บท
ตั้งค่า

CHAPTER 7 รู้สึกเหมือนคนรู้จัก

ภายในคฤหาสน์หรูใจกลางเมือง บรรยากาศเย็นยะเยือกปกคลุมไปทั่วห้องรับแขกใหญ่ แม้จะตกแต่งอย่างประณีตงดงาม แต่บรรยากาศกลับอึดอัดราวกับขุมนรก

ธรรศชวินยืนพิงผนังมือทั้งสองข้างกำแน่นอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขามองวีณาผู้เป็นแม่ที่นั่งสงบนิ่งอยู่กลางโซฟาหนังแท้

“วินซ์ลูกได้ข่าวว่าลูกขอถอนหมั้นกับหนูอลิส แม่ไม่ยอมหรอกนะ” น้ำเสียงของวีณานุ่มนวลแต่ทรงอำนาจ

“ครับผมทำจริง” ชายหนุ่มพยักหน้านิ่ง

“ทำไม?” วีณาถามนิ่งๆ แต่สายตาเริ่มแข็งขึ้น

“เพราะผมไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก” เขาตอบเสียงเรียบ

“ความรักไม่ใช่สิ่งจำเป็นในชีวิตแต่งงานโดยเฉพาะในฐานะลูกชายคนเดียวของตระกูล ลูกต้องแต่งงานกับคนที่แม่คิดว่าดีเท่านั้น” วีณาวางแก้วน้ำในมือลงบนโต๊ะเสียงดัง

“แต่นั่นมันชีวิตของผมนะครับ ไม่ใช่ของคุณแม่” รอบนี้เขาจะไม่ยอมแม่อีกต่อไป ที่ผ่านมาเขายอมเสียสละมามากพอแล้ว

“แต่แม่เป็นคนให้ชีวิตกับลูกทุกอย่างที่ลูกมีชื่อเสียง ฐานะ การศึกษาแม่เป็นคนวางทั้งหมดไว้ให้!”

“แล้วผมต้องการมันไหม! คุณแม่เคยถามหรือเปล่าผมไม่อยากแบกภาระหน้าตาชื่อเสียงด้วยซ้ำไป” เขาย้อนถาม ดวงตาคมกริบเจือความผิดหวัง

“ชีวิตของแกเป็นของแม่ แม่ไม่ได้เลี้ยงแกมาเพื่อให้เดินตามใจตัวเอง แม่เลี้ยงแกมาเพื่อให้รับผิดชอบชื่อเสียงของตระกูล” คำตอบนั้นฟาดใส่เขาเหมือนฝ่ามือหนักๆ วีณาเริ่มเปลี่ยนน้ำเสียงให้ดูจริงจัง

“เข้าใจแล้วครับสุดท้ายผมก็เป็นแค่เครื่องมืออีกชิ้นที่แม่ปั้นขึ้นมาเพื่อวางไว้บนหิ้งให้ดูดี” เขาหัวเราะออกมาเบาๆ แต่เสียงนั้นเต็มไปด้วยความขื่นขม

“วินซ์ยอมแม่อีกสักเรื่องไม่ได้เหรอลูก” เมื่อรู้ว่าครั้งนี้ลูกชายเอาจริงจึงไม่กล้าบังคับมาก

“...” เขาเงียบแสดงว่าแม่ไม่รู้ว่าเขากับอลิสาถอนหมั้นกันแล้วจริงๆ อีกฝ่ายคงไม่กล้าพูดอะไรมากนัก เพราะเขาขู่จะแฉภาพถ่ายของอลิสาหากไม่ยอมถอนหมั้นดีๆ

“คุณแม่อย่าทำให้ผมหมดศรัทธาในการเกิดมาเป็นลูกชายของคุณแม่เลยครับ” เขาหันหลังเดินออกมา พอมาถึงหน้าบ้านเห็นพ่อยืนรออยู่แล้ว

“ปะทะกันมาอีกแล้วสิ” วาคินรู้นิสัยของลูกชายดีที่ยอมหมั้นคราวกันก็เกือบบ้านแตกกับข้างหนึ่ง

“ตามนั้นครับ”

“พ่อขอโทษนะที่บังคับลูกเกินไป วินซ์หากมีคนที่ถูกใจพ่อยินดีให้ลูกถอนหมั้นได้เลย”

“แล้วธุรกิจชื่อเสียงละครับ” เพราะทางบ้านของเขายังต้องเพิ่งพาอาศัยครอบครัวของอลิสาอยู่

“พ่อจะจัดการเอง” วาคินจะเข้ามากอดลูกแต่ธรรศชวินกลับถอยหลังไปหนึ่งก้าว เขาลดมือลงตบบ่าลูกชายแทนเขาบังคับลูกจนลูกถอยห่างออกไปเรื่อยๆ

“ผมขอตัวก่อนนะครับ”

