ตอนที่ 1 วาคิน (5)
เจ้าพ่อพูดขึ้นมานิ่งๆ แต่น้ำเสียงข่มขู่อย่างแรงจนพวกเขาทั้งสามคนกลัว
“ใครสน”
เสียงเขาพึมพำเบาๆ ดังมาจากปากคนน้องก่อนจะตักข้าวเข้าปาก
“ใครสนนายล่ะ เชอร์รีนกวนบาทากลับไป”
ทำเอาน้องเล็กถึงกับสะอึกถลนตาใส่ แต่ไม่กล้าพูดต่อเพราะกลัวพ่อดุ
เจ้าพ่อออกจากบ้านไป เหลือเพียงความโล่งใจให้เชอร์รีน การกระทำดิบเถื่อนของเขาเมื่อคืนส่งผลให้เชอร์รีนหวาดกลัวอย่างหนัก แต่เธอมีทางเลือกซะที่ไหนกันล่ะ ยังไงก็ต้องทนอยู่จนกว่าเจ้าพ่อจะเบื่อและยอมปล่อยเธอไป
เธอนั่งมอง มือถือเครื่องใหม่ บัตรเครดิตใบหรู สมุดบัญชีธนาคารที่บอกตัวเลขสูงลิ่ว และเงินสดมากมายที่กองอยู่ให้เธอใช้อย่างไม่มีจำกัด
แต่หัวใจของเชอร์รีนกลับว่างเปล่า ไม่มีแม้กระทั่งแรงที่จะดีใจกับสิ่งเร้าพวกนี้ ทั้งๆ ที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงกระโดดโลดเต้นและออกไปใช้มันอย่างมีความสุข
น้ำใสๆ ค่อยๆ รินรดออกมาจากดวงตากลมโตสีน้ำตาล แต่เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอก็รีบปาดน้ำตาจากหางตาทันทีแล้วขานรับเสียงนั้น
“เชอร์รีน ผมมาดูเอ่อ ช่วยเปิดประตูให้หน่อยได้มั้ยครับ”
น้ำเสียงที่อบอุ่นปานแสงอาทิตย์ที่เหมือนจะช่วยเยียวยาหัวใจได้ชั่วครู่ดังขึ้น เธอเปิดประตูให้อย่างไว้เนื้อเชื่อใจเพราะเป็นเสียงของ วาคิน ผู้แสนอ่อนโยนดวงตาของเขาไม่มีความโกหกแฝงอยู่ เขาอาจจะอยากทำดีกับเธอจริงๆ ก็ได้
และใช่ วาคินผู้แสนอ่อนโยนเป็นคนแบบนั้น
เขาเดินมาพร้อมความเห็นอกเห็นใจและกล่องปฐมพยาบาลกล่องเล็กๆ สองขาก้าวฉับเข้าประตูมาโดยถือวิสาสะ เขานั่งลงบนเตียงใหญ่ของเธอแล้วเรียกเธอมานั่ง
“มานั่งสิ ให้ผมดูแผลให้นะครับ”
คำพูดแสนสุภาพอ่อนโยนมันช่วยเยียวยาหัวใจอันบอบช้ำของเชอร์รีนจนเธอแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ แล้วเดินเข้าไปนั่งข้างหน้าเขาแต่โดยดี
เขาสังเกตเห็นแม้กระทั่งรอยแดงจากมุมปากของเธอสินะ เชอร์รีนได้แต่คิดในใจแล้วน้ำตาที่เก็บกักไว้ก็ดันร่วงมาไม่หยุด
ชายหนุ่มมองเธอด้วยสายตาเวทนาอย่างยิ่งยวดและส่ายหัวกับชะตากรรมของเธอ เธอยังสาวและสวยควรได้ใช้ชีวิตและโบยบินอย่างอิสระ แต่กลับถูกพ่อของเขาทำร้ายถึงเพียงเพียงนี้ เขาค่อยๆ ลูบไปที่แผลบนปากของเธอ
“เจ็บมากมั้ย”
เขาถามอย่างอ่อนโยนและห่วงใย มือหนาลูบไปมาอย่างทะนุถนอมเหมือนกลัวว่าปากเธอจะแตกสลายไป
“เจ็บค่ะ”
ไม่รู้ผีอะไรเข้าสิงเชอร์รีนถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เจ็บขนาดนั้นแต่เธอแค่อยากอ้อนเขาและอยากใช้เขาเป็นที่พักพิงใจ เธอจึงตอบไปแบบไม่คิดหน้าคิดหลังเท่าไหร่นัก
