เมียเสี่ยงรัก

75.0K · จบแล้ว
ฝ้ายสีคราม/ ภ.ภิญญ์/ฝออ้าย
33
บท
5.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขาหลอกเธอให้รักแล้วตลบหลังอย่างเจ็บแสบที่สุด คำโกหกว่า "รัก" ในตอนนั้น ทำให้เธอทุกข์ทนจนถึงตอนนี้ และเมื่อทุกอย่างถึงจุดแตกหัก เขาบอกว่ารักเธออีกครั้ง เธอจะสามารถเชื่อใจเขาได้อีกต่อไปหรือไม่

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันคนต่ำต้อยแต่งงานสายฟ้าแลบแก้แค้นมาเฟียความจำเสื่อมแต่งงานก่อนรักพาลูกกหนี

บทที่ 1 หน้าที่ภรรยา

อนัญญาลุกจากเตียงนอนด้วยความเมื่อยล้า เมื่อคืนนี้สามีของเธอได้ร่วมรักนานกว่าปกติถึงสองชั่วโมงจนเธอรู้สึกได้ถึงการเดินที่ติดขัดเพราะอาการบวมแดงนั้น

‘สามีเหรอ’ เธอนึกในใจเมื่อพยายามนึกถึงสถานะระหว่างเขากับเธอ

ศิวัชไม่ได้ยกย่องเธอให้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาเลยด้วยซ้ำ มีเพียงงานแต่งงานเล็กๆ ที่เขาปรานีจัดเพื่อความประสงค์ของครอบครัวเธอเท่านั้น

แขกเหรื่อในงานก็มีเพียงคนในครอบครัวของเธอ ญาติสนิท และเพื่อนของเธอไม่กี่คนเท่านั้น ไม่มีแขกฝ่ายของเขาเลยสักคน

อนัญญาพยุงร่างของตนไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนลงมาข้างล่าง แม่บ้านจัดเตรียมอาหารเช้าทุกอย่างไว้หมดแล้ว ตอนนี้สามีของเธอกำลังมองมาที่เธอด้วยแววตาที่ดูแคลน

“กว่าจะลงมาได้นะ ตื่นสายแบบนี้จะไปทันกินอะไร” ศิวัชพูดขึ้นมาเสียงเรียบ เขาหงุดหงิดที่ต้องรอทานอาหารเช้าพร้อมเธอ

“จริงๆ คุณทานก่อนแอนก็ได้นะคะ ไม่ต้องรอ” เธอบอกเขาเสียงเบาแล้วขยับไปนั่งที่เก้าอี้ด้านขวามือของเขา

“ฉันไม่ได้รอทานพร้อมเธอ แต่บ้านนี้มีกฎว่าคนในบ้านต้องทานอาหารพร้อมกัน บ้านเธอไม่ได้สอนมารยาทมาเหรอ จริงสิครอบครัวชั้นต่ำแบบนั้นคงสอนใครไม่ได้” เขาพูดแล้วเหยียดยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

อนัญญาไม่ตอบโต้เขา แม้อยากจะปกป้องครอบครัวตัวเองสักเท่าไรก็ตาม

เธอก้มหน้าทานอาหารไปอย่างเงียบๆ พยายามทำตัวให้เขาพอใจมากที่สุดเพื่อให้พ้นจากการบ่นด่า รอแค่อึดใจเดียวเขาก็จะออกไปทำงานแล้ว ตอนนั้นเธอคงหายใจได้สะดวกขึ้นกว่านี้

**********************

ศิวัชเป็นเจ้าของไร่ส้มขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ภาคกลางตอนเหนือ เขาดูแลไร่ต่อจากครอบครัวที่เสียชีวิตพร้อมกันไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อสองปีที่แล้ว และเขาโทษเธอที่เป็นคนทำให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้

“เธอจะต้องชดใช้” คือคำพูดที่เขาพูดกรอกหูเธอทุกคืน

และอนัญญาก็ยอมรับในสิ่งที่เขาพยายามยัดเยียดความผิดนั้นให้ เพราะเธอเองก็โทษตัวเองว่ามีส่วนทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนั้น จึงต้องแต่งงานกับเขาทั้งๆ ที่รู้จุดประสงค์ของการแต่งงานในครั้งนี้ดีว่าเขาต้องการอะไร

เขาไม่ยอมให้เธอออกไปจากไร่เขา หน้าที่เธอคืออยู่แต่ในบริเวณบ้านรอให้เขากลับมา แล้วทำหน้าที่ภรรยาให้แก่เขา

“สามเดือนแล้วสินะ กับนรกแห่งนี้ เมื่อไหร่ฉันจะรอดพ้นจากคุณ” เธอพึมพำออกมาขณะนั่งดูละครตรงหน้า โดยมีสาวรับใช้นั่งดูเป็นเพื่อน หรือจะเรียกให้ถูกคือเป็นผู้คุมมากกว่า

ชีวิตที่วันๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย เหมือนสะดวกสบายแต่มันก็ไม่ใช่ มันเหมือนเธอถูกจองจำในคุกเสียมากกว่า ต่างกันตรงที่ข้อเท้าไม่มีโซ่ตรวนก็เท่านั้น

“คุณแอนจะรับของว่างไหมคะ” เธอถามนายหญิงของบ้าน

“ไม่เป็นไร ถ้าหิวฉันจะไปหาอะไรทานเอง” อนัญญาบอกสาวใช้แล้วนั่งดูละครตรงหน้า

เธอเบื่อหน่ายชีวิตแบบนี้ แต่ก็คิดว่าเป็นการไถ่โทษให้กับครอบครัวของเขา

สักพักสาวใช้คนเดิมก็กลับเข้ามา แล้วก้มหน้ารายงานเธอว่ามีแขกมาขอพบศิวัช

“เขาไม่รู้เหรอว่าคุณวัชไม่อยู่”

“พี่เรียนให้ทราบแล้วค่ะ แต่เธอไม่ยอมไป บอกว่าจะเข้ามารอในบ้านจนกว่าคุณวัชจะกลับ” สาวใช้รายงานแล้วหลบสายตาเธอเล็กน้อย

อาการหลบสายตากับคำสรรพนามว่าเธอทำให้อนัญญารู้สึกแปลกใจ เธอตัดสินใจออกไปต้อนรับแขกของสามี แล้วพบว่าคนที่มาคือสาวสวยที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่น่าจะมีราคามากพอสมควร

“สวัสดีค่ะ คุณวัชไม่อยู่บ้านค่ะ อีกนานเลยกว่าจะกลับ” เธอบอกผู้มาเยือนด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ

“เธอคงเป็นญาติของวัชสินะ ฉันชื่ออลินนะ” อลินแนะนำตัวแล้วยื่นมือมาทักทายเธอ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายแต่งตัวดีผิดจากคนรับใช้

“เปล่าค่ะ ดิฉันชื่อแอน เป็นภรรยาของคุณวัช ” อนัญญาแนะนำตัวแล้วยื่นมือไปสัมผัสทักทายตอบเธอ

“นี่ล้อกันเล่นใช่ไหม วัชแต่งงานตอนไหน ฉันไม่เห็นรู้เรื่อง” อลินถามด้วยความตกใจ

“ฉันกับคุณวัชแต่งงานกันได้สามเดือนแล้วค่ะ” เธอบอกอีกฝ่ายไปตามความจริง แล้วยิ้มให้บางๆ

แม้จะไม่มีใบทะเบียนสมรส และงานแต่งงานนั้นจะเป็นการจัดงานเล็กๆ แต่อย่างไรมันก็ยังถือเป็นการแต่งงาน และเธอคือภรรยาของเขา

อลินจ้องมองหน้าเธอสักพัก หัวใจเต้นแรงเมื่อได้ยินข่าวใหม่นี้ สามเดือนที่ว่ามันตรงกับช่วงที่เธอไปทำงานที่ต่างประเทศ แต่ถึงอย่างนั้นข่าวการแต่งงานของเขาก็ต้องมาถึงหูเธอบ้าง

“งั้นฉันค่อยมาวันหลังดีกว่าค่ะ” เธอบอกอนัญญาด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนว่ายังตกใจไม่หาย ตัดสินใจกลับไปตั้งหลักใหม่ที่บ้านของตน พลางนึกว่าระดับเจ้าของไร่ส้มที่เป็นที่รู้จักไปทั่วจังหวัดอย่างเขาแต่งงานทั้งทีทำไมเธอถึงไม่รู้

**********************

เมื่อศิวัชมาถึง อนัญญาก็รีบเดินออกไปต้อนรับเขาอย่างเอาใจ รับหมวกของเขาไปห้อยไว้ที่แขวน แล้วเอาน้ำเย็นมาเสิร์ฟเขาด้วยตัวเอง พร้อมกับรายงานให้เขาทราบเรื่องแขกสาวสวยที่มาหาเขาในบ่ายวันนี้

“คุณวัชค่ะ เมื่อตอนบ่ายมีแขกมาหาคุณค่ะ เธอบอกว่าวันหลังจะมาใหม่” เธอรีบรายงานเขา ทำหน้าที่ภรรยาอย่างดีที่สุด

“แขกเหรอ ใคร” เขาถามพลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม

“เธอบอกว่าชื่ออลินค่ะ”

ทันทีที่ได้ยินชื่ออลิน ศิวัชก็วางแก้วน้ำลงทันที

“แล้วเธอบอกหรือเปล่าว่าเธอเป็นใคร” เขาถามเธอเสียงสั่นด้วยความโกรธ

“บะ บอกค่ะ แอนบอกว่าแอนเป็นภรรยาคุณ” เธอรีบบอกเขาไปตามความจริง ไม่รู้ว่าเขาจะต่อว่าอะไรเธอ

ศิวัชไม่พูดอะไร เขาขบกรามแน่นเป็นสันแล้วดึงแขนของอนัญญาให้ตามเขาไปทันที

“วันนี้ไม่ต้องตั้งโต๊ะ” เขาร้องตะโกนตอนที่เดินผ่านห้องครัวให้คนรับใช้ในบ้านได้ยิน ทำให้อนัญญารู้แล้วว่าเธอจะต้องเจอกับอะไร

ทุกครั้งที่พูดไม่เข้าหูเขา หรือทำให้ศิวัชอารมณ์เสีย เขาจะต้องระบายอารมณ์กับเรือนร่างเธอทุกครั้ง และครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน และอนัญญาก็ต้องยอมผ่อนปรนตามเขา เพราะไม่อย่างนั้นเขาก็จะยิ่งโกรธและเพิ่มรอบจนเธอเองที่จะทนไม่ไหว

**********************

หนึ่งปีที่แล้ว

อนัญญาที่ตอนนี้เริ่มทำงานหลังจากเรียนจบได้เพียงปีเดียวเธอคลายความเศร้าเรื่องที่คนรักที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายหายตัวไปหลังจากเกิดอุบัติเหตุ

“หนึ่งปีแล้วสินะที่คุณทิ้งฉันเอาไว้ ทำไมนะชาติ ทำไมคุณต้องหนี ทั้งๆ ที่คุณไม่ผิดเลยสักนิดเดียว” เธอได้แต่พึมพำขณะที่เลือกซื้อผลไม้ไปฝากพ่อแม่ของเขา

สหชาติหายตัวไปจนป่านนี้ก็ยังไม่ส่งข่าวมาเลยสักครั้ง งานศพของคู่กรณีก็มีเพียงเธอเข้าไปไหว้ขอขมาแทนเขาท่ามกลางเสียงก่นด่าของญาติพี่น้องของอีกฝ่าย

เธอกำลังจะหันไปเลือกส้มตรงหน้าแต่ก็มีอีกมือมาหยิบส้มลูกเดียวกันทำให้มือของเธอและเขานั้นตอนนี้กำลังจับกันเอาไว้

“อุ๊ย” เธออุทานด้วยความตกใจ

“ขอโทษครับ” ศิวัชพูดอย่างสุภาพแล้วชักมือกลับ

เขายิ้มให้เธอด้วยรอยยิ้มที่ทำเอาหญิงสาวนั้นใจเต้นตึกตัก แต่ก็ต้องหักห้ามหัวใจเอาไว้ เพราะถึงแม้คนรักจะหายตัวไปและทำให้เธอถูกสังคมประณามแทนเขาเรื่องชนแล้วหนี จนเธอนั้นหมดศรัทธาในความรัก แต่คนตรงหน้านี้ดูดีเกินไป เธอคงไม่อาจเอื้อม

“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอพูดแล้วขยับไปเลือกลูกอื่น เพื่อเว้นระยะห่างจากเขา

“ดีใจนะครับที่ชอบ” เขาบอกเธอเสียงนุ่ม

“คะ?” เธอหันไปแล้วทำหน้างุนงง

“นั่นส้มจากไร่ผมเอง” เขาพูดพลางยิ้มหว่านเสน่ห์ชวนให้เธอหลงใหล

อนัญญายิ้มบางๆ ให้เขา คนหน้าตาดีมีฐานะเช่นเขา มันเกินกว่าที่เธอจะเอื้อมถึงจริงๆ

“ค่ะ” เธอตอบรับคำพูดของเขาตามมารยาท แล้วพยายามเดินเลี่ยงไปอีกทาง เพราะไม่อยากคุยกับเขาให้มีความหวัง

“ผมชอบคุณ ผมจีบได้หรือเปล่า” ศิวัชเดินตามมาแล้วพูดออกมาตรงๆ

เธอหันไปมองเขาด้วยความตกใจ คิดว่าเขาอาจไม่ใช้เจ้าของไร่ส้มที่ว่าและอาจเป็นโรคจิตเพราะตอนนี้เขากำลังคุกคามเธออยู่ พอนึกได้อย่างนั้นเธอก็วางตะกร้าผลไม้ที่ยังเลือกไม่เสร็จลง แล้วเดินหนีออกจากตรงนั้นไปอย่างรวดเร็ว

**********************