เมียหมอ 15
ตุบ! ฉันยกมือกุมท้องด้วยความจุกและเจ็บเมื่อถูกหมอภีมเหวี่ยงใส่โซฟาอย่างแรงทันทีที่มาถึง
ดวงตากลมโตวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความไม่คุ้นเคย เพราะไม่รู้สถานที่ที่เขาพามามันคือที่ไหน
คนตัวโตถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะเดินมาทางฉันที่นั่งอยู่
“ผีห่าซาตานเข้าสิงหรือไง ถึงได้เป็นบ้าแบบนี้” ฉันไม่รอช้าจัดการด่าคนตรงหน้าในทันที ทั้งๆ ที่ฉันพยายามตีตัวออกห่าง แต่กลับเป็นเขาที่พยายามจะเข้าใกล้ ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ หรือบางทีเขาอาจจะต้องการแค่ความสะใจงั้นเหรอ?!
“ขาดผู้ชายไม่ได้หรือไงถึงได้ระริกระรี้ไปอยู่กับไอ้เวรนั่น”
“แล้วหมอมาเดือดร้อนอะไรด้วย?”
“อย่ามาต่อปากต่อคำ” ไม่พูดเปล่าแต่เขายังบีบเข้าที่ปลายคางของฉันอย่างแรง
“หมอนั่นแหละเลิกเป็นบ้าสักที”
“…..”
“ทั้งๆ ที่อันยอมถอยให้แล้วแท้ๆ ทำไมถึงยังไม่เลิกวุ่นวายกับอันอีก จะเอายังไงกันแน่”
“…..”
“คนที่เหมาะสมกับหมอคือยัยขวัญใจอะไรนู้น ไม่ต้องมายุ่งกับอัน” ฉันไม่ยอมแพ้ สะบัดตัวออกจากเขาก่อนจะยืนขึ้นประจันหน้า ฉันยอมให้เขามามากพอแล้ว ต่อจากนี้จะไม่ยอมอีกต่อไป
“ชอบเขามากก็ไปอยู่กับเขาสิ จะมาสนใจอันทำไม”
“อย่ามาคิดแทนฉัน”
“หมอมันเห็นแก่ตัว เคยเห็นแก่ตัวยังไง วันนี้ก็ยังเหมือนเดิม”
ครืด~ ครืด~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ก่อนที่ฉันจะล้วงมันออกจากกระเป๋าสะพายแล้วเห็นชื่อของนิวโชว์หราอยู่บนหน้าจอ
พรึ่บ! แต่ยังไม่ทันได้กดรับสาย ไอ้หมอเวรมันดันกระชากโทรศัพท์ออกจากมือของฉันเสียก่อน
“นั่นมันโทรศัพท์อันนะ เอาคืนมา” ฉันพยายามแย่งโทรศัพท์กลับคืน แต่เขากลับเขวี้ยงมันลงพื้นแบบไม่ใยดี
ฉันได้แต่เม้มปากเงียบเพราะหมดคำจะพูดกับการกระทำของเขา เพราะพูดไปก็คงไม่เกิดประโยชน์
“คงอยากออกไปหามันจนตัวสั่นสินะ”
“ก็ดีกว่าอยู่ตรงนี้แล้วกัน”
“อื้ออ” ฉันผลักอกแกร่งให้ถอยห่างเมื่อถูกหมอดึงไปประกบจูบแบบไม่ทันตั้งตัว
มือหนาเริ่มอยู่ไม่นิ่ง สอดแทรกเข้ามาในเสื้อก่อนจะบีบเคล้นที่หน้าอกของฉันอย่างแรง
“อย่าทำแบบนี้นะหมอ!” ฉันบอกปฏิเสธพยายามดิ้นหนีออกจากพันธนาการ
“ถ้าคิดจะออกไปหามัน ก็ทนให้ได้แล้วกัน”
แคว่ก~ เสียงผ้าบางขาดออกจากกันเมื่อหมอภีมกระชากชุดฉันอย่างแรงจนขาดหลุดลุ่ย ไม่เว้นแม้แต่ชุดชั้นในที่สวมใส่ในวันนี้
ใบหน้าคมคายโน้มลงมาประกบจูบอีกครั้ง ก่อนจะผลักฉันให้นอนราบไปบนโซฟา
“อย่าทำแบบนี้นะหมอ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน” ฉันดีดดิ้นพยายามจะหนีเมื่อคนตัวโตเริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก
“ก็กำลังจะทำให้เป็นอยู่นี่ไง”
“อื้อออ” ริมฝีปากบางกลั้นเสียงสะอื้นเมื่อถูกคนตัวโตตะโบมดูดดึงที่ยอดอกอย่างแรง
หมอเหลือบสายตาหันมามองฉันเพียงนิด ก่อนจะชักรูดท่อนเอ็นจนแข็งชัน แล้วหยิบถุงยางอนามัยขึ้นมาสวมใส่
มือหนาจับขาเรียวให้แยกออกจากกัน พร้อมกับเขาที่แทรกตัวเข้ามาอยู่กลางกาย
“อึกก!” ฉันค่อยๆ หลับตาลงอย่างช้าๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงนิ้วเรียวที่กำลังสอดใส่เข้าออกในร่องคับแน่นโดยที่ตัวเองไม่ได้เต็มใจหรือมีอารมณ์ร่วมเลยสักนิด
ปึก! เล็บสวยจิกลงผ้าปูที่นอนไว้แน่นเมื่อหมออัดกระแทกท่อนเอ็นเข้ามาในร่างกายของฉันอย่างแรง แบบที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างกายของฉันสั่นเทาอย่างหนักเมื่อเอวสอบค่อยๆ ขยับเข้าออกตามจังหวะที่เขาต้องการ
“ยังแน่นอยู่เลยนิ นึกว่าจะเอากับมันจนหลวมไปแล้วซะอีก”
“หยุดดูถูกกันสักที อันไม่เคยทำเหมือนที่หมอคิด” ฉันใช้กำปั้นน้อยๆ ทุบลงบนอกเขาอย่างแรงด้วยความเดือดดาลเพื่อเรียกสติและให้เขาหยุดการกระทำอันเลวทรามนี่สักที
ปัก! ปัก! ปัก! คนที่อยู่ด้านบนถาเอวสอบกระแทกเข้ามาอีกครั้งเมื่อฉันพูดจบ นอกจากเขาจะไม่สำนึกแล้วยังทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เอามันออกไป อันจะ…เจ็บ!”
“คนที่ทำให้เธอเจ็บได้มีแค่ฉันคนเดียว จำไว้ซะ!” ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มมองหน้าฉันอย่างเย้ยหยันแล้วเลื่อนใบหน้าลงมาซุกไซ้ที่ลำคอพร้อมใช้ฟันคมขบกัดจนเกิดเป็นรอย
“ฮึก~” ฉันเริ่มหายใจหอบถี่เมื่อถูกท่อนเอ็นอัดกระแทกเข้าออกในร่องสวาทครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งเห็นว่าฉันเจ็บปวดเขายิ่งอยากจะทำมัน
มือหนาควานหาบางสิ่งบางอย่างที่คุ้นเคยในยามวิกาลขณะที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนอนภายในห้อง ภีรวัฒน์รีบหยัดตัวลุกขึ้นนั่งด้วยอาการงัวเงียเมื่อพบเพียงความว่างเปล่า
ดวงตาคู่คมกวาดสายตามองไปรอบๆ บริเวณห้องเพื่อหาใครบางคน แต่กลับพบว่าเธอได้หนีหายออกไปแล้ว จะเหลือก็แต่เสื้อผ้าที่ขาดหลุดลุ่ยที่ร่างบางทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า เขาหยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
“คิดว่าฉันจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ งั้นเหรอ” ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มมุมปาก พร้อมหยิบเสื้อของเธอที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาดอมดม
“บอกเลยว่าไม่มีวัน!”
