EPISODES 4 | เป็นลม
"ก็เธอไงริชที่เป็นคนบอกให้แม่พี่ธันไล่ฉันออกจากบริษัท สะใจเธอแล้วใช่ไหมที่เห็นฉันเป็นแบบนี้ริช อยากตัดอนาคตฉันใช่ไหม เธอทำเพราะความสะอกสะใจ ฉันรู้ว่าเธอเกลียดฉันที่ฉันแย่งพี่ธันมาจากเธอ ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลยนะ" ภัทรตราเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าผ่อนเบา บีบน้ำตาชวนให้สงสาร
"ภัทรตราฉันไม่รู้เรื่อง ฉันไม่ได้บอกอะไรคุณแม่จริงๆนะ และไม่คิดจะบอกด้วยซ้ำเพราะพี่ธันจะทำอะไรมันก็เรื่องของพี่ธัน เราสองคนไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันอีกแล้ว เราสองคนอยู่ในฐานะพ่อกับแม่ให้กับณิชาเท่านั้น
ฉันไม่เคยคิดจะก้าวก่ายเรื่องของพวกคุณ อยากทำอะไรก็ทำฉันปลงแล้ว แผลที่พี่ทำไว้มันลึกสุดใจแล้ว ไม่อยากรับแผลใหม่อีกแล้ว อย่าหนีความเจ็บปวดด้วยซ้ำ" ฟาริชต้ามองหน้าทั้งคู่ทั้งน้ำตา เธอไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไป ทำไมธันวาถึงได้ใช้ความรักทำร้ายหัวใจเธอได้ขนาดนี้ แววตาของเธอและคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของเธอ เธอปวดร้าวแค่ไหนใครจะรู้บ้าง ความเข้มแข็งที่สร้างขึ้นมาปกป้องตัวเองใครจะรู้ว่ามันไม่ได้ง่ายเลย
"ฉันไม่เชื่อเธอหรอกนะริช คนอย่างเธอมันขี้อิจฉาจะตาย คงทนเห็นฉันกับพี่ธันมีความสุขไม่ได้ถึงทำแบบนี้ ต่อให้เธอบอกว่าไม่ได้ทำ ฉันก็ไม่เชื่อหรอกเพราะคนอย่างเธอไม่เชื่ออะไรไม่ได้สักอย่าง"
"งั้นเหรอฉันเองที่เคยคิดว่าเธอจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเวลาเธอลำบากฉันไม่เคยทิ้ง ดูสิ่งที่เธอมอบให้ฉันสิ ฉันไปทำอะไรให้เธอ เธอเข้ามาพังชีวิตครอบครัวคนอื่นทำไม คนที่เห็นแกตัวคือเธอ คือเธอคนเดียวเท่านั้นภัทรตา ทั้งที่เราเป็นผู้หญิงเหมือนกันน่าจะเข้าใจหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกันดี" ยิ้มให้คนทั้งโลกเหมือนว่าตัวเองเข้มแข็ง แล้วจะมีใครบ้างที่เห็นความเจ็บปวดภายใต้รอยยิ้ม ความทุกข์ระทมในหัวใจ
"พี่บอกเธอหลายครั้งแล้วนะริช ว่าอย่ายุ่งเรื่องของพี่เพราะพี่ไม่เคยยุ่งอะไรกับเรื่องของเธอ"
"ทุกครั้งที่มีปัญหาพี่เคยเชื่อในคำพูดริชบ้างไหม เคยถามถึงความจริงบ้างไหม พอใจพี่รึยังคะเอาอีกสิคะ แค่นี้ริชยังไม่เจ็บเลยนะคะเอาอีกสิคะ อยากให้ริชเจ็บมากไม่ใช่เหรอ อยากทำอะไรก็ทำค่ะ ริชจะไม่สู้จะยืนรับความเจ็บปวดนั้นเอง หย่าไหมคะ หย่าแล้วไปแต่งงานกับเธอ ไม่ต้องมาทนให้หัวใจเจ็บซ้ำแบบนี้ ฉันไม่สู้แล้วภัทรตราฉันไม่สู้เธอแล้ว อยากได้เขาก็เอาไปฉันยกให้เพราะต่อให้ฉันเตือนสติเธอ เธอก็คงไม่ฟัง คำว่าเพื่อนที่ดีที่ฉันให้เธอ เธอยังตอบแทนฉันมาด้วยความเจ็บปวดสาหัส"
เพียะ!!!
"ฟาริชต้า" ใบหน้างามที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตาใสๆหันตามแรงมือของคนเบื้องหน้า ภัทรตราทนฟังไม่ไหวเลยตบเธอไปหนึ่งที
"พี่ธันคะ เราออกไปข้างนอกเถอะค่ะมีคนเริ่มมองมาข้างในแล้ว ภัทรกลัวว่าจะมีข่าวไม่มีนะคะ" พนักงานต่างพากันมองเข้ามาภายในห้องที่ทั้งสามคนยืนอยู่ ริชต้าร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บทั้งใจและกาย
"เรายังต้องคุยกันอีกเยอะริช พี่จะรอกลับไปคุยที่บ้านให้จบ"
"……."
"ไปเถอะค่ะพี่ธัน" พอทั้งคู่เดินผ่านประตูออกไปฟาริชต้าก็ทรุดลงกับพื้น ด้วยความอ่อนเพลียความเครียดการพักผ่อนน้อยทำให้เธอวูบลงกับพื้น จนมีพนักงานที่บริษัทนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลทันที
## โรงพยาบาลเอกชน ##
ผ่านมาประมานสามสิบนาที ร่างบางค่อยๆ ขยับม่านตาที่ปิดสนิทค่อยๆปรือตามองรอบๆ ห้องด้วยความมึนงง
"คุณริชฟื้นแล้ว ต้องการน้ำไหมคะ" ข้าวหอมเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?"
"พอดีคุณริชเป็นลมค่ะ พวกเราเลยพามาส่งโรงพยาบาล คุณหมอเลยให้คุณริชนอนให้น้ำเกลือและดูอาการก่อนค่ะ เพราะคุณริชพักผ่อนน้อยและร่างกายอ่อนเพลียมากค่ะ"
"อ๋อ"
"เดี๋ยวหนูเรียกหมอให้นะคะ"
"อืม" ฉันมองแขนข้างซ้ายของฉันที่ถูกเจาะใส่สายน้ำเกลือร่างกายของฉันอ่อนเพลียขนาดนั้นเลยเหรอ
แกร๊กกกกก
"เป็นไงบ้างคะโอเคขึ้นรึยังคะคุณฟาริชต้า" คุณหมอเดินเข้ามาหาฉันด้วยรอยยิ้ม
"รู้สึกโอเคขึ้นนิดหน่อยค่ะ"
"หมอขอคุยกับคนไข้เป็นการส่วนตัวนะคะ "
"ค่ะคุณหมอ เดี๋ยวหอมขอกลับไปเคลียร์เอกสารก่อนนะคะคุณริชพอดีมีงารต้องส่งคุณไมค์ด้วยค่ะ"
“ไปเถอะข้าวหอม ทางนี้ฉันดูแลตัวเองได้สักพักคงกลับได้มั้ง"
"ค่ะ" พอข้าวหอมเดินออกไปคุณหมอก็นั่งลงเก้าอี้ข้างๆ ฉัน
"ไม่ทราบว่าช่วงนี้มีเรื่องกดดันอะไรมากมายไหมคะ"
"มะ..มีค่ะ"
"จากผลตรวจนะคะพบว่าร่างกายของคุณอ่อนเพลียมาจากการพักผ่อนน้อยติดต่อกันมานาน แล้วยังมีความเครียดเข้ามาร่วมด้วยหมอจึงอยากให้คุณนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลสักสามสี่กระปุกก่อนนะคะ"
"คงไม่ได้ค่ะหมอ ฉันขอกลับได้ไหมคะพอดีฉันต้องเลี้ยงลูกด้วยไม่สะดวกจริงๆค่ะ ถ้าจะให้นอนโรงพยาบาลคงไม่สะดวกค่ะ หมดกระปุกนี้ขอกลับนะคะหมอ"
"ค่ะ เดี๋ยวหมอจะให้ยาบำรุงนะคะแล้วหมอจะนัดมาตรวจเรื่อยๆ นะคะยาที่หมอจะจ่ายเป็นยาที่จะทำให้คุณหลับสนิทมากขึ้นนะคะ"
"ขอบคุณค่ะ" พอหมอเดินออกไปฉันก็คว้าโทรศัพท์มาเลื่อนดู ถ้าให้นอนโรงพยาบาลฉันคงไม่นอนหรอกณิชาจะอยู่กับใครล่ะ พี่ธันเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรในตัวลูกเลยด้วยซ้ำ ฉันเป็นห่วงลูกฉันจะไม่บอกใครว่าฉันเข้าโรงพยาบาลเพราะกลัวทุกคนเป็นห่วงและไม่อยากให้ใครบางคนคิดว่าฉันเรียกคะแนนความสงสาร ฉันคิดได้แล้วตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเขาหมดรักฉันจริงๆ ฉันจะไม่ขออ้อนวอนให้เขาอยู่อีกแล้ว ฉันจะพาลูกออกมาใช้ชีวิตเองข้างนอก ฉันควรรักษาแผลใจตัวเอง ฉันต้องเข้มแข็งเพื่อลูก
ครืดด! ครืดด!
ฉันมองสายที่โทรเข้ามา คนที่โทรมาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นพี่เพชรเขาเป็นทุกอย่างให้กับฉันเป็นทั้งที่ปรึกษาและคนที่ให้กำลังใจฉัน เตือนสติฉันในวันที่ฉันคิดทำอะไรบ้าๆลงไป ถ้าไม่มีเขาเข้ามาช่วยฉันคงตายไปแล้ว
"ค่ะพี่"
"ข้าวหอมโทรมาบอกพี่ว่าอยู่โรงพยาบาลพี่อยู่หน้าโรงพยาบาลกินอะไรไหมเดี๋ยวพี่ซื้อขึ้นไปให้"
"ไม่ต้องหรอกค่ะเดี๋ยวสักพักริชก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว"
"อ๋องั้นแค่นี้นะ" ฉันกดวางสายพี่เพชรก่อนจะมีสตอรี่ของบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าสามีของฉันลงรูป คอนโดใหม่คงจะเป็นคอนโดของพวกเขาอยู่ด้วยกันสินะ เขาทำขนาดนี้พอสักทีหัวใจ พอได้แล้ว ฉันยกมือทุบที่อกตัวเองทำไมถึงยังรักเขาสุดหัวใจแบบนี้ ทำไม!!
