CHAPTERS2 ตอน แอบห่วง
CHAPTERS2 ตอน แอบห่วง
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จฉันก็ตั้งใจขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้านพ่อแม่ก่อน ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่แค่รู้สึกว่าตอนนี้มันเหนื่อยมากๆก็เท่านั้น ทันทีที่ถึงบ้านฉันรีบจอดรถแล้วเดินเข้าไปในบ้านเห็นแม่กำลังนั่งดูทีวีอยู่จึงไปนั่งข้างๆแม่
"มาได้ไงลูก มาคนเดียวเหรอ?" แม่มองหน้าเราก่อนจะมองหาใครอีกคน แม่คงกำลังมองหน้าธีวินแน่ๆ
"หนูมาคนเดียวค่ะ วินเขามีธุระแต่เช้าค่ะ"
"อ๋องั้นนเหรอลูก กินข้าวรึยัง"
"กินแล้วค่ะ"
"นิตาแม่มีเรื่องให้หนูช่วยจะได้ไหมลูก?"
"ได้ค่ะ แม่มีอะไรให้หนูช่วยคะ"
"วันนี้แม่และคุณพ่อมีนัดคุยงานที่ต่างจังหวัดเรื่องธุรกิจแล้ววันนี้ก็มีประชุมที่บริษัทกับเตชิน หนูไปประชุมแทนพ่อกับแม่ได้ไหมนิตา"
"ได้สิคะ เดี๋ยวนิตาประชุมแทนเองค่ะ"
"งั้น แม่ขอแม่ฝากด้วยนะลูก ถ้างานที่นั้นไม่เร่งพ่อกับแม่พ่อคงจะเข้าประชุมเองลูก"
"ค่ะ หนูเข้าใจค่ะ งั้นหนูไปเลยนะคะกลัวไม่ทันค่ะ"
"จ้ะ รอแม่สักแป๊บนะเดี๋ยวแม่ไปหยิบเอกสารให้ก่อน" แม่เดินขึ้นไปข้างบนชั้นสองของบ้าน ก่อนจะเดินลงมาพร้อมแฟ้มเอกสาร
"ฝากด้วยนะนิตาลูก"
"ค่ะ" ฉันพยักหน้าก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วเดินมาที่รถขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัท......
จนมาถึงหน้าบริษัทจึงหยิบแฟ้มทุกอย่างก่อนจะเดินเข้าบริษัท ผู้คนก็ต่างพากันมองมาที่ฉันพร้อมรอยยิ้ม
"ยินดีด้วยนะคะท่านประธาน"
"ทำไมคะ" ฉันเอ่ยถามด้วยความมึนงง
"เรื่องแต่งงานไงคะ ท่านประธานแต่งงานกับคุณธีวินลูกเจ้าของบริษัทใหญ่มากค่ะงานแต่งเป็นข่าวดังมากเลยนะคะเรื่องสองบริษัทที่ดองกัน"
"อ๋อค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาแสดงความยินดีด้วย"
"ค่ะ คุณเตชินรออยู่ที่ห้องประชุมแล้วนะคะ"
"ขอบคุณค่ะ งั้นขอตัวก่อนนะคะ" ฉันรีบเดินออกมาจากตรงนั่นเพื่อเดินไปห้องประชุมข้างบน
ก๊อกๆ แกร๊กกกก
"ขอโทษนะคะที่มาสาย" พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นผู้ใหญ่หลายคนจ้องมาที่ฉัน ฉันจึงเอ่ยคำขอโทษเพราะเข้าห้องประชุมสายตั้งสามนาที
"ไม่เป็นไรครับ พวกเราก็พึ่งเข้ามาเหมือนกัน งั้นเราเริ่มการประชุมกันเลยนะครับ"
"ค่ะ"
"นี่จะเป็นแผนการตลาดใหม่ ที่เราจะเจาะจงลูกค้าโดยเฉพาะเลย ผมเห็นว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการความทันสมัยสะดวกสบายผมจึงคิดโปรเจกต์นี้ขึ้นมา" ฉันตั้งใจฟังคำบรรยาของคุณชีวาเขาเก่งมาก
"ดิฉันคิดว่า เราควรสร้างสองแบบนะคะ แบบแรกแบบที่สนใจจริงๆและแบบที่สองแบบที่มีความสนใจบ้าง"
"ผมก็เห็นด้วยนะ เราสร้างสองแบบก็ดีเพราะมันจะได้เข้าถึงได้ง่ายและสะดวก" พี่เตชินเอ่ยสมทบ
"ผมก็เห็นด้วยกับคุณเตชินและคุณนิตานะครับคุณชีวา"
"ถ้าทำสองแบบเราต้องลงพื้นที่สำรวจใหม่นะครับและต้องทำแผนใหม่อีกขั้นเพื่อรองรับสองระบบนี้"
"ค่ะ งั้นให้ฝ่ายที่จัดการเรื่องนี้ดำเนินการ แล้วแจ้งผลมาเป็นระยะๆ"
"แล้วเรื่องลงพื้นที่ที่ต่างจังหวัดละครับ พอดีมีกลุ่มบริษัทสนใจแต่ต้องการให้เราไปประสาสัมพันธ์ที่โน้นจะยังไงครับ"
"งั้นเดี๋ยวดิฉันจะไปลงพื้นที่ตรงนี้เองนะคะ"
"งั้นผมไปด้วยคน" พี่เตชินหันมามองหน้าฉัน
"ค่ะงั้นเอาตามนี่นะคะ เดี๋ยวมีอะไรเพิ่มเติมจะแจ้งให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์แจ้งวันประชุมอีกทีนะคะ"
"ครับ"
"ค่ะ"
"งั้นปิดประชุมค่ะ" พอเลิกประชุมทุกคนก็เดินออกมาฉันจึงก้มมองดูแฟ้มเอกสารเกี่ยวกับโครงการนี้ เพราะเราอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้นิดหน่อย
"ทำไมตาแดงล่ะ?" ในขณะที่ก้มลงอ่านก็มีเสียงเอ่ยถามขึ้นมา
"เอ้า พี่เตชินยังไม่ออกไปเหรอคะ"
"ยัง พี่มีเรื่องอยากถามเรา"
"ค่ะ ถามมาเลยค่ะถ้าหนูสามารถตอบพี่ได้หนูก็จะตอบให้"
"ร้องไห้มารึเปล่า"
"ปะ…เปล๊าค่ะ หนูไม่ได้ร้องพี่ถามทำไมคะ"
"พี่ก็ถามไปงั้นล่ะ"
"ตอนเที่ยงไปกินข้าวกับพี่ไหม พี่อยากเลี้ยงเรา"
"ได้สิค่ะ แต่หนูขอเคลียร์งานก่อนนะคะ งานท่วมหัวหนูมาก" ยิ้มแห็งๆให้กับกองเอกสาร
"ได้ งั้นพี่จะไปคุยกับลูกค้าแล้วเที่ยงๆจะมารับไปกินข้าว"
"ค่ะ" เราพูดก่อนจะหันกลับมาสนใจกับกองแฟ้มเอกสารเหมือนเดิม
เวลาเที่ยงวัน
ตอนนี้ฉันและพี่เตชินพากันมากินข้าวเที่ยงที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
"หนูอยากกินอาหารร้านไหน เป็นพิเศษรึเปล่า"ในระหว่างที่กำลังเดินหาร้านอาหารพี่เตชินก็หันมาถาม
"หนูแล้วแต่พี่เตชินเลยค่ะ" ฉันเป็นคนง่ายๆสบายกินอะไรก็ได้ได้หมด
"งั้นกินอาหารร้านนี่เนอะ คนไม่ค่อยเยอะดี" พี่เตชินชี้ไปที่ร้านอาหารไทยร้านหนึ่ง
"ได้ค่ะ" แล้วพวกเราก็เดินเข้าไปในร้าน แต่สายตาเจ้ากรรมของเราก็เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งที่นั่งกินข้าวอยู่
"เป็นอะไรรึเปล่า?" เราละสายตาจากพวกเขาก่อนจะหันมาตอบกลับพี่เตชิน
"เปล่าค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไร"
"แล้วนั่นมันธีวินนิ มากับใคร?" พี่เตชินหันไปทางโต๊ะเขา
"เราไปกินข้าวกันเถอะนะคะ เขาคงจะมาทานอาหารกับเพื่อนร่วมงานเขามั้งคะ" เรารู้ว่าเขามากับใครเขามากับแฟนสาวของเขาไง
"ไปทักทายเขาก่อนไหม เดี๋ยวพี่หาโต๊ะรอ!"
"ไม่เป็นไรไรหรอกค่ะ หนูหิวมากแล้วไปกินข้าวกันเถอะค่ะ" เราคงไม่มีสิทธิอะไรที่จะไปทักทายเขาหรอก
"เอางั้นเหรอ ก็ได้" แล้วเรากับพี่เตชินก็พากันนั่งตรงใกล้ๆทางออก ผู้หญิงคนนั้นก็มองมาที่เราแล้วแสยะยิ้มใส่เรา เราเลือกที่จะไม่สนใจแล้วก็ก้มหน้าก้มตาสั่งอาหารต่อ
"เอาอะไร เพิ่มอีกไหมนิตา เหม่ออะไรคะ"
"อะ...อ๋อเปล่าค่ะ เอาแค่นี้ล่ะคะแค่นี้ก็ทานจะไม่หมดแล้ว"
"งั้นเอาแค่นี้ครับ" พี่เตชินส่งกระดาษเมนูคืนให้พนักงงานในขณะที่รออาหาร เราเลยขอตัวมาเข้าห้องน้ำก่อนเรานั่งในห้องน้ำก่อนจะชับคราบน้ำตาเล็กน้อยเสียใจกับการรักใครสักคนแต่คนนั้นเขาไม่เคยรักเราเลยสักนิด แต่เราก็ยังจะหลงรักเขาอยู่ดีสมควรแล้วที่ต้องเจ็บแบบนี้ เราเช็ดคราบน้ำตาก่อนจะเดินออกมาล้างมือหน้ากระจกใบหนึ่ง
"เอ้า! สวัสดีค่ะคุณนิตา!" ขณะที่เราล้างมือมีเสียงปริศนาของบุคคลหนึ่งเรียกชื่อเราพร้อมกับเอ่ยทักเรา
"ค่ะ" เรายังไม่ได้มองหน้าบุคคลนั้นเรากำลังล้างมือ
"หึ…เมื่อคืนเหงาไหมคะคุณนิตา" พอเราได้ยินอย่างงั้นเราเลยรีบเงยหน้ามองเเธอทันที
"…" เราเลือกที่จะเงียบ
"เมื่อคืนขอโทษด้วยนะคะที่วินเขามานอนกับฉันแล้วทิ้งคุณไว้ในห้องหอแบบนั้นคงเหงาแย่เลย"
"ไม่ค่ะ ฉันไม่เหงา!!!"
"งั้นเหรอคะ จำไว้นะคะคุณนิตาว่าผู้หญิงป้าๆอย่างคุณใครจะเอา ว่างๆตักน้ำชะโงกดูเงาด้วยนะคะว่าตัวเองล้าสมัยแค่ไหน สมเพชค่ะ"
"ฉันเป็นพวกที่ไม่ชอบโชว์ในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องโชว์คนเราไม่ได้มีดีแค่การแต่งตัวนะคะ"
"แต่ก็เอาเถอะค่ะ เชิญเป็นป้าต่อไปเถอะนะคะ แล้วฉันจะดูแลวินให้ดีเองให้มีความสุขมากๆเลยค่ะ"
"คุณไม่อายเหรอคะ รู้ว่าเขาแต่งงานแล้วยังจะทำผิดแบบนี้!"
"แต่งงานโดยที่ไม่ได้รักน่ะเหรอ"
"ถึงจะรักหรือไม่รัก คุณก็ไม่ควรนะคะ" เราไม่รู้ว่าเราจะพูดยังไงกับเธอเราไม่อยากมีเรื่องด้วย
"งั้นเหรองั้นก็นอนกอดทะเบียนสมรสให้แน่นๆนะคะ เผื่อมันจะอยู่ได้ไม่นาน"
"…"
"นี่นะคะ ฉันให้ดูเพื่อให้เธอรู้ว่าใครคือตัวจริงของวิน" เธอยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้เราดู มันเป็นรูปของเธอและเขานอนกอดกันกลมเราเม้มปากเข้าหากันแน่น
"จำไว้นะคะ ทะเบียนสมรสไม่ได้มีค่าอะไรกับเขา เขาต้องการหย่าจะตายไป เขาไม่ได้รักเธอสักนิด"
"ขอตัวนะคะ" เราพูดก่อนจะเดินออกไป พอเราเดินออกมาหางตาของเรามันก็ไปสะดุดกับสายตาของวินที่มองมาที่เราเราเลือกที่จะไม่สนแล้วเดินมานั่งโต๊ะ ซึ่งพี่เตชินก็ถามเรา
"ไปเข้าห้องน้ำนานจังพี่คิดว่า หนีกลับซะแล้ว"
"เปล่า หนูเจอเพื่อนก็เลยคุยกันนิดหน่อย ขอโทษนะคะที่ทำให้รอ"
"อ๋อ… งั้นกินข้าวเถอะมีแต่อาหารน่ากินมากเลย" เรามองอาหารที่เต็มโต๊ะ
"งื้อ น่าทานจริงๆด้วย"
"งั้นกินกันเถอะ มันจะไม่อร่อยนะถ้าไม่กินร้อนๆ"
"โอเคค่ะ' แล้วพวกเราก็พากันกิน อาหารอร่อยมากเลยพี่เตชินก็ตักให้เรา เยอะมาก พี่เขาเป็นคนที่ตลกนะอยู่ด้วยแล้วก็อบอุ่นเปรียบเสมือนพ่อและพี่ชายในเวลาเดียวกัน
"นิตา" ขณะที่เรากำลังหัวเราะกินข้าวกันอย่างมีความสุข ก็มีเสียงดุดันเรียกเรา
"มีอะไรรึเปล่าวิน!!!" พี่เตชินเอ่ยถามเขามีจ้องมองหน้าเรา
"พ่อเรียกให้ไปเจอที่บริษัทด่วน" น้ำเสียงดุดันปนความหงุดหงุด
"งั้นนิตาขอตัวก่อนนะคะพี่เตชิน เดี๋ยวนิตาจะรีบไปหาคุณพ่อก่อน"
"ให้พี่ไปส่งไหม หนูไม่ได้เอารถมาไม่ใช่เหรอนิตา"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวนิตานั่งแท็กซี่ไปเองดีกว่าค่ะ ขอบคุณสำหรับอาหารวันนี้นะคะ"
"เอางั้นเหรอ!!!!"
" ค่ะ" พอพูดเสร็จเราก็เดินออกมาเพื่อจะมานั่งแท็กซี่ไปบริษัทเพื่อกลับไปเอารถก่อน!"
"หึ…เธอมันก็ไม่เบานะนิตา" ขณะที่เรายืนรอรถเสียงของวินก็ดังขึ้น
"นายพูดอะไรของนายฉันไม่เข้าใจ"
"เธอนี่เล่นละครเก่งจังอยู่กับฉันแค่สองคนไม่ต้องแสดงละครหรอกนะ แสดงธาตุแท้ออกมาเถอะ" เขาพูดอะไรของเขาเนี่ย
"พูดอะไรของนาย ฉันแสดงอะไร!!!"
"เอ้า…ก็มั่วกับของเก่าเธอไง คิดว่าฉันไม่รู้รึไงว่าพวกเธอสองคนเป็นอะไรกัน"
"อย่าพูดกับพี่เตชินแบบนี้นะ พวกเราไม่ได้เป็นอย่างที่นายพูดสักนิด"
"หึ ฉันจะบอกอะไรให้ฟังนะเวลาจะทำอะไร ก็เกรงใจหน่อยฉันไม่อยากให้คนอื่นมาบอกว่าฉันโง่"
"เกรงใจงั้นเหรอทีนายทำล่ะ แล้วฉันไม่ใช่นายนะฉันรู้ผิดชอบชั่วดีพอที่จะไม่ทำตัวแบบนั้น"
"ฉันจะคอยดูก็แล้วกัน ว่าจะโกหกได้นานแค่ไหน" พอพูดเสร็จเขาก็เดินออกไป เรารู้สึกจุกไม่น้อยกับคำพูดของเขา นี่เขามองเราเป็นคนแบบไหนเราไม่เคยรักใครเลยนอกจากเขา ส่วนพี่เตชินเราก็เคารพเขาเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง
