บท
ตั้งค่า

Chapter 9

@บ้านตระกูลไฉ

รถเก๋งคันเล็กขับเข้ามาจอดบริเวณบ้านทรงจีนโบราณห้าชั้น โดยที่ชั้นหนึ่งและชั้นสองแบ่งเป็นออฟฟิศของต้าเหนิงดีไซน์ ส่วนชั้นสามถึงห้าเป็นที่พักอาศัยของคนในบ้าน

วิกกี้เดินเข้าไปยังตัวบ้านและตรงไปยังห้องทำงานประมุขของบ้าน ป้ายหน้าห้องระบุไว้ว่า ประธานกรรมการ บริษัท ต้าเหนิงดีไซน์ จำกัด

มือเรียวเล็กยกมือเคาะประตูห้องสองสามครั้ง ก่อนที่จะผลักเปิดประตูเข้าไป แล้วเดินเข้าไปในห้อง

“สวัสดีค่ะคุณลุง” วิกกี้ยกมือไหว้คนในห้องอย่างนอบน้อม ก่อนจะนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างหน้าโต๊ะทำงานไม้ตัวใหญ่

“เป็นยังไงบ้างลูก ได้งานโพรเจกต์จากดีแลนด์ไหม” หมิงผู้เป็นคุณลุงของวิกกี้เอ่ยถามอย่างมีความหวังเป็นอย่างมาก หากได้โพรเจกต์นี้ ธุรกิจครอบครัวของเขาคงจะฟื้นตัวกลับมาดีดังเดิมแน่นอน

ยิ่งถ้าได้ร่วมงานกับดีแลนด์โฮเทลด้วยแล้ว ต้าเหนิงอาจจะมีลูกค้าเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ เพราะมันเป็นการการันตีความไว้วางใจจากดีแลนด์โฮเทลบริษัทยักษ์ที่บริษัทออกแบบต่างอยากร่วมงานด้วย

“ผลตัดสินใจน่าจะออกสัปดาห์หน้าค่ะคุณลุง” วิกกี้ที่เห็นแววตาเป็นประกายของผู้มีพระคุณ เธอไม่กล้าบอกความจริง ว่าเธอจะไม่เอางานโพรเจกต์นี้แล้ว เพราะข้อเสนอบ้าๆ ของดินแดน

“แล้วหนูคิดว่ามันพอจะมีหวังไหมลูก หากเราได้โพรเจกต์นี้ ลุงเชื่อว่าธุรกิจของเราฟื้นตัวแน่นอน”

“เอ่อ คือว่า วันนี้มีบริษัทออกแบบกว่ายี่สิบบริษัทเลยค่ะ ที่ร่วมประมูลงานที่ดีแลนด์โฮเทล” ถึงจะมีบริษัทมากกว่าเข้าร่วมประมูลงาน แต่ทว่ามันก็ไม่น่าสิ้นหวังกับที่เขาบอกเธอว่างานออกแบบของเธอนั้นไม่น่าสนใจ แต่ที่งานมันน่าสนใจเพราะความอคติของเขาต่างหาก

หมิงนิ่งเงียบไปพักหนึ่งอย่างครุ่นคิด ก่อนที่เขาจะพูดว่า “หนูต้องช่วยลุง เพื่อตระกูลของเรา พรุ่งนี้หนูต้องไปกินข้าวกับเฮียเฉิง ทางนั้นนัดหนูมาแล้ว” หมิงเอ่ยพูดพร้อมมองหน้าวิกกี้

“...” วิกกี้กลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่งอย่างลำบากใจ นี่คือสิ่งที่เธอหนี แต่มันกำลังวนกลับมาหาเธออีกแล้ว

“ลองไปกินข้าว ดูนิสัยใจคอกันดูนะ เฮียเฉิงเขารอกี้มาตลอดสามปี จะมีผู้ชายที่ไหนซื่อสัตย์กับผู้หญิงได้แบบนี้ อีกทั้งเขามีฐานะที่ร่ำรวย ถ้ากี้ได้แต่งงานกับเขา ไม่เพียงแต่หนูจะสบายนะลูก”

“แต่หนูไม่ได้ชอบเฮียเฉิง”

“แต่หนูต้องทำเพื่อตระกูล หากเราไม่ได้งานโพรเจกต์จากดีแลนด์ ก็ยังมีครอบครัวของเฮียเฉิงมาช่วยพยุงบริษัทของตระกูลเรา”

“...”

“ลุงเลี้ยงหนูมาตั้งแต่เด็กตัวเล็กๆ จนจบปริญญาตรี ลุงไม่เคยเรียกร้องอะไรจากหนูนอกจากเรื่องนี้เลย ทำเพื่อลุงสักครั้งได้ไหม” พอเห็นหลานสาวนิ่งเงียบ หมิงก็พูดเรื่องที่ผ่านมาให้วิกกี้ได้สำนึกในบุญคุณของเขาด้วยน้ำเสียงนิ่ง

“ค่ะ งั้นหนูขอตัวนะคะคุณลุง” วิกกี้พยักหน้าตอบรับ

“อย่าเบี้ยวนัดนะลูก อย่าทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโตเหมือนเมื่อสามปีก่อน” หมิงพูดดักทางวิกกี้

“ค่ะคุณลุง” วิกกี้ตอบรับผู้เป็นลุง เธอหยัดตัวลุกขึ้น ก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากห้อง

“เป็นไงบ้างวิกกี้ ได้งานโพรเจกต์ไหม” เหมยลี่ลูกพี่ลูกน้องที่เหมือนว่าพึ่งตื่นนอนเอ่ยถามพร้อมปิดปากหาวไปด้วย

“ไม่รู้สิ” วิกกี้เอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจ

“หึ คงไม่สำเร็จอีกตามเคยน่ะสิ นี่น่ะเหรอคนที่อุตส่าห์หนีไปเรียนไกลถึงอังกฤษ” เหมยลี่ที่ไม่เคยพูดดีกับวิกกี้ได้นาน พูดจาถากถางขึ้นมาทันที

“เก็บปากไว้กินข้าวเถอะยัยเหมย แล้วก็หัดตื่นเช้าๆ มาทำงานบ้าง” วิกกี้เบะปากใส่ญาติผู้น้องที่ไม่ค่อยถูกชะตากันมาตั้งแต่เด็ก

“อีกี้ มึงปากดีจังนะ” เหมยลี่ชี้นิ้วด่าวิกกี้

“อย่ามาชี้นิ้วใส่กูอีเหมย”

“หยุด! เจอกันไม่ได้เลยสองคนนี้ กี้ไปพักผ่อนเถอะลูก แล้วพรุ่งนี้ก็อย่าลืมไปตามนัด” หมิงผู้เป็นพ่อของเหมยลี่เอ่ยห้ามศึกทั้งสองสาว

“ค่ะ” วิกกี้พยักหน้า ก่อนที่เธอจะเดินออกจากบ้านทรงจีนโบราณห้าชั้นไปด้วยอารมณ์เซ็งๆ ใครหลายคนอาจมองว่าครอบครัวเป็นเซฟโซนที่ดีที่สุด แต่ทว่าเธอกลับมองมันเหมือนนรกแห่งการทวงบุญคุณมากกว่า วิกกี้ยกมือเสยผมลวกๆ แล้วขึ้นรถขับรถมุ่งหน้าไปคอนโด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel