Ep.14
หอพัก…
“พี่แน่ใจจริงๆ แล้วใช่ไหมว่าจะย้ายมาอยู่ที่นี่?” สองกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความลำบากใจ หลังจากที่ได้มาเห็นห้องพักที่พี่สาวของเธออาศัยอยู่ มันเป็นแค่เพียงห้องเช่าเล็กๆ ที่ไม่มีแม้แต่พัดลมหรือเครื่องอำนวยความสะดวก
“พี่ตัดสินใจแล้ว ที่นี่อยู่ใกล้ที่ทำงาน จะได้ไม่ต้องเสียเวลานั่งรถไกล” หนึ่งตอบกลับ พลางนั่งจัดข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวให้เข้าที่
“แต่สองเป็นห่วง สองไม่อยากให้พี่มาอยู่ที่นี่”
“…..”
“อยู่บ้านเสี่ยก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรอพี่หนึ่ง ทำไมถึงต้องย้ายออกมาด้วย?” เธอมองหน้าพี่สาวอย่างต้องการคำตอบ เพราะจู่ๆ หนึ่งก็เดินเข้ามาบอกเธอว่าจะย้ายออกกระทันหัน โดยที่เธอเองก็ยังไม่ได้เตรียมใจมาก่อนเลยสักนิด
“ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว พี่ก็ต้องย้ายออกมาอยู่ดี”
“พี่มีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่า เล่าให้สองฟังได้ไหม”
“มะ…ไม่มี พี่ไม่ได้เป็นอะไร” หนึ่งพยายามควบคุมน้ำเสียงของเธอไม่ให้สั่นเครือไปมากกว่านี้ เธอเลือกที่จะหนีออกมาโดยไม่บอกให้ชายหนุ่มได้รับรู้ ถึงต่อให้เขารู้ มันก็คงไม่ได้สำคัญอะไรกับเขามากมายนัก
“แต่สอง…”
“พี่อยากให้สองเคารพการตัดสินใจของพี่นะ”
“…..” สองมองหน้าพี่สาวอย่างจนปัญญาเมื่อได้ยินน้ำเสียงและท่าทางหนักแน่นของเธอ
“ไม่ต้องเป็นห่วง พี่อยู่ได้จริงๆ”
“ถ้าอยู่ที่นี่ไม่สบาย พะ…พี่ก็กลับมาหาสองนะ” เมื่อกลั้นน้ำตาต่อไปไม่ไหว เธอจึงปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย
“เลิกร้องไห้ได้แล้ว พี่แค่ย้ายออกมา ไม่ได้จะตายสักหน่อย” หนึ่งเลื่อนมือไปเช็ดน้ำตาออกให้คนตัวเล็กที่ยืนร้องไห้งอแงอยู่ตรงหน้าเธอ
“แต่สองเป็นห่วงพี่”
“เดี๋ยววันหยุดพี่จะเข้าไปเยี่ยมสองกับน้องบ่อยๆ นะ” หนึ่งพยายามพูดปลอบใจคนตัวเล็ก เพียงแค่รอให้ทุกอย่างมันเข้าที่มากกว่านี้ เธอถึงจะไปรับน้องชายอีกคนมาอยู่ด้วย
“ฮึกกก พี่หนึ่ง”
“พี่สัญญา ถ้าอยู่ที่นี่มันไม่โอเค พี่จะกลับไปอยู่กับสองเหมือนเดิม”
“พี่สัญญาแล้วนะ”
“อืม พี่สัญญา” ริมฝีปากบางฝืนยิ้มออกมา ก่อนจะมองหน้าน้องสาวที่เอาแต่ร้องไห้อยู่แบบนั้น
เธอกับน้องไม่ได้อยากห่างกัน แต่เหตุ
การณ์เลวร้ายที่ได้เจอมา มันบีบบังคับให้เธอต้องทำแบบนี้ ถ้าไม่ตัดสินใจออกมา เธอก็จะกลายเป็นผู้หญิงไร้ค่า ที่เขาคิดจะมาย่ำยีเมื่อไหร่ก็ได้
บ้านใหญ่…
“หนูควรทำยังไงดีคะเสี่ย หนูไม่อยากให้พี่หนึ่งไปอยู่ที่นั่นเลย” สองเอาแต่นั่งก้มหน้าร้องไห้ทันทีที่มาถึงบ้านชายหนุ่ม
“…..”
“เสี่ยช่วยหนูหน่อยได้ไหมคะ หนูสงสารพี่”
“แล้วเธออยากให้ฉันทำอะไร?” เสี่ยถามกลับ ก่อนถอนหายใจออกมาแบบหนักๆ เมื่อเห็นว่าคนรักร้องไห้ฟูมฟายไม่หยุด
“เสี่ยช่วยไปคุยกับพี่หนึ่งให้หนูหน่อยได้ไหม?”
“…..”
“ถ้าเสี่ยไปคุย พี่หนึ่งต้องยอมกลับมาแน่ๆ”
“จะกลับหรือไม่กลับ มันไม่ได้อยู่ที่ฉัน” ดวงตาคู่คมเหลือบมองไปยังพี่ชายที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองด้วยอาการงัวเงีย
“เสี่ยพูดแบบนี้หมายความว่าเสี่ยจะไม่ยอมช่วยหนูหรอคะ?”
“อยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น”
“แต่นั่นมันพี่หนูทั้งคนนะคะ จะให้หนูทิ้งพี่หรือไง!?” คนตัวเล็กโวยวายอย่างเอาแต่ใจเมื่อได้เห็นท่าทางเมินเฉยของแฟนหนุ่ม ทั้งๆ ที่เสี่ยสามารถช่วยเธอได้ แต่เขากลับไม่ทำ
“เชื่อฉันว่าอีกไม่นานพี่เธอต้องกลับมา” เสี่ยกอดอกพูดอย่างมั่นใจ ก่อนหันไปสบตากับเสือที่กำลังเดินมาทางพวกเขาพอดี
“แล้วเสี่ยจะรู้ได้ยังไง?” สองถามอย่างไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่เธอเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้ แต่เสี่ยก็ยังนิ่งเฉย ราวกับไม่ได้ให้ความสำคัญ
“ไอ้เสือมันทนเห็นพี่เธอลำบากไม่ได้หรอก ยังไงมันก็ต้องไปตามเมียมันกลับคืนมา!”
“เมื่อกี้สะ…เสี่ยว่าไงนะคะ หนูได้ยินไม่ชัด” สองทวนถามอีกครั้ง หลังจากที่เอาแต่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น เลยทำให้ไม่ค่อยได้ยินในสิ่งที่ชายหนุ่มพูด
“ช่างมันเถอะ ฉันก็แค่บ่นไปเรื่อยเปื่อย”
“…..”
“พี่เสือจะออกไปไหนหรอคะ?” คนตัวเล็กเอ่ยถาม ในขณะที่เสือกำลังจะเดินผ่านไป
“ถามทำไม?” ชายหยุดชะงักก่อนจะเดินกลับมาหาหญิงสาวที่นั่งอยู่
“นะ…หนูแค่เห็นว่าตอนนี้มันดึกมากแล้ว ก็เลยถามดูค่ะ” สองตอบอย่างกล้าๆ กลัวๆ เมื่อเห็นท่าทางหงุดหงิดของคนตัวโต กลิ่นเหล้าคละคลุ้งที่พ่นออกมาจากลมหายใจ บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าคงผ่านการดื่มมาอย่างหนัก
“ไปกินเหล้า อยากจะไปด้วยไหมล่ะ?” สิ้นประโยค เสือก็โน้มใบหน้าคมคายลงมากระซิบที่ข้างใบหูของหญิงสาวด้วยอาการมึนเมา โดยมีสายตาของเสี่ยที่จับจ้องมองมาทางเขา
“เอ่อ…” ร่างบางอึกอัก ก่อนจะขยับถอยหนี วันนี้เขาดูอารมณ์ฉุนเฉียวมากกว่าทุกวัน
“อย่าเข้าใกล้เมียกู ถอยออกไป!” เสี่ยตวาดดังลั่น ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปหาพี่ชายอย่างเอาเรื่อง
“…..” เสือแค่นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน แต่ก็ไม่ได้ขยับถอยหนีแต่อย่างใด
“กูบอกให้ถอยไป!” เสี่ยเลื่อนมือไปกำขวดเหล้าที่วางอยู่แถวนั้นไว้แน่น เขาพร้อมจะฟาดใส่พี่ชายทันทีถ้าเกิดว่าเสือยังไม่หยุดลุ่มล่ามกับหญิงสาว ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเป็นการกวนประสาทของพี่ชายแต่เขาก็รู้สึกอดไม่ได้ยู่ดี
“หงุดหงิดแล้วอย่าพาลมากัดเมียกู จะไสหัวไปไหนก็ไป!”
“จับนิดหน่อย ไม่ได้หรือไง?”
“ลองให้กูจับเมียมึงดูบ้างไหมล่ะ?”
“…..” เสือหยุดชะงักไปเมื่อได้ยินประโยคนั้น แต่แล้วเขาก็ต้องรู้สึกกระสับกระส่ายร้อนรนเมื่อใบหน้าแสนหวานของหนึ่งค่อยๆ ลอยวนเข้ามาในความคิด แบบที่ไม่เคยเป็นและรู้สึกกับผู้หญิงคนไหน
“เมียใครๆ ก็หวง เรื่องนี้มึงก็น่าจะรู้ดี!” เสี่ยพูดด้วยน้ำเสียงกระแทกแดกดันใส่พี่ชายที่ยืนอยู่
“หึ!”
เพล้ง!! ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มอย่างเย้ยหยันมองหน้าน้องชายอย่างไม่หวั่นเกรงก่อนจะเดินออกไปเตะข้าวของที่ขวางทางเขาจะแตกกระจายไปคนละทิศละทาง เพียงแค่คิดเห็นถึงหน้าเธอ เขาก็รู้สึกว่าควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้อีกต่อไป
“ทำ…ทำไมคุณเสือเขาดูโมโหจังเลยล่ะคะ?” สองรีบวิ่งไปหลบข้างหลังของเสี่ย พร้อมกับมองแผ่นหลังของเสือที่เดินจากไป
“อาการของคนขาดเมียก็เป็นแบบนี้แหละ”
“แล้วเสี่ยรู้ได้ยังไง?” คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นใบมองชายหนุ่มด้วยความสงสัยหลังจากที่ได้ยืนประโยคนั้น เธอไม่เข้าใจความหมายที่เสี่ยพูดเลยด้วยซ้ำ
“เพราะฉันเคยเป็นมาก่อน”
“…..”
“แต่ฉันยังโชคดีกว่ามันที่รู้ตัว ไม่เหมือนมันที่กำลังจะคลั่งตายเพราะไม่รู้หัวใจตัวเอง” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ พร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยหน่าย
“แล้วเสี่ยพอจะรู้ไหมคะว่าเมียของพี่เสือคือใคร?”
“…..”
“บอกหนูหน่อยได้ไหมคะ หนูอยากรู้จริงๆ” เมื่อเห็นว่าเขายังนิ่งไม่ยอมตอบ เธอจึงเดินเข้าไปถามด้วยความอยากรู้ เพราะที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นว่าเสือจะจริงจังกับผู้หญิงคนไหน
“เมียไอ้เสือเป็นคนที่เธอรู้จักดีเลยล่ะ”
