บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 | โง่จริง ๆ ด้วยแฮะ

ผับ Moon

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ขออนุญาตเข้าไปนะครับนาย”

“เข้ามา” แทนคุณเอ่ยเสียงตอบรับ ขณะสายตาจดจ่อที่หน้าจอคอม นิ้วมือคลิกที่เม้าส์ บานประตูห้องทำงานถูกผลักเข้ามา ด้วยฝีมือของลูกน้องคนสนิท

ทิมโค้งศีรษะทำความเคารพผู้เป็นนายก่อนจะกล่าวรายงาน “คุณนาวากับคุณฟรานซ์มาถึงแล้วนะครับ”

“อือ ให้พวกมันรอไปก่อนห้านาที”

“ครับนาย” ทิมโค้งศีรษะอีกครั้งแล้วเดินออกไป แทนคุณปรายตามองตามหลังลูกน้องคนสนิทเพียงนิด ก่อนกลับไปสนใจหน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อ

“งานยังสำคัญกว่าทุกสิ่งสินะ”

“ประชดกูเพื่อ?” แทนคุณทิ้งตัวนั่งบนโซฟาตัวเดี่ยวข้าง ๆ กับนาวา ตรงข้ามฟรานซ์เจ้าของประโยคข้างต้น

“ให้พวกกูนั่งรอตั้งห้านาที”

“ไอ้สัส!ปัญญาอ่อน”

“วันนี้แต่งเมียเข้าบ้านไม่ใช่เหรอ ทำไมยังมีอารมณ์มาทำงานอีกล่ะวะ” นาวาเทเหล้าราคาแพงใส่ในแก้วเปล่า แล้วเลื่อนไปตรงหน้าแทนคุณ

แทนคุณคว้าแก้วเหล้าราคาแพงที่เพื่อนส่งมาให้กระดกดื่ม ในคราเดียวหมด โดยไม่ได้ตอบคำถาม แต่ย้อนถามกลับไปแทน “มึงก็รู้นิว่ากูเพิ่งแต่งงาน แล้วพวกมึงจะชวนกูมาดื่มอีกทำไมล่ะ”

“ยอกย้อนเก่ง เดาว่ามึงต้องเข้าผับไง”

“หึ” แทนคุณกระตุกยิ้มมุมปากพลางเลื่อนแก้วเปล่าไปให้นาวา

“เป็นกูนะ อยู่บ้านเข้าหอ จัดเมียเด็กยันเช้าบอกเลย ปกติเรื่องผู้หญิงมึงไม่เคยพลาดนี่หว่า”

“ผู้หญิงจืดชืดไร้เสน่ห์แบบนั้น กูเอาไม่ลง แถมยัง…” แทนคุณหยุดค้างท้ายประโยคไม่พูดต่อ แต่กระดกดื่มเหล้าราคาแพงในมือจนหมดแก้ว

“เป็นน้องสาวของน้องเมล แฟนเก่าที่มึงรักมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ” นาวาเล่นเสียงตอบแทน คนที่ไม่กล้าเอ่ยถึงแฟนเก่าตัวเอง อย่างต้องการหยอกล้อ ทำเอาแทนคุณพูดไม่ออก เพราะเป็นเรื่องจริง

“กูถามมึงจริง ๆ นะ คิดไงถึงยอมตกลงแต่งงานกับน้องสาวแฟนเก่าวะ” ฟรานซ์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง หลังจากยกแก้วเหล้าราคาแพงขึ้นจิบ รู้ข่าวว่าแทนคุณจะแต่งงานไม่กี่วันก่อนงานแต่งนี้เอง ซึ่งจัดขึ้นเฉพาะภายในครอบครัวสองฝ่าย เหมือนไม่ต้องการให้คนภายนอกรับรู้

“คำตอบเดิมที่กูเคยตอบ”

“เพื่อธุรกิจครอบครัวแล้ว มึงยอมเสียสละความโสดของตัวเองเลยงั้นเหรอ ทั้งที่มึงก็มีทั้งผับและบริษัทอยู่แล้ว”

“เออ!” แทนคุณกระแทกเสียงตอบอย่างขอไปที แล้วยกแก้วเหล้าราคาแพงขึ้นกระดกดื่มรวดเดียวหมดอีกครั้ง ซึ่งคำตอบนั้นไม่ได้ทำให้เพื่อนทั้งสองเชื่อเลยสักนิด นิสัยดื้อด้าน ไม่ยอมคนอย่างแทนคุณ คงมีจุดประสงค์อะไรอีกบางอย่างถึงได้ยอมตกลงแต่งงานกับน้องสาวของแฟนเก่า

“แม่ง!คนดีฉิบหาย”

แทนคุณไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ จิบเหล้าราคาแพงท่าทางเรียบนิ่ง หลังจากนั้นก็เปลี่ยนประเด็นคุยเรื่องสัพเพเหระ

คฤหาสน์ พีรพัฒน์

รถบีเอ็มหรูสีฟ้าขับเคลื่อนเข้ามาจอดในโรงจอดรถของคฤหาสน์หลังใหญ่ ในเวลาเที่ยงคืนย่างเข้าตีหนึ่งในอีกไม่กี่นาที เจ้าของรถเปิดประตูก้าวขายาวออกจากตัวรถ สาวเท้าเดินไปยังตัวบ้าน ลูกน้องละแวกนั้นที่เฝ้าเวรยาม ต่างโค้งศีรษะทำความเคารพ เมื่อผู้ทรงอำนาจของบ้านเดินผ่าน

แทนคุณหยุดชะงักฝีเท้า เมื่อไฟในห้องอาหารยังเปิดอยู่ ปกติเวลานี้แม่บ้านจะไล่ปิดไฟส่วนที่ไม่ได้ใช้ทั้งหมด ครุ่นคิดอยู่สักครู่ก่อนเดินไปดู

“ยัยเด็กนี่ มานอนทำไมตรงนี้” หัวคิ้วหม่นเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อหญิงสาวร่างเล็กที่เพิ่งแต่งงาน จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยากันเมื่อเช้า นอนหลับฟุบหน้าไปกับโต๊ะอาหาร “คงไม่โง่รอหรอกใช่ไหม”

แทนคุณถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วสาวเท้าเดินไปปลุกภรรยาสาว ที่อายุน้อยกว่าสิบปีได้ อายุสิบเก้าก็ถือว่าเด็กสำหรับเขาอยู่มาก

“นี่เธอ” น้ำเสียงแข็งกระด้างขานเรียกพลางเขย่าไหล่เล็กอย่างไม่แรงมาก ทำให้คนที่ฟุบหน้าหลับตื่นจากห้วงนิทรา

มาริษาขยับเคลื่อนไหวร่างกาย ก่อนจะยืดตัวขึ้นพยายามปรือตาขึ้นมองเจ้าของเสียงอย่างยากลำบาก ใช้หลังมือขยี้เปลือกตา เห็นเจ้าของใบหน้าหล่อราง ๆ ก่อนที่สายตาจะปรับรับแสงได้เป็นปกติ

“พี่แทน” แววตาคมกริบมองมาอย่างดุ ๆ ส่งผลให้หัวใจเต้นถี่แรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยอัตโนมัติ

“จะตีหนึ่งแล้ว ทำไมไม่ขึ้นไปนอนที่ห้อง ฟุบหน้าหลับตรงนี้ให้ลำบากทำไม”

มาริษาหันขวับไปมองนาฬิกาแขวนผนังด้วยความตกใจ เธอนั่งรอสามีกลับบ้านตั้งแต่ช่วงค่ำ ไม่รู้ว่าตัวเองผล็อยหลับไปยามไหน

“…เออ” ส่งเสียงเอ่ออ่าตาหลุกหลิก ไม่กล้าตอบออกไปตรง ๆ ว่านั่งรอเขาเพราะกลัวถูกดุ เนื่องจากช่วงเย็นเขาพูดดักคอเธอก่อนออกจากบ้าน

“หวังว่าเธอ คงไม่โง่มานั่งรอฉันกลับหรอกใช่ไหม?”

คำว่าโง่ของแทนคุณพลันทำให้มาริษาจุกที่อกจนพูดไม่ออก เธอพยายามประคับประคองสีหน้าให้เป็นปกติ เก็บซ่อนความน้อยใจเอาไว้ให้ลึกที่สุด

“สาตั้งใจรอพี่แทนค่ะ”

“โง่จริง ๆ ด้วยแฮะ ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าไม่ต้องรอ ถ้าฉันไม่กลับ เธอก็คงอยู่ตรงนี้ทั้งคืนสินะ” แทนคุณกอดอกมองภรรยาสาวแววตาเหยียดหยาม

“คงงั้นมั้งคะ”

“คราวหลังไม่ต้อง”

มาริษาไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เธอถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่พลางหลุบตามองต่ำ

“รีบขึ้นไปนอนได้แล้ว”

“พี่แทนกินอะไรมาหรือยังคะ?”

“ดึกป่านนี้แล้วฉันคงปล่อยให้ตัวเองหิวหรอก” พ่นวาจาร้ายกาจใส่ภรรยาจบแทนคุณก็เดินออกจากห้องอาหารทันที ปล่อยให้มาริษานั่งหน้าชาอยู่อย่างนั้นคนเดียว

“…” เธอระบายลมหายใจออกมาอีกครั้ง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปสักกี่ปี ผู้ชายที่เธอแอบรักและเพิ่งแต่งงานด้วย ยังคงปากคอเราะรายเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน

หากเขาและพี่สาวไม่เลิกรากัน ป่านนี้เขาทั้งคู่คงแต่งงานมีความสุขกันไปนานแล้ว

“ยังรักพี่เมลอยู่ไหมนะ”

------------------

ปากพี่นี่หน้าตีจริง ๆ นะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel