ตอนที่ 2 มื้อนี้มีเซอร์ไพรส์
เช้าวันถัดไป เวลา 09 : 00 น.
บริษัท วรเมธาวี กรุ๊ป
ภายในห้องทำงานมีชายหนุ่มร่างสูงกำนังนั่งอ่านเอกสารมากมายที่กองอยู่บนโต๊ะด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ผ่านไปสักพักกองเอกสารก็เริ่มลดลงเหลือแค่ไม่กี่เล่มที่ต้องเซ็น
ติ้งๆ~
เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือ ชายหนุ่มชะงักมือที่กำลังเ็นเอกสารทัน วางปากกาลงก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดข้อความที่แจ้งเตือน
-แม่-
'วันนี้แม่กับพ่ออยากชวนลูกไปกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารด้วยกัน' ผู้เป็นแม่ส่งข้อมาพร้อมกับโลเคชั่นร้านอาหาร
"ได้ครับแม่" ชายหนุ่มตอบกลับข้อความด้วยมึนงง 'เรื่องสำคัญอะไรกันนะ' ชายหนุ่มคิดในใจก่อนจะปิดโทรศัพท์หันมาสนใจเอกสารตรงหน้า แต่ไม่ทันได้จับปากกา เสียงโทรศัพท์มือถือแจ้งเตือนมาอีกครั้ง
ติ้ง~
ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากทันทีเมื่อหันหน้าไปมองโทรศัพท์มือถือ รีบหยิบขึ้นมาตอบข้อความนั้นด้วยความรวดเร็ว
-มิล่า-
- 'พี่วายุทำอะไรอยู่ค่ะไม่เห็นทักข้อความหาหนูเลย'
"ขอโทษครับ พี่ทำงานอยู่ครับ" ชายหนุ่มยิ้มไม่หยุดนึกถึงใบหน้าของหญิงสาวตอนนี้คงจะทำหน้ามุ่ยน่าเอ็นดูอยู่แน่เลย
'ขอโทษค่ะ หนูไม่กวนพี่แล้วค่ะ' หญิงสาวตอบข้อความกลับมาพร้อมกับสติกเกอร์สู้ๆ
"ขอบคุณครับเจ้าตัวเล็ก" และมีอิโมจิหัวใจสีชมพูแต่ชายหนุ่มกลับลบอิโมจิออกแล้วก็กดส่งข้อความนั้นไป
ชายหนุ่มยังคงคิดถึงใบหน้าที่อ่อนหวาน น่ารัก เขาค่อยดูแลเธอ ตามใจเธอทุกอย่างเพราะเขาไม่รู้ว่าได้ตกหลุมรักเธอตั้งแต่ตอนไหน มารู้ตัวว่าได้แอบรักเธอหัวปักหัวปำ เขารู้ว่าเธอคิดกับเขาแค่พี่ชายเท่านั้น อต่เขาไม่สนใจ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะครอบครองหัวใจของเธอทั้งสี่ห้องให้ได้
ด้านมิล่า
หญิงสาวที่กำลังเพิ่งส่งข้อความหาชายหนุ่มที่วันนี้เขาเงียบหายไปเลยจึงลองทักหาชายหนุ่มไม่คิดว่าเขากำลังติดงานอยู่ เธอกำลังนั่งเล่นอยู่ที่ส่วนดอกไม้ที่เธอและคุณแม่ช่วยกันปลูกมีดอกไม้หลากหลายชนิด แต่เธอชอบดอกกุหลาบสีพีชมาก
"มิล่าลูก" หญิงสาวที่นั่งเล่นเพลินๆแอบสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินผู้เป็นแม่เรียก หญิงสาวหันไปมองทางต้นเสียงก่อนจะยิ้มตาหยีให้ผู้เป็นแม่ด้วยความเอ็นดู
"ขา~" หญิงสาวขานรับเสียงหวาน
"หนูกำลังทำอะไรอยู่จ๊ะ" คุณหญิงพิมลดา เอ่ยถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
"นั่งเล่นเฉยค่ะวันนี้ดอกไม้เบ่งบานสวยมากเลยค่ะ" หญิงสาวหันไปมองดอกไม้ที่บานสะพรั่งเต็มสวนมีผีเสื้อมากมายต่างพากันมาดอมดม
"จ๊ะ...เอ่อแม่แค่จะมาว่าวันนี้พวกเราไปกินนอกบ้านนะจ๊ะลูก" หญิงสาวหันมามองผู้เป็นแม่ด้วยความมึนงง
"วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรเหรอคะ" หญิงสาวเอ่ยถามผู้เป็นแม่ด้วยสีที่ยังสงสัยไม่หาย
"เอ่อ...ตอนเย็นลูกจะรู้เองค่ะ...แล้วก็อย่าลืมแต่งตัวสวยๆ ด้วยน้า~" คุณหญิงพิมลดา พูดจบก็รีบหันหลังเดินกลับเข้าบ้านทันทีกลัวว่าความลับจะรั่วไหลออกไป
หญิงสาวยังคงมองแผ่นหลังผู้เป็นด้วยความสงสัยเพราะแม่ของเธอทำตัวมีพิรุจมาก
"มีเรื่องอะไรกันนะ" หญิงสาวพึมพำออกมาแผ่วเบาก่อนจะหยิบขนมขึ้นมากินแต่ยังคงสงสัยไม่หาย
หญิงสาวก็ยังคงนั่งเล่น ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อยหลังเวลาผ่านไปอากาศข้างนอกก็เริ่มร้อนหญิงสาวก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปภายในบ้านทันที
ภายในบ้าน
เมื่อหญิงสาวเดินเข้าบ้านมาอย่างอารมณ์ดีเห็นผู้เป็นพ่อนั่งอ่านเอกสารอะไรบ้างอย่างก็รีบเดินเข้าไปนั่งข้างๆก่อนจะกอดแขนผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อน
"คุณพ่อขา...วันนี้มีอะไรพิเศษเหรอคะถึงต้องไปกินนอกบ้านกัน" หญิงสาวเอียงคอมองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างสงสัย
"อ๋อ...พ่อกับแม่แค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศเฉยๆลูกไม่มีอะไรพิเศษหรอก" หญิงสาวแค่พยักหน้าเข้าใจแต่ก็ยังคงไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์
"งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ" หญิงสาวกอดแก้มผู้เป็นพ่อหนึ่งทีก่อนจะรีบวิ่งขึ้นห้องไป
ท่านอดิศักดิ์ถอดหายใจโล่งอกที่ลูกสาวไม่ถามอะไรเยอะแยะ
'เกือบไปแล้ว' ท่านอดิศักดิ์คิดในใจ
เวลา 17 : 00 น.
ชายหนุ่มร่างสูงที่เพิ่งทำงานเสร็จกำลังเดินออกมาจากลิฟท์เพื่อที่จะไปร้านอาหารที่แม่ของเขาได้นัดกับเขาไว้เมื่อช่วงเช้า ชายหนุ่มเดินมาถึงรถก็รีบขึ้นรถและบอกให้คนขับรถออกรถได้เลย
"ออกรถ" คนขับรถพยักหน้าก่อนจะสตาร์ทรถออกจากบริษัททันที
ตลอดทางชายหนุ่มนั่งคิ้วขมวดสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อยเพราะเอาแต่คิดว่าพ่อแม่มีเซอร์ไพรส์อะไรอีก 'คงไม่ใช่หาคู่ให้เขาอีกนะ' ชายหนุ่มคิดในใจก่อนจะถอดหายเฮือกใหญ่
"คุณวายุมีเรื่องเครียดอะไรรึเปล่าครับ" คนขับรถที่ได้ยินเสียงเจ้านายุอดหายใจก็เอ่ยถามด้วยเป็นห่วง
"เปล่าแค่เหนื่อยนิดหน่อย" ชายหนุ่มตอบคำถามคนขับรถก่อนจะหลับลงเพื่อพักผ่อนสายตา
ผ่านไปสักพักก็มาถึงร้านอาหารสุดหรูริมแม่น้ำ บอดี้การ์ดเปิดประตูให้เจ้านายทันที
ชายหนุ่มก็ลงจากรถเช็คความเรียบร้อยก่อนจะเดินเข้าสู่ภายในร้านแม่ของเขาได้บอกไว้แล้วว่ารออยู่ที่ห้อง VIP
ชายหนุ่มเดินมาถึงประตูห้อง VIP บอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าหน้าประตูก็เปิดประตูอย่างรู้งาน เมื่อประตูเปิดชายหนุ่มก็เดินเข้าไปภายในทันที
แกร๊ก~
"พี่วายุ~" ชายหนุ่มที่เดินเข้าก็ตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความดีใจเพราะคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะคือหญิงสาวที่เขาเฝ้าค่อยคิดถึงอยู่ตลอด มิล่า
"สวัสดีครับ" ชายหนุ่มนั่งลงที่เก้าอี้ข้างหญิงสาวที่วันนี้ใส่ชุดเดรสสีอ่อนพออยู่บนตัวเธอยิ่งทำให้น่ามอง ชายหนุ่มมองหญิงสาวตาไม่กระพริบ เขานั่งเครียดมาตลอดทางคิดว่าพ่อแม่เขาจะจับคู่ให้กับลูกสาวตระกูลอื่นสักอีก
"ตายุ สวัสดีคุณอาคุณน้าก่อนนะลูกมองน้องตาไม่กระพริบเลยนะ" คุณหญิงวรรณวิภาดุลูกชายที่นั่งมองแต่น้องจนลืมผู้ใหญ่ที่นั่งกันอยู่
"ขอโทษครับ สวัสดีครับคุณอาคุณน้า" ชายหนุ่มรีบขอโทษผู้ใหญ่ก่อนจะยกมือไหว้อย่างสุภาพ
"สวัสดีตายุ/ สวัสดีจ๊ะ" ท่านอดิศักดิ์และคุณหญิงพิมลดา เอ่ยรับไหว้ชายหนุ่มก่อนจะเริ่มทานอาหารกัน
"เอ่อ...วันนี้มีอะไรพิเศษรึเปล่าครับ" ชายหนุ่มที่นั่งทานอาหารไปสักพักเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"เอ่อ...พ่อกับอาอดิศักดิ์มีความคิดว่าอย่างให้พวกเราปรองดองกัน" หญิงสาวที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบวางช้อนในมือมองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยความสงสัย
"ปรองดองอะไรคะ" หญิงสาวหันมาถามพ่อของชายหนุ่มด้วยความสงสัยก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังอมยิ้มอย่างเลศนัย
ชายหนุ่มที่ได้ยินแบบนั้นก็ดีใจอยู่ในใจ แต่ไม่ได้แสดงท่าทางออกมามากนัก
"ลุงอยากให้หนูมิล่าแต่งงานกับตายุ" หญิงสาวนิ่งอึ้งไปเลยเมื่อได้ยินแบบนั้น
"ตะ...แต่มิล่ายังเรียนอยู่เลยนะคะและอีกอย่างมิล่าเพิ่งอายุสิบแปดเอง" หญิงสาวหันไปส่งสายตาชายหนุ่มช่วยพูดอะไรสักอย่างแต่เขาเอาแต่นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น
"พี่วายุ" หญิงสาวเรียกชายหนุ่มอย่างแผ่วเบาแต่ชายหนุ่มกลับไม่ปฏิเสธอะไรเลย
"ผมยังไงก็ได้ครับ" ชายหนุ่มบอกผู้ใหญ่ทั้งสองแบบนั้นต่างกันยิ้มออกมาด้วยดีใจคงมีแต่หญิงสาวที่ทำหน้าบึ้งตึง
"....ค่ะ" หญิงสาวจำใจต้องทำตามที่ผู้ใหญ่ต้องการเพราะว่าที่เจ้าบ่าวไม่มีท่าทีจะปฏิเสธอะไรเลยแถมยังยินดีทำตามผู้ใหญ่
หลังจากนั้นผู้ใหญ่ต่างพากันทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยด้วยไม่ได้สนใจหญิงสาวที่ทำหน้าบุญไม่รับเมื่อหันไปทางชายหนุ่มเขาไม่มีท่าทีลำบากใจอะไรเลยยังคงตักนู้นตักนี่ให้เธอไม่หยุด
