บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ความทรงจำที่กลับมา

สหชาติไม่ได้หลบหนีไปไหน ในความเป็นจริงแล้วพอรถชนกันศีรษะเขาก็ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง เขาเห็นอนัญญาเดินมาทางเขา เขาหวาดกลัวแล้วปัดมือเธอออกไปให้พ้นตัวแล้วเดินไปตามถนนเรื่อยๆ

เขาหมดสติแล้วกลิ้งหล่นไปริมถนน กว่าจะมีคนพบเห็นก็เป็นเวลาเช้าแล้วและนำตัวส่งโรงพยาบาล

สหชาติจำอะไรไม่ได้ เขาไม่มีอะไรติดตัวมายืนยันตัวตนของเขา หมอวิเคราะห์อาการของเขาพบว่าสมองได้รับความกระทบกระเทือนและความจำเสื่อมชั่วคราว มีโอกาสที่ความจำจะกลับคืนมาภายในเวลาสั้นๆ

ในตอนนั้นพลเมืองดีที่เจอเขาจึงต้องรับผิดชอบดูแลเขาและตั้งชื่อเขาว่า ‘หลง’

สหชาติตอนนี้กลายเป็นลูกจ้างของร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขาทำหน้าที่ล้างจานอยู่หลังร้านแลกกับที่พักและอาหารมาเป็นเวลาสองปีแล้วแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าความจำของเขาจะกลับคืนมา

“พี่หลง ขับรถเอาข้าวกล่องไปส่งลูกค้าที”

เขารีบเช็ดมือแล้วเดินไปตามเสียงเรียกของลูกสาวเจ้าของร้าน พ่อของเธอเป็นพลเมืองดีที่ส่งเขาไปโรงพยาบาลและรับดูแลเขาในช่วงที่ความจำเสื่อมนี้

“ไปส่งที่ไหน”

“บ้านหลังใหญ่ท้ายซอย ขับรถระวังๆ นะพี่ ยิ่งไม่มีใบขับขี่อยู่” เธอบอกเขาอย่างห่วงใย

สหชาติเองก็รู้ว่าเธอนั้นมีใจให้เขา แต่เขาไม่กล้าอาจเอื้อมเพราะเธอเป็นลูกสาวของผู้มีพระคุณ อีกทั้งจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร ตอนนี้กลายเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า คงไม่เหมาะที่จะรักใครในตอนนี้

เขารับถุงข้าวกล่องนั้นมาแล้วขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไปส่งอาหาร ขากลับขณะที่เขากำลังกลับมาที่ร้านก็เจออุบัติเหตุรถชนกันต่อหน้าต่อตาก็รู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก

สหชาติฝืนขับรถจนมาถึงร้าน พอขาเหยียบพื้นร้านเขาก็ทรงตัวไม่อยู่ อาการปวดหัวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ภาพความทรงจำหลายๆ อย่างหลั่งไหลเข้ามาในคราเดียว แล้วในที่สุดเขาก็หมดสติลงไปในทันที

เขาฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาล มองหน้าปรายฟ้าลูกสาวของผู้มีพระคุณแล้วเขาก็นิ่งไปสักพัก ก่อนจะขอยืมโทรศัพท์จากเธอ

“พี่หลงจะโทรไปไหน”

“แฟนพี่ พี่จะโทรหาแฟนพี่” คำตอบของสหชาติทำเอาปรายฟ้าใจหาย สายตาของเขาตอนนี้นั้นดูเปลี่ยนไป ไม่ใช่หลงคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก

“ความทรงจำของพี่..กลับมาแล้วใช่ไหม” เธอถามเขาเสียงเบาด้วยความใจหาย

“ใช่” คำตอบของเขาไม่รู้ว่าเธอควรจะยินดีกับเขาหรือว่าเสียใจกับตัวเองดี

**********************

เสียงโทรศัพท์มือถือของอนัญญาดังขึ้น เธอดูเบอร์โทรแปลกๆ ที่โทรเข้ามา โดยมีกวาง สาวรับใช้ที่อายุมากกว่าเธอไม่กี่ปีนั่งฟังอยู่ด้วย เธอรู้ว่ามันคงเป็นคำสั่งของศิวัชที่ให้กวางติดตามเธอทุกฝีก้าว

“สวัสดีค่ะ”

“แอน ผมเองนะ คุณเป็นยังไงบ้าง”

เสียงคุ้นเคยของคนรักทำให้อนัญญาร้องไห้ออกมา เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เธอดีใจที่เขาติดต่อมา หรือว่าโกรธเขาที่ทิ้งเธอไว้ให้เผชิญปัญหาเพียงลำพังตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้

“ยังจำเบอร์ฉันได้เหรอ” เธอร้องไห้ออกมาอย่างอดไม่ไหว

“แอน คุณอยู่ไหน ผมจะไปหาคุณตอนนี้”

“คุณจะรู้ไปทำไม สองปีที่ผ่านมาคุณไม่เคยติดต่อฉันมาอยู่แล้ว ฉันต้องเจอกับอะไรบ้างคุณรู้หรือเปล่า” อนัญญาตัดสายเขาไป เธอเอามือกุมหน้าร้องไห้จนตัวโยน

ในตอนนั้นกวางแอบไปโทรศัพท์หาเจ้านายของตนเพื่อรายงานสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่นานนักศิวัชก็กลับมาที่ไร่ ใบหน้าคมคายที่ปกติดูจริงจังและดุดันอยู่แล้ว ตอนนี้เขาดูน่ากลัวมาก

“มันติดต่อคุณมาใช่ไหม” เขาตะคอกถามเธอสุดเสียง

“ค่ะ” เธอยอมรับตามตรง

“เอาเบอร์มันมา”เจ้าของนัยน์ตาสีดำคมเข้มบอกด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธได้

เขาโทรกลับไปตามเบอร์ที่เธอให้เขามาแต่ก็ไม่มีคนรับสาย เพราะตอนนั้นปรายฟ้ากำลังติดต่อขอหลักฐานทั้งหมดของสหภาพตั้งแต่ที่พ่อของเธอพาเขามารักษาในฐานะคนไข้นิรนามอยู่จึงไม่สะดวกรับสาย

ศิวัชโกรธจนตัวสั่น เขาจับต้นแขนเธอแล้วบีบมันสุดแรง ในขณะที่เธอนั้นก็กำลังรู้สึกสับสนเรื่องของสหชาติอยู่ จึงได้แต่ยืนร้องไห้ให้เขาบีบเนื้อแขนอยู่อย่างนั้น

“ถ้ามันโทรมาอีก ถามว่ามันอยู่ที่ไหน ฉันจะไปลากคอมันมา เอาเลือดมันไปเซ่นหลุมศพพ่อแม่ฉัน” เขาตะโกนใส่หน้าเธอแล้วผลักเธอลงกับโซฟา ไม่ได้ลากเธอขึ้นไประบายอารมณ์บนห้องอย่างทุกครั้ง

กวางนั่งก้มหน้านิ่ง รู้สึกผิดที่โทรบอกศิวัช ไม่คิดว่าเขาจะรุนแรงกับอนัญญาขนาดนี้

**********************

สหชาตินำหลักฐานที่มีแล้วให้ปรายฟ้าพาเขากลับบ้านที่อยู่อำเภอที่ติดกัน พอเขากลับไปที่บ้านพ่อแม่ของเขาก็โอบกอดเขาเอาไว้ด้วยความคิดถึง โดยมีปรายฟ้ามองภาพตรงหน้าด้วยความตื้นตันใจ

เขาก้มลงกราบเท้าพ่อแม่ก่อนที่จะเข้าไปในบ้านเพื่อพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

“หลังจากเกิดเรื่อง พ่อกับแม่ก็เอาที่ดินไปจำนอง เพื่อเอาเงินไปชดใช้ค่าเสียหายให้เขา ถึงมันจะเป็นจำนวนที่น้อยสำหรับเขา แต่ว่าก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เรื่องชนแล้วหนี ยังเป็นคดีอยู่ จริงๆ ลูกไม่ต้องหนีเลยก็ได้ รถเรามีประกัน ถ้าลูกอยู่ตอนนั้นประกันก็คงจ่ายให้ทุกอย่าง” มารดาของเขาทั้งบ่นว่าบ่นคิดถึงเขาในที

“ลูกกลับมาได้ก็ดีแล้ว ว่าแต่ไปไหนมา บอกพ่อได้ไหม” ผู้เป็นพ่อถามลูกชาย

สหชาติเล่าเรื่องทั้งหมดให้พ่อแม่ฟัง หลังจากฟังเรื่องราวนี้จบลง พ่อกับแม่ของเขาก็ถอนหายใจออกมา

“หนูแอนมาดูแลพ่อแม่ทุกเดือน มีช่วงหลายเดือนมานี้แหละที่เธอไม่ได้มา และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ พ่อแม่หนูแอนบอกว่าลูกสาวเขาแต่งงานกับเศรษฐีไร่ส้ม ตอนได้ยินทีแรกแม่ก็ตกใจนะ แต่ไม่ได้บอกบ้านนั้นว่าคนที่แอนแต่งงานด้วยคือลูกชายของคู่กรณีที่ลูกชนพ่อแม่เขาตาย” มารดาของเขาเล่าเรื่องราวของอนัญญาให้แก่เขาได้รับรู้

“มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ที่อยู่ๆ เขาจะแต่งงานกับแอน” สหชาติพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเจ็บปวดใจ เมื่อรู้ว่าคนรักแต่งงานกับคู่กรณี

ปรายฟ้านั่งมองเขาด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้จะเจ็บปวดที่รู้ว่าเขามีคนรักแล้วก็ตาม

“ใช่ บ้านนั้นบอกว่างานแต่งงานแค่ผูกแขนรับขวัญ วางสินสอดห้าแสน แล้วก็พาแอนไปเลย แปลกไหมเล่า” มารดาของเขาเล่าต่อ

“ผมจะไปมอบตัว สู้คดี” สหชาติพูดขึ้นมา มือเขากำหมัดแน่น พยายามคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญเพื่อให้ตัวเองใจเย็นแต่ก็ไม่เป็นผล ในใจมันรู้ดีว่าอีกฝ่ายทำไปเพื่อแก้แค้นเขาเท่านั้น

“ค่ะ แต่ว่าก่อนอื่น เราต้องรวบรวมหลักฐานให้ครบก่อน ตอนนี้ฟ้ามีใบรับรองแพทย์ที่ระบุเวลาการเข้ารับการรักษาของพี่ เราต้องหาพยานแวดล้อมอีกหลายคนที่จะช่วยยืนยันว่าพี่ไม่ได้หลบหนีไปไหน อย่างน้อยถ้าเกิดเรื่องราวใหญ่โต ก็จะได้มีเหตุผลในการตอบกลับไปพร้อมกับหลักฐาน” ปรายฟ้าแนะนำเขา

“แล้วแม่หนูนี่ ใครล่ะ” แม่เขาถามขึ้นมาแล้วยิ้มให้ปรายฟ้าอย่างเอ็นดู

“ฟ้ากับพ่อของเธอ ช่วยผมเอาไว้ครับ ถ้าไม่ได้ทั้งคู่ให้ที่พักพิง ผมคงไม่ได้อยู่จนถึงทุกวันนี้”

“แล้วจะเอายังไง กลับมาอยู่บ้านเราเลยไหม”

“ยังก่อนครับ ผมต้องดำเนินการเรื่องคดีความให้จบ แล้วค่อยว่ากันอีกที” เขาตอบบิดาแล้วหันกลับไปมองปรายฟ้า

ช่วงเวลาสองปีที่เขาจำอะไรไม่ได้ ได้รับการดูแลและความห่วงใยจากเธอ มันทำให้เขารักเธอ

แต่ในขณะเดียวกันเมื่อจำเรื่องราวในอดีตได้ หัวใจเขาก็มีผู้หญิงถึงสองคนอยู่ในหัวใจ และเลือกไม่ได้ว่าตนเองจะทำอย่างไร แม้จะทราบข่าวว่าอีกคนแต่งงานไปแล้วก็ตาม

**********************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel