บทย่อ
“พะ…พอเท่านี้เถอะนะคะ สาไม่ไหวแล้ว” มาริษาขอร้องด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา รู้ว่าเปอร์เซ็นต์ที่แทนคุณจะเห็นใจแทบไม่มีก็ตาม แต่เธอก็อยากลองเสี่ยงดูอีกสักครั้ง ร่างกายโรยราเต็มที จนเธอรู้สึกเริ่มไม่ไหว เมื่อถูกคนพี่ทำรุนแรงเกินไป “ฉันไม่เคยหยุดแค่ครั้งเดียวเธอก็น่าจะรู้ดีหนิ ทำไมถึงยังกล้าร้องขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีก” “สักครั้งก็ไม่ได้เหรอคะ?” “หน้าที่เมียอย่างเธอ คืออ้าขาให้ฉันเอา…แค่นั้น” “…” มาริษาหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า รู้สึกชาหนึบที่หัวใจทันที หลังจากประโยคเลือดเย็นของผู้ชายที่รัก ส่งผลให้น้ำตาล้นปริ่ม หยุดแหมะลงบนหมอนหยุดแล้วหยุดเล่า ไม่มีท่าที่ว่าจะแห้งเหือด
บทนำ/แนะนำตัวละคร
แทนคุณ อายุ 29 (พีรพัฒน์ อัศวภัชรกุล)
ประธานบริษัท TM Agency ( เอเจนซี่) เจ้าของผับ Moon เบื้องหลังร่วมหุ่นธุรกิจสีเทากับแก๊งมาเฟีย
ใจร้อน หงุดหงิดง่าย เป็นคนพูดตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม ขี้หึง
เมษา อายุ 19 (มาริษา อัศวภัชรกุล)
นักศึกษา ปี 1 คณะนิเทศศาสตร์ เรียนเก่ง
ใจเย็น รักสงบ ยิ้มง่าย บ่อน้ำตาตื้น(ขี้แงแต่สู้คน)
เมล (แฟนเก่าแทนคุณ พี่สาวเมษา)
เคยคบหากับแทนคุณสมัยเรียนมหาวิทยาลัย
----------------------------------------------
คฤหาสน์ อัศวภัชรกุล
“แกเลิกกับหนูเมลแล้วงั้นเหรอ?” พิสุทธิ์เอ่ยออกมาอย่างตกใจกับข่าวที่ได้รับจากลูกชาย เช่นเดียวกับภรรยาอย่างมาราตรีและสุพรรณิสาผู้เป็นแม่
“มันเกิดอะไรขึ้น เมื่อวานก่อนย่ายังเห็นรักกันดีอยู่นิ”
แทนคุณนั่งเงียบขรึม มือทั้งสองข้างประสานกันมั่นใต้หว่างขา ราวกับกำลังข่มกลั้นอารมณ์บางอย่าง โดยไม่สนใจสายตาของครอบครัวที่มองมาอย่างกดดัน รอคำตอบที่ชัดเจน
“ที่เลิกกันคิดดีแล้วเหรอลูก” ถึงขั้นเลิกกันอย่างปุ๊บปั๊บคงทะเลาะกันเรื่องร้ายแรงพอสมควร ที่ผ่านมาทั้งสองไม่มีสัญญาณว่าจะเลิกรักกันเลยแม้แต่น้อย
“…”
“ว่ายังไงแทนคุณ?” ไร้ซึ่งคำตอบจากแทนคุณ มาราตรีจึงทวนถามลูกชายอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าเดิม
“ครับ คิดดีแล้ว”
“เหตุผลล่ะ?” พิสุทธิ์ถามจ้องลูกชายแววตาเด็ดขาด อย่างต้องการคำตอบให้ได้
“หมดรักกัน” แทนคุณเงยหน้าสบตากับผู้เป็นพ่อ โป้ปดออกไปประโยคสั้น ๆ ทั้งที่ความเป็นจริง เขาไม่เคยหมดรักเธอคนนั้นเลย แต่เพราะเธอมันไม่รู้จักพอ
“ย่าไม่อยากให้แกเลิกกับหนูเมลเลยจริง ๆ” สุพรรณิสาทำหน้าเศร้า เมื่อหญิงสาวที่หมายมั่นว่าจะได้เป็นหลานสะใภ้ กลับหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย ต่อให้เธอถูกใจแฟนสาวของหลานชายมากเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถบังคับฝืนใจทั้งสองให้แต่งงานกันตามใจตนได้
“ถึงแกจะเลิกกับหนูเมล ยังไงแกก็ต้องแต่งงานตามข้อตกลงในสัญญา ธุรกิจที่ทำร่วมกันจะได้เติบโตโดยไร้ซึ่งปัญหา”
“แล้วคุณจะบังคับให้ลูกแต่งงานกับหนูเมล ทั้งที่สองคนเลิกกันแล้วน่ะเหรอคะ” มาราตรีหม่นคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย เธอไม่เห็นด้วยหากลูกชายถูกคลุมถุงชน
“คุณตุลาไม่ได้มีลูกสาวแค่คนเดียวสักหน่อย”
แทนคุณขมวดคิ้วแน่นตวัดสายตามองผู้เป็นพ่อ พอจะเข้าใจความหมายที่ผู้เป็นพ่อกำลังสื่อ
“หนูเมษายังเด็กอยู่เลยนะคะ”
“ไม่ได้ให้แต่งกันเร็ว ๆ นี้หรอกน่าคุณ”
“คุณถามความเห็นจากลูกชายก่อนไหม?” มาราตรีถอนหายใจออกมาหนัก ๆ เอือมระอากับความคิดของสามี แต่ถึงอย่างไรเธอขอฟังเสียงลูกชายก่อน หากลูกชายคัดค้านเธอก็พร้อมอยู่เคืองข้างลูกชายหลังชนฝา
“อยู่ด้วยกันแค่ปีเดียวเท่านั้น หลังจากนั้น ถ้าแกกับหนูเมษาไม่ได้รักกัน จะหย่ากันก็ไม่ใช่ปัญหา”
“พูดง่ายดีนะคะ”
พิสุทธิ์ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระกับถ้อยคำประชดประชันของภรรยา
“ปฏิเสธได้นะแทนคุณ แม่จะอยู่ข้างลูกเอง ไม่จำเป็นต้องแต่งก็ได้ ยังไงซะหุ้นบริษัทรากุลก็เป็นของเราเกือบทั้งหมด”
“สัญญามีให้ทำตาม ไม่ใช่มีไว้เพื่อผิดสัจจะ”
“แต่เราไม่มีสิทธิ์ไปบังคับลูกนะคะ”
“ว่ายังไงตาแทน?” พิสุทธิ์ไม่สนใจเสียงหรือสายตาดุของภรรยา แต่โยนคำถามไปที่ลูกชายแทน
“เอาตามที่พ่อต้องการเลย”
คำตอบของแทนคุณ ทำให้พิสุทธิ์ถึงกับยิ้มหน้าบาน ในขณะที่มาราตรีและสุพรรณิสา ต่างก็ไม่เข้าใจเหตุผลของลูกชาย ที่มีนิสัยใจร้อน ดื้อด้าน ไม่ยอมใคร แต่ตอนนี้กลับดูใจเย็น ยินยอมผู้เป็นพ่อเอาง่าย ๆ ทั้งที่กำลังถูกบังคับ และ ขัดต่อความรู้สึกของตัวเอง
…
หลายปีต่อมา (ปัจจุบัน)
คฤหาสน์ พีรพัฒน์
มาริษาหน้าตาน่ารักสดใส อยู่ในชุดไทยสีชมพูกลีบบัวขัดผิวให้ขาวผ่องมีออร่า เกลาผมทรงต่ำประดับด้วยปิ่นปักผมสีทอง เธอยิ้มปริ่มยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ โดยผู้เป็นแม่ยืนช้อนด้านหลังดูความเรียบร้อยของชุดอีกรอบ
“วันนี้ลูกสาวแม่สวยที่สุดเลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ว่าแต่ หนูอยู่ที่นี่กับพี่เขาได้จริง ๆ ใช่ไหม ถ้ายังไม่…แม่จะพูดกับพ่อให้ รอหนูอายุครบยี่สิบแล้วค่อยย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน”
“อยู่ได้ค่ะ” น้ำเสียงมั่นคงและแววตาแน่วแน่ของลูกสาว ทำให้เธอรู้สึกวางใจมากขึ้น อย่างไรเสียครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็รู้จักมักจี่กันมานาน
“จ้ะ ถ้าไม่สบายใจหรืออึดอัดกลับบ้านเราได้นะ”
“ค่ะแม่”
แกรก
บานประตูห้องแต่งตัวถูกผลักเข้ามาด้วยฝีมือของหญิงสาวร่างเพรียว ใบหน้าสะสวยอยู่ในชุดเดรสสีขาว
“ถึงเวลาแล้วสา” เมลพี่สาวของมาริษา เธอไล่สายตามองน้องสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา
“ค่ะ”
ภายในงานแต่งงานเล็ก ๆ มีเพียงคนในครอบครัวของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเท่านั้น โดยไร้ซึ่งญาติมิตร เพื่อนฝูงหรือคนรู้จัก
“ไปรับน้องสิแทน”
แทนคุณเลื่อนสายตามองไปทางบันได พบกับเจ้าสาวของตัวเองที่กำลังก้าวขาเดินลงมา วันนี้เธอดูสวยสะดุดตาเป็นพิเศษ แต่สุดท้ายสายตาเขากลับหลุดโฟกัส มองไปที่พี่สาวของเธอแทนอย่างไม่สามารถห้ามได้
“น้องสวยจนอึ้งไปเลยใช่ไหมล่ะ”
เสียงเอ่ยแซวของผู้เป็นแม่ทำให้แทนคุณหลุดออกจากภวังค์ความคิด สาวเท้าเดินตรงไปหาเจ้าสาวทันที โดยไม่ได้ต่อบทสนทนากับผู้เป็นแม่
“ฝากน้องด้วยนะแทนคุณ” วิจิตตรานำมือลูกสาววางบนฝ่ามือใหญ่ ส่งต่อให้เป็นหน้าที่ของเจ้าบ่าว
“ครับ”
มาริษาช้อนตาขึ้นมองสบตากับแทนคุณเพียงครู่ ก่อนจะเป็นฝ่ายหลุบตามองต่ำอย่างเขินอาย สาวเท้าเดินไปเข้าพิธีพร้อมผู้ชายที่แอบรักมานาน
แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง ที่เธอและเขาได้แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน