รังแก
“ตะ…แต่หนูไม่ไหวแล้ว ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ” หญิงสาวพนมมือไหว้คนตรงหน้าทั้งน้ำตา สภาพร่างกายและจิตใจของเธอในตอนนี้ มันรับอะไรไม่ไหวอีกแล้ว
“ฉันไม่ได้ถามว่าไหวไหม หน้าที่ของเธอคือนอนแบให้ฉันเอา!” มือสากทั้งสองข้างเลื่อนไปบีบหัวไหล่ของคนตัวเล็กอย่างแรงเมื่อเห็นท่าทางอิดออดของเธอ
“มะ…ไม่นะ!” เมื่อสบจังหวะ สองจึงรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นในทันที แต่วิ่งไปได้ไม่ทันไรก็ถูกชายหนุ่มวิ่งมาคว้าตัวไว้ได้ทัน
พรึ่บ! ร่างของเธอลอยขึ้นเหนือพื้น เมื่อถูกเสี่ยอุ้มขึ้นพาดบ่า
“ปล่อยนะ ปล่อย”
“คิดว่าจะหนีฉันพ้นหรือไง!”
“กรี๊ดดดดด ชะ…ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที!” สองกรีดร้องออกมาจนสุดเสียงเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ
“หุบปาก!” เสี่ยตวาดดังลั่น ก่อนจะเหวี่ยงหญิงสาวลงบนโซฟาอย่างแรง พร้อมกับขึ้นคร่อมเธอไว้
ตุบ! ลูกน้องชายฉกรรจ์ชุดดำที่ยืนอยู่หน้าห้องต่างหันมามองหน้ากันอย่างพร้อมเพรียงเมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายอยู่ภายในห้องของเจ้านาย แต่ไม่มีใครกล้าปริปากหรือพูดอะไรออกมาทั้งนั้น
“โอ๊ะ! ยะ…อย่าเข้ามานะ” ร่างบางยกมือกุมท้องด้วยความจุก หลังจากที่ถูกเขาเหวี่ยงอย่างแรง
“……”
“บอกให้ออกไป ออกไปเดี๋ยวนี้!” ไม่พูดเปล่าแต่สองยังใช้เล็บคมข่วนจิกไปตามใบหน้าคมคายและร่างกายของเขาจนเลือดซิบ
“อยากตายนักใช่ไหม!?”
หมับ! เฮือก! ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อถูกมือสากเลื่อนขึ้นมาบีบลำคอของเธออย่างแรงเพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้อง สองพยายามใช้มือปัดป่ายมือหนาออกจากลำคอแต่ไม่สำเร็จ เธอไม่สามารถสู้แรงเขาได้เลย
“ถ้าเธอไม่ดื้อกับฉัน ก็คงไม่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้!” เสี่ยขบกรามกัดฟันแน่นมองคนที่นอนอยู่ใต้ร่างของเขาอย่างเหลืออด ก่อนจะค่อยๆ คลายมือหนาออกจากลำคอ เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มขาดอากาศหายใจ
“…..” หญิงสาวส่ายหน้าไปมาด้วยความกลัว ยังไงซะเธอก็ยังอยากมีชีวิตรอดกลับไปหาพี่และน้องของเธอ
“ถ้าไม่อยากตายก็อยู่นิ่งๆ” พูดจบเสี่ยก็จับร่างบางให้พลิกอยู่ในท่าคว่ำหน้าแล้วใช้ท่อนแขนแกร่งกดที่ท้ายทอยของเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้ดิ้นหนี
เขาเลื่อนมือสากไปจัดการถอดกางเกงของยีนและเพนตี้ตัวน้อยของเธอออกจนเผยให้เห็นท่อนล่างของสองที่เปลือยเปล่า เรือนร่างของเธอมันนวลเนียนไร้ที่ติ ถึงแม้ว่าเธอจะเกิดอยู่ในสลัม แต่สองกับมีผิวพรรณที่ผุดผ่องขาวเนียน
มือหนาชักรูดแก่นกายที่กำลังตั้งชัน ก่อนที่เขาจะจับมันแล้วจ่อไปที่ร่องแคบของเธออีกครั้ง เสี่ยจ้องมองกลีบกุหลาบที่บวมช้ำอย่างหนักจากศึกรักในครั้งก่อน แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกหรือเห็นใจเธอเลยสักนิด เขาเลือกที่จะสอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปในร่องแคบของเธอจนมิดในคราเดียว
กึด! “อึก!” เล็บคมจิกลงบนโซฟาเมื่อเสี่ยกระแทกท่อนเอ็นลำใหญ่เข้ามาในร่องของเธอแบบหนักหน่วง ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นจนเป็นห่อเลือด เมื่อเสี่ยค่อยๆขยับมันเข้าออกอย่างช้าๆ
“ซี๊ดดด” เสี่ยเปล่งเสียงร้องครางในลำคอเมื่อก้มมองแล้วเห็นร่องแคบของเธอกำลังบีบรัดท่อนเอ็นของเขาจนแทบจะปริแตก
ปัก! ปัก! ปัก! เอวสอบถาเข้าออกตามจังหวะ ส่วนมือทั้งสองข้างก็บีบเคล้นไปที่บั้นท้ายงามงอนด้วยความมันเขี้ยว
“ฮึกกก ฮืออออ” น้ำตาสีใสไหลอาบลงบนพวงแก้มทั้งสองข้าง เมื่อเธอรู้สึกเจ็บร้าวรานไปทั่วร่างกาย
“เลิกร้องไห้สักทีได้ไหมวะ อย่าทำให้ฉันรำคาญไปมากกว่านี้!” เสี่ยกดใบ หน้าแสนหวานให้แนบลงไปกับหมอน เพื่อเก็บเสียงสะอื้นที่น่ารำคาญของเธอ
“ฮืออออ”
แกร้ก~ กระบอกปืนสีดำด้านจ่อลงมาที่ท้ายทอยของคนตัวเล็ก เมื่อเห็นทีท่าว่าเธอไม่ยอมหยุดร้องไห้ง่ายๆ
“อยากตายมากใช่ไหม ฉันบอกให้เงียบ!”
“งะ…เงียบแล้วค่ะ” สองจำใจบอกทั้งน้ำตาพร้อมกับเนื้อตัวที่สั่นเทิ้มด้วยความกลัว
ปัก! ปัก! ปัก! ร่างของเธอสั่นคลอนไปตามแรงที่ถูกกระทำ ยิ่งเสี่ยใกล้ถึงฝั่งฝันเขายิ่งทำมันแรงกว่าเดิม
“ถ้าไม่อยากเจ็บก็อย่าเกร็ง!”
“…..” น้ำตาสีไหลไหลอาบลงบนใบหน้า สองไม่ยอมปริปากหรือพูดอะไรออกมาทั้งนั้น เธอได้แต่นอนหลับตายอมรับชะตากรรมที่เกิดขึ้น
“อืม~” มือหนาทั้งสองข้างล็อกเอวบางไว้เพื่อไม่ให้เธอขยับหนี ก่อนที่เขาจะปล่อยน้ำกามสีขุ่นเข้ามาในร่างกายหญิงสาวทุกกยาดหยด โดยมีร่างบางที่นอนร้องไห้สะอื้นด้วยความเจ็บปวด….
เฮือก! ร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดร้าวตามตัวอย่างหนัก ดวงตากลมโตเบิกโพลงมองซ้ายมองขวา ก่อนจะพบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะตีสามแล้ว ริมฝีปากคลี่ยิ้มออกมาบางๆ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องแล้วไม่เห็นชายหนุ่มเหมือนที่คิดไว้
แกร่ก~ สองค่อยๆ เปิดประตูห้องด้วยความระมัดระวังพลางสอดส่องสายตามองหาชายหนุ่มอีกที แล้วมันก็เป็นแบบที่เธอคิด เสี่ยไม่ได้อยู่ที่นี่ แล้วลูกน้องของเขาก็หายไปด้วย เมื่อสบจังหวะ เธอจึงคว้ากระเป๋าสะพายแล้วรีบวิ่งออกมาจากห้องนั้นในทันที
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! สองเคาะประตูบ้านพร้อมกับยืนกอดตัวเองด้วยความหนาวเหน็บ ไม่กี่นาทีถัดจากนั้น ประตูบ้านก็ถูกเปิดออก บ้านคือสิ่งแรกที่เธอนึกถึง นอกจากนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนแล้ว
“พะ…พี่หนึ่ง!” สองถึงกลับปล่อยโฮออกมาเมื่อได้เห็นหน้าพี่สาว
“สอง!” หนึ่งเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นสภาพของน้องสาวที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยฟกช้ำ
“ใครทำอะไร ทำไมสภาพแกถึงเป็นแบบนี้”
“สองเจ็บ สองไม่อยากกลับไปหาเขา”
“……” หนึ่งเม้มปากเงียบ เพราะเธอรู้ดีว่าคนที่สองพูดหมายถึงใคร
“ช่วยสองด้วยนะพี่หนึ่ง ช่วยสองด้วย” ร่างบางโผกอดพี่สาวไว้แน่นทั้งน้ำตาเธอกลัวเหลือเกิน กลัวว่าเสี่ยจะส่งคนมาตามเธอกลับไป
“เกิดอะไรขึ้นวะ ใครมาร้องแหกปากอะไรแถว…อีสอง!” โฉมร้องตะโกนด้วยความตกใจเมื่อเห็นสองยืนอยู่ในบ้านแทนที่จะอยู่กับเสี่ยที่คอนโด
“มะ…แม่”
“แกมาที่นี่ได้ยังไง แล้วทำไมสภาพแกถึงเป็นแบบนี้” โฉมรีบเดินเข้าไปหาสองที่ยืนอยู่ พร้อมกับมองสำรวจไปทั่วร่างกายของลูกสาว ตามผิวนวลมีแต่รอยฟกช้ำดำเขียวเต็มไปหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งใบหน้า
“ฮึกกก”
“นี่ไอ้เสี่ยมันทำกับแกถึงขนาดนี้เลยหรอ?”
“……”
“เอาไงดีแม่ ถ้าขืนปล่อยไว้แบบนี้ มีหวังน้องต้องตายแน่ๆ”
“มะ…แม่” สองส่งสายตาอ้อนวอนร้องขอผู้เป็นแม่
“เออ! รู้แล้ว ขอเวลาให้แม่คิดสักหน่อยสิวะ” โฉมคิดไม่ตกเมื่อเห็นสายตากดดันของลูกๆ ที่มองมา
“เร็วสิจ๊ะแม่ พวกเราจะทำยังไงกันดี” หนึ่งเอ่ยด้วยความลนลาน
“งั้นพวกแกรีบไปเก็บข้าวของเท่าที่จำเป็น แม่จะพาพวกเราจะย้ายออกจากที่นี่!”
“……”
“จะยืนนิ่งทำซากอะไร รีบไปเก็บของสิวะ เดี๋ยวไอ้เสี่ยมันก็ตามมาเจอหรอก!”
