ตอนที่ 2 วายุ (1)
“พระเจ้า เชอร์รีน”
วาคินอุทานขึ้นมาเบาๆ เมื่อเห็นรอยแดงมากมายบนหลังเธอ
เชอร์รีนปิดปากเงียบและกลั้นลมหายใจ เมื่อชายหนุ่มรู้ว่าเธอไม่อยากพูดถึงมัน เขาก็เข้าใจแล้วไม่พูดต่อ เขาเริ่มทายาเบาๆ โดยที่ลมหายใจเขาเองก็เริ่มสะดุดห้วงแบบช้าๆ
หลายครั้งที่เชอร์รีนต้องหันหลังมามองหน้าแดงก่ำของเขา แต่เขาก็พยายามฝืนร่างกายวัยหนุ่มทายาให้เธอให้เสร็จ เพราะความสงสารของเขาที่มีต่อเธอมันมากกว่าอารมณ์ทางเพศของเขา เขาจึงข่มมันไว้ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะนานอีกสักแค่ไหนนะ
“เสร็จแล้วครับ” น้ำเสียงอ่อนโยน เอ่ยขึ้นมาเมื่อทายาเสร็จ
“ขอบคุณมากนะคะ” เชอร์รีนรู้สึกดีใจกับความเอาใจใส่ของเขาและเผลอใจเต้นกับชายหนุ่มไปโดยที่ตัวเธอเองก็ควบคุมไม่ได้
เมื่อเธอสวมเสื้อเสร็จก็ช้อนสายตาขึ้นมองเขาอีกครั้ง ดวงตาของเขาอ่อนโยนเหมือนครั้งแรกที่เธอเห็นเจอเขา แต่ภายในแววตามันกลับลุกโชนไปด้วยแรงปรารถนาจนเธอมองออกว่าเขาต้องการอะไร กายสาวเองก็โหยหาความอบอุ่นจากเขาไม่น้อย
ความอบอุ่นที่เธอจะไม่มีวันได้รับจากผู้เป็นสามี เมื่อริมฝีปากเล็กเผยอรอคอย โดยที่ตัวเธอเองยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำแบบนั้นออกไปเองได้อย่างไร ร่างกายชายหนุ่มก็ประกบริมฝีปากลงไปอย่างเบาบาง แผ่วเบาแต่อบอุ่น เรียวลิ้นทั้งสองตวัดลิ้มชิมรสหวานและไออุ่นที่ต่างฝ่ายต่างมอบให้กันอย่างอ้อยอิ่ง เป็นความอบอุ่นที่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
แต่ไม่นานนักทั้งคู่ก็ต้องผละออกจากกัน เมื่อคิดว่ามันอาจจะล้ำเส้นไปมากกว่านี้ เขาจ้องมาที่ดวงตาของเธอโดยไม่พูดอะไร และเธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับเขาเช่นกัน
“ผม…ออกไปก่อนนะครับ” เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินออกไป
ภายใต้ความรู้สึกผิดทั้งคู่ต่างกำลังใจเต้นและรุ่มร้อนกับความรู้สึกของร่างกายที่ไม่อาจความคุมได้ของหนุ่มสาว
ตุ๊บ
คนงามล้มตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ ผ้าปูที่นอนที่เปรอะเปื้อนถูกเอาไปซักโดยแม่บ้านและถูกเปลี่ยนใหม่ให้สะอาดสดชื่น ความหอมของมันช่วงบรรเทาความตึงเครียดของเธอลงได้บ้าง และจูบของคนที่พึ่งทิ้งกลิ่นหอมของน้ำหอมยี่ห้อแพงออกไปเมื่อกี้ก็ทำเอากายสาวผ่อนคลายไปด้วย
น่าอาย ที่จะต้องยอมรับว่ารู้สึกดีกับจูบนั่นมากแค่ไหน
เฮ้อออ
เชอร์รีนถอนหายใจอีกครั้งแล้วก้าวล่วงเข้าสู่ห่วงนิทราด้วยความเหนื่อยอ่อน
ตกเย็นเชอร์รีนออกมาเดินเล่นที่สวนหลังบ้านก็เจอกับวายุนั่งสูบบุหรี่อยู่ หน้าเขาแดงก่ำเหมือนคนเมา อีกทั้งกลิ่นแอลกอฮอล์ก็ลอยคละคลุ้งมาแม้จะอยู่ไกลๆ ก็ยังได้กลิ่น
อะไรกันยังไม่ค่ำเลยหมอนี่เมาแล้วงั้นหรอ เธอคิดในใจแล้วคิดจะเดินหนีให้ห่างจากเขา เพราะเขาให้อารมณ์เจ้าพ่อเจนสอง อย่างเห็นได้ชัด
มันชัดมากจนเธอขยาดและหวาดกลัวลูกชายคนเล็กของบ้าน
“แหม ไม่เห็นต้องทำท่ารังเกียจกันขนาดนั้นเลย”
น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่าเมาหนักมาก มันสะเปะสะปะลิ้นพันกันจนอีกคนรู้ได้ อะไรกันตะวันยังไม่ตกดินเลยแท้ๆ