เขาเดินไปแบบไม่หันกลับมามองพอขึ้นมาได้จึงฟุบใบหน้าลงที่พวงมาลัยรถ ทั้งเรื่องงานเรื่องหัวใจถาโถมเข้ามาพร้อมกัน จนเขารับมือแทบไม่ไหว

บรรยากาศในร้านอาหารริมแม่น้ำอบอวลไปด้วยแสงแดดอ่อนในยามบ่าย คิรันยิ้มสดใสพลางเล่าเรื่องตลกเรื่องล่าสุดในออฟฟิศ เสียงหัวเราะของเขาทำให้ปิ่นมุกเผลอยิ้มตาม แม้ในใจจะรู้สึกฝืนเล็กน้อย เพราะบางอย่างในตัวเธอยังรู้สึกว่างเปล่า

“ช่วงนี้ดูเงียบๆ นะมุกเป็นอะไรหรือเปล่า?” คิรันถามอย่างห่วงใย

“แค่รู้สึกแปลกๆ บางครั้งมันก็เหมือนขาดอะไรบางอย่างไป เหมือนใจมันโหวงๆ ทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังรออะไรอยู่” เธอแตะหน้าอกตัวเองเบาๆ และถอนหายใจออกมาอาการมักเกิดบ่อยๆ

ยังไม่ทันที่คิรันจะตอบอะไรสายตาของปิ่นมุกก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่เดินเข้ามาในร้านอาหารโดยบังเอิญ ร่างสูงในชุดเชิ้ตดำสะอาดสะอ้าน กับใบหน้าคมดุดันแต่เศร้าลึกอย่างบอกไม่ถูก อีกฝ่ายมองไม่เห็นเพราะเธอนั่งอยู่ในห้องวีไอพี

หัวใจของปิ่นมุกกระตุกวูบดวงตาของเธอเบิกกว้างทันทีที่สบตาเขา ราวกับโลกทั้งใบหยุดเคลื่อนไหว ทุกเสียงในหัวหายไป เหลือเพียงจังหวะหัวใจของเธอที่เต้นแรงจนแทบระเบิดออกมา

เขาคุ้นเหลือเกินแต่เธอจำอะไรไม่ได้ ทันใดนั้นความปวดแล่นวาบขึ้นมาที่ขมับ

“โอ๊ยยย” เธอขมวดคิ้วมือข้างหนึ่งยกขึ้นแตะขมับข้างซ้ายอย่างไม่รู้ตัว

“มุกเป็นอะไรหรือเปล่า?” คิรันรีบจับมือเธอ

เธอส่ายหน้าเบาๆ ดวงตายังไม่ละไปจากผู้ชายคนนั้น คนที่ไม่รู้จักชื่อ แต่คุ้นราวกับเคยรู้จักกันมาทั้งชีวิต

“แค่ปวดหัวขึ้นมามุกขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เธอรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ ใช้มือนวดขมับเบาๆ จนอาหารเริ่มดีขึ้น

“เขาเป็นใคร…” เธอพึมพำเบาเหมือนพูดกับตัวเองรูปร่างแบบนั้นเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังเข้ามาในโสตประสาท

“ผมขอรู้จักชื่อคนสวยได้ไหมครับ”

เสียงนั้นความรู้สึกนั้น แม้สมองจะลืมไปหมดแล้ว แต่หัวใจเธอกลับจำเขาได้อย่างแม่นยำ เธอรีบส่งข้อความบอกคิรันว่าไม่สบายและขอกลับก่อน ไม่ลืมจะขอโทษเขาที่ต้องโกหกออกไป

ด้านธรรศชวินเขามองไปยังทางไปห้องน้ำตลอดเพราะเมื่อสักครู่เหมือนเขาจะเห็นหญิงสาววิ่งเข้าไป เขาเห็นแค่แวบเดียวแต่ไม่สามารถละสายตาได้เลย

“มองอะไรวะ” เอกวินหันมองไปตามที่เพื่อนมองแต่ทุกอย่างกับว่างเปล่า

“เปล่าวะ”

“ไอ้วินซ์ทำหน้าแบบนี้ทะเลาะกับคุณหญิงวีณาอีกแล้วนะสิ” เขาเดาไม่ผิดสงสารเพื่อนที่โดนบังคับแบบนั้น

“อืม แต่มีเรื่องให้เครียดกว่า”

“เรื่องสาวที่ไหนมึงยังตามหาน้องเขาอีกเหรอ” น้องที่ว่าคือปิ่นมุก เพราะธรรศชวินมาเล่าให้เขาฟังตั้งแต่หญิงสาวหายไปจากชีวิต

“ฉันรู้สึกเหมือนเขาอยู่ใกล้ตลอดเวลา” อย่างเมื่อสักครู่เขาคิดว่าเป็นปิ่นมุก

“คนนะไม่ใช่ผี”

“เรื่องงานเลี้ยงพรุ่งนี้ฉันขอบายนะ นายไปแทนเลย”

“ไม่ได้! แม่ฉันบอกให้ชวนนายมาด้วยนี่การ์ดเชิญไม่ไปฉันจะไปลากคอถึงที่บ้าน”

เขามองการ์ดเชิญด้วยความว่างเปล่า เบื่อสังคมเบื่อผู้คนที่ต้องปั้นหน้ายิ้มให้กัน

“คุณอลิสาไม่ได้การ์ดเชิญแน่นอนสบายใจได้” เขารู้ว่าเพื่อนไม่อยากออกงาน เพราะไม่อยากเป็นข่าวกับอลิสา

“ขอบใจไอ้เอก”

“เย็นนี่เจอกันที่เดิม” ที่เดิมที่หมายถึงไม่พ้นผับหรู ช่วงนี้ธรรศชวินเริ่มกลับมาเที่ยวอีกครั้ง หลังจากที่หายเงียบไปสักพัก

ภายในห้องนั่งเล่นของคอนโดหรูเสียงเพลงคลอเบาๆ เปิดอยู่ด้านหลัง ขณะที่อลิสานั่งกอดหมอนหน้าเครียด สีหน้าหงุดหงิดไม่ต่างจากวันที่เพิ่งถูกประกาศถอนหมั้นอย่างเป็นทางการ

“แล้วเขาก็พูดแค่นั้นนะเชอรีน! ว่าไม่มีทางแต่งงานกับพี่ได้ พี่ผิดตรงไหนก็พี่รักเขานี่!” เสียงของอลิสาสั่นอย่างหงุดหงิด ใบหน้าแต่งจัดดูซีดลงเพราะความเครียด

“พี่อลิสจะว่าไปนะ ผู้ชายไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่เราจะหวงแล้วมันจะเชื่อง ยิ่งโวยวายยิ่งหึงยิ่งถามฟาดฟัน ใครมันจะอยากอยู่ด้วย” ปลายสายที่อยู่ต่างประเทศพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก

“ก็พี่แค่ไม่ชอบที่เขาไปยุ่งกับผู้หญิงอื่น!” อลิสาขมวดคิ้ว เธอรักเขาอยากให้เขาให้เกียรติทั้งต่อหน้าและลับหลัง ผู้หญิงก็ไม่รู้เป็นอะไรยิ่งรู้ว่าผู้ชายมีเจ้าของยิ่งยากเข้าหา

“ไม่มีใครชอบหรอกแต่นั่นแหละมันคือสิ่งที่พี่ต้องเลิกทำทันที”

“ตอนนี้เขาขอถอนหมั้นแล้วพี่จะทำยังไงต่อ”

“ผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงที่โวยวายแบบคนไม่มีชั้นเชิงหรอก พี่ต้องเปลี่ยนวิธี คิดซะว่าเขาไม่ใช่ของเรา แต่เราจะทำให้เขาอยากเป็นของเราเข้าใจมั้ย?”

“ให้พี่ตามจีบเขาใหม่เหรอ?” อลิสายังดูลังเลเล็กน้อย

“แน่นอนค่ะ แต่ต้องจีบแบบผู้ดีมีเชิงไม่ใช่ผู้หญิงคลั่งรักนิ่งหวานเข้าถึงง่ายแต่ไม่ให้จับต้องง่าย เอาใจเขาพูดให้น้อยแต่ทำให้มาก แล้วก็จำไว้อย่างหนึ่ง…”

เชอรีนยิ้มอย่างมั่นใจ “เขาจะมีผู้หญิงอื่นก็ปล่อยเขาไปพี่สวยพี่รวย เราไม่ควรลดค่าตัวเองไปหึงหวงผู้หญิงไร้ระดับ อย่าแคร์ค่ะมองบนแล้วยิ้มเชิดใส่ แล้วตีเนียนเข้าหาเขาแบบนางพญา”

อลิสาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่รอยยิ้มจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยแรงผลักดันความมั่นใจ และไฟในใจที่กำลังลุกโชน

“พี่จะพยายาม”

“ผู้หญิงฉลาดไม่ร้องไห้หาผู้ชาย แต่เปลี่ยนเกมให้ผู้ชายวิ่งกลับมาเอง” เชอรีนหัวเราะเบาๆ และขอวางสายเพราะต่างประเทศก็ดึกมากแล้ว

“เดี๋ยวเชอรีนแกจะกลับเมื่อไหร่”

“เร็วๆ นี่แหละค่ะมีเรื่องต้องไปจัดการ” แววตาของเชอรีนดุร้ายขึ้นมายามนึกถึงประเทศไทย เธอกลับไปคราวนี้อะไรที่เธออยากได้ต้องเป็นของเธอเท่านั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel