดกันหลับสนิทน่าเอ็นดู แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจมากกว่านั้น นั่นคือมือเล็กๆของบุตรชายที่วางพาดลงบนเอวบางของซูอี้ซิน เฉินหยวนหยวนหวาดกลัวซูอี้ซินมากไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใดเขาถึงได้นอนกอดนางกลมเช่นนั้นเล่า

เสียงฝีเท้าหนักๆที่เดินเข้ามาทำให้เปลือกตาบางค่อยๆเปิดขึ้น เมื่อเห็นร่างสูงของใครบางคนยืนอยู่ข้างเตียงจึงทำให้นางเบิกตาขึ้นเล็กน้อย

"เจ้า..."

"ชู่ววว อย่าเสียงดังสิเจ้าคะ ลูกหลับอยู่นะ" นิ้วเรียวยื่นมาชิดริมฝีปากบางพร้อมหันไปมองร่างเล็กที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ เฉินหยางเห็นเช่นนั้นจึงผ่อนเสียงให้เบาลง

"เจ้าออกมาคุยกับข้าข้างนอก"

ซูอี้ซินลอบกลอกตามองบนเล็กน้อยด้วยความรำคาญ จากนั้นนางจึงค่อยๆหยัดกายลุกขึ้น จับมือเล็กที่วางพาดอยู่บนเอวบางของตนออก ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้เฉินหยวนหยวน

"จะทำอะไร" มือหนายื่นเข้ามากันปากบางจากแก้มของบุตรชายเอาไว้ด้วยความหวาดระแวง

"แค่จะหอมลูกเจ้าค่ะ ไม่ได้จะกัดหรอก ข้าไม่ใช่สุนัข" ซูอี้ซินรู้ว่าเฉินโหวหวาดระแวงเกรงว่านางจะทำร้ายลูกของเขา เขาไม่เคยเชื่อใจนาง  ทว่าหญิวสาวไม่สนใจหรอก นางจัดการปัดมือของเขาออก และก้มลงหอมแก้มนุ่มนิ่มของเจ้าก้อนแป้งเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว

และเมื่อร่างบางหย่อนกายลงจากเตียง เท้ายังไม่ทันจะได้แตะถึงพื้นดี จู่ๆนางก็ลอยหวือขึ้นจากพื้น เพราะคนตัวโตรวบนางเข้าเอวและก้าวดุ่มๆออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

ประตูเปิดออกทำให้สายตาทุกคู่หันไปมองผู้มาใหม่ ทุกคนต่างตกตะลึงไปตามๆกันที่เห็นเฉินโหวอุ้มฮูหยินอย่างสนิทสนม เป็นภาพที่พวกนางไม่เคยเห็นมาก่อน

"หลิวม่านพาหยวนเอ๋อร์กลับเรือนเล็ก"

"เจ้าค่ะ" หลิวม่านตอบรับคำของเจ้านาย ทว่านางยังส่งสายตามองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินจากไปอย่างไม่ละสายตา ความไม่พอใจฉายชัดขึ้นทางสีหน้าอย่างชัดเจน

"ดูเหมือนว่าเจ้าจะคิดผิดไปเสียแล้วล่ะหลิวม่าน" กู้หรงเปล่งเสียงหัวเราะออกมาดังๆด้วยความสะใจ หลิวม่านปรายตามองนางเล็กน้อย จากนั้นจึงแกล้งเดินกระแทกไหล่บางเดินเข้าไปในห้องตรงเข้าไปเฉินหยวนหยวนที่นอนอยู่ตามคำสั่งของเฉินโหว

เฉินหยางอุ้มคนตัวเล็กมาจนถึงสวนอุทยาน ทันทีที่ลับสายตาผู้คน เขาก็ทิ้งร่างเล็กลงอย่างไม่ไยดี ซูอี้ซินลงไปนอนก้นจ้ำเบ้าอยู่บนพื้นพลางส่งเสียงร้องโอดโอย มือบางลูบสะโพกของตนป้อยๆด้วยความเจ็บ

"ท่านโหว ข้าเจ็บนะ ข้าเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บมาแท้ๆ ไยไม่ถนอมกันบ้างเล่า" หญิงสาวยกมือเท้าสะเอวมองคนตัวโตอย่างเอาเรื่อง ทว่ามือหนาของเขากลับวางบนหน้าผากพลางดันนางออก

"อย่ามองข้าด้วยสายตาแบบนั้น"

"เหตุใดถึงจะมองไม่ได้ ทีท่านยังกลั่นแกล้งรังแกข้าได้เลย"

เฉินหยางไม่อยากต่อปากต่อคำกับนาง ทว่าเขากลับสังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง นับตั้งแต่วันที่นางฟื้นขึ้นมาจากอาการบาดเจ็บ ดูเหมือนว่านิสัยของซูอี้ซินจะเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน จากเดิมที่เป็นคนอาละวาด โมโหร้าย ทุบตีด่าทอบ่าวไพร่ และถึงขั้นลงมือทำร้ายเฉินหยวนหยวน แต่เรื่องราวเช่นนั้นกลับไม่มีให้เห็นอีกเลย

อีกทั้งนางยังไม่เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องเหมือนอย่างเคย เขารู้ว่านางแอบไปหาเฉินหยวนหยวนที่เรือนเล็กทุกวัน หากแต่เข้าไปไม่ได้เพราะเขาได้สั่งห้ามเอาไว้ แต่ไม่นึกเลยว่านางจะเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย ใช้เล่ห์เหลี่ยมวางแผนพาเฉินหยวนหยวนไปอยู่กับนางเช่นนี้จนได้

"เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่"

ซูอี้ซินรู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไร หญิงสาวจึงเชิดหน้าขึ้นประสานสายตากับเขาอย่างไม่เกรงกลัว

"ข้าคิดถึงลูก อยากอยู่กับลูกแค่นั้นเองเจ้าค่ะ"

"แน่ใจหรือว่าที่ทำไปเป็นเพราะคิดถึงลูก ไม่ใช่วางแผนหาทางเรียกร้องความสนใจจากข้านะ" ชายหนุ่มแค่นเสียงเหอะออกมาเบาๆ เฉินหยวนหยวนไม่ใช่บุตรชายจริงๆของนาง อีกทั้งยังไม่มีสายเลือดอันใดเกี่ยวข้องกัน นอกจากนี้นางยังเคยทำร้ายบุตรชายของเขามาก่อน ไม่รู้ว่านางหวังดีหรือประสงค์ร้ายกับเฉินหยวนหยวนกันแน่ แต่จะให้เขาเชื่อนางง่ายๆงั้นหรือ เป็นไปไม่ได้หรอก...

ซูอี้ซินรู้สึกปวดศีรษะไม่น้อย ไม่นึกว่าคนตรงหน้าจะหลงตัวเองถึงเพียงนี้

"ท่านโหว ดูปากของข้าดีๆนะเจ้าคะ ข้าไม่ได้ชอบ ไม่ได้รักท่าน และไม่เคยคิดที่จะเรียกร้องความสนใจจากท่านด้วย"

เฉินหยางได้ยินเช่นนั้น ดวงตาคมกริบพลันวาววับขึ้นมา เขาขยับเข้ามาใกล้พร้อมใช้มือบีบแขนของนางหนักๆหนึ่งหน

"ให้มันจริงอย่างที่ปากเจ้าว่าเถิด เพราะถ้าหากเจ้าคิดการชั่วทำร้ายหยวนเอ๋อร์ ข้าจะสังหารเจ้าทิ้งเสีย!" กล่าวจบเขาก็หันหลังก้าวเดินจากไป โดยมีซูอี้ซินเบะปากตามหลังเขาไป เฉินโหวก็เอาแต่ขู่นางอยู่นั่นแหละ ดุอย่างกับสุนัขก็มิปาน!

เวลาล่วงเลยผ่านไปจนเย็นย่ำ ท้องฟ้าที่สว่างไสวพลันมืดมิด มีเพียงแสงจันทร์ในตอนกลางคืนที่สาดส่องลงมาให้แสงสว่างอย่างสลัวๆ

เฉินหยางก้าวตรงไปยังเรือนเล็ก แลเห็นบุตรชายอยู่ในชุดพร้อมนอนกำลังนั่งเล่นของเล่นที่ทำจากไม้อยู่คนเดียวเงียบๆ ทันทีที่เขาเห็นผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาก็รีบวางของเล่นในมือลงพลางคลี่ยิ้มกว้าง

"ท่านพ่ออุ้มข้า"

เฉินหยางอุ้มเจ้าก้อนแป้งมาไว้ในอ้อมแขน จากนั้นจึงก้าวไปที่เตียงวางร่างเล็กลงบนตัก มือหนาลูบศีรษะเล็กไปมาอย่างอ่อนโยน

"วันนี้อยู่กับท่านแม่เป็นอย่างไรบ้าง" เขาถามในสิ่งที่สงสัย เด็กไม่พูดจาโกหก หากจะหาความจริงก็คงต้องถามจากเฉินหยวนหยวนนี่แหละ

"ท่านแม่ใจดี ท่านแม่เล่นกับข้า" เฉินหยวนหยวนบอกเล่าสิ่งที่เขาพบเจอมาในวันนี้ให้คนเป็นพ่อฟัง

"หยวนเอ๋อร์ไม่กลัวท่านแม่แล้วหรือ"

"ไม่กลัว ท่านแม่เล่านิทานให้ฟังด้วย" ดวงตากลมโตเปล่งประกายสดใส แม้กระทั่งหลิวม่านก็ยังไม่เคยเล่านิทานให้เขาฟังก่อนนอน ทุกๆคืนเมื่อถึงเวลาเข้านอน เขาจะต้องนอนอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางความมืด

แม้แรกๆจะกลัวจนร้องไห้ แต่เพราะไม่มีผู้ใดสนใจก็ทำให้ค่อยๆชินไปเอง จากความหวาดกลัวเปลี่ยนเป็นความชินชาไปในที่สุด

"งั้นหรือ..." เฉินหยางกล่าวพึมพำ แต่เขายังไม่ไว้ใจนางหรอก ตอนแรกๆที่แต่งงานกัน นางก็ใจดีกับบุตรชายของเขาเช่นนี้ แต่พักหลังก็ออกลายทำร้ายเจ้าก้อนแป้งจนเจ็บช้ำไปทั้งกายและใจ

"อยากหาท่านแม่" เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นพ่อ เขาคิดถึงท่านแม่ซูอี้ซิน อยากให้ท่านแม่เล่านิทานให้ฟังและนอนเป็นเพื่อนอีกครั้ง

"วันนี้ท่านแม่เข้านอนแล้ว พ่อจะนอนอยู่เป็นเพื่อนหยวนเอ๋อร์เอง ดีหรือไม่"

"ดีๆ นอนกับท่านพ่อ" มือเล็กกลมป้อมปรบมือแปะๆอย่างชอบใจ เฉินหยางจึงอุ้มบุตรชายวางลงบนเตียง จากนั้นเขาจึงเอนกายลงนอนเคียงข้าง

"ท่านพ่อ เล่านิทาน"

ภายในสมองของเฉินหยางครุ่นคิดอย่างหนักหน่วง เขาไม่เคยฟังนิทานก่อนนอนเสียด้วยสิ อีกทั้งไม่รู้ด้วยว่าจะเล่าอะไรให้บุตรชายฟังดี จึงคิดเล่าเรื่องสมัยที่ตนยังเป็นเด็กให้เจ้าก้อนแป้งฟังแทน

ด้วยชีวิตที่ราบเรียบของเขาไม่มีสิ่งใดที่น่าตื่นเต้น เฉินหยวนหยวนฟังไปนานๆก็เริ่มเบื่อหน่าย เขาจึงนิ่วหน้าเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจนัก

"ไม่สนุกเลย"

"..." เฉินหยาง

"ท่านแม่เล่าสนุกกว่า"

วาจาของเด็กน้อยทำให้คนเป็นพ่อลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะงานล้นตัวทำให้เขาไม่มีเวลาดูแลลูกอย่างที่ควร ภายในใจรู้สึกผิดไม่น้อยเลยทีเดียว เห็นทีว่าคราวหลังจะต้องให้อู๋เหล่ยไปกวาดซื้อหนังสือนิทานมาให้เสียแล้ว

"พ่อสัญญาว่าวันหลังจะทำให้ดีกว่านี้ ส่วนวันนี้ดึกแล้ว หลับเถอะนะลูก"

เฉินหยวนหยวนทำปากยื่นออกมาเล็กน้อย แม้จะอยากฟังนิทานต่อ แต่เขาเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่ขัดใจผู้เป็นพ่อ เจ้าก้อนแป้งหลับตาลงอย่างว่าง่ายโดยมีมือหนาของเฉินหยางตบลงบนก้นกลมๆเบาๆเพื่อกล่อมให้นอนหลับ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel