บท
ตั้งค่า

3

“เอาล่ะไม่ต้องพูดถึงมันก็ได้ ถ้าเธอลำบากใจว่าแต่เธอจะเอายังไงต่อไป” หมอทัพพ์ไม่อยากบีบคั้น แค่นี้ก็พอจะเดาได้ว่าหล่อนคงผ่านเหตุการณ์เลวร้ายไม่ใช่ตั้งท้องเพราะความใจแตกเหลวแหลกของตัวเอง

“หนู........หนูจะไปหางานทำที่อื่นค่ะ” กานดาตอบเลื่อนลอยเพราะไม่เคยคิดไว้

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ฉันสร้างตึกเอาไว้ปล่อยเช่าที่เชียงใหม่ เพิ่งเสร็จพอดีไปอยู่ที่นั่นก่อนก็ได้ คลอดเมื่อไหร่แล้วค่อยคิดกันใหม่..” หมอทัพพ์ไม่หนักใจในเรื่องนี้ขอเพียงหล่อนเป็นคนดี เขาก็จะช่วยเหลือให้ตลอดรอดฝั่ง

“ผู้หญิงตัวคนเดียวจะไปอยู่ได้ยังไงคะ เดี๋ยวจะพัวพันเดือดร้อนคุณหมออีกเปล่า ๆ ” นางพุกเป็นห่วง หวงด้วยแหละถ้าคุณหมอของนางพลาดท่าต้องรับเด็กกานดาเป็นเมียล่ะแย่แน่ ๆ เลย

“ป้าพุกไปอยู่เป็นเพื่อนก่อนได้ไหมล่ะ”

“ได้ค่ะได้” นางพุกตอบรับอย่างเต็มใจ

“งั้นก็ไปเตรียมตัว จะได้รีบกลับกันวันนี้เลย”

ระหว่างที่รอนางพุกกับกานดาไปเก็บของ หมอทัพพ์ก็นั่งลงคุยกับบิดาได้สักพักเพื่อนรักอย่างไอ้เพลิงก็โทรตามให้ไปดูคนไข้ที่ไร่ .....เป็นอันว่ากว่าเขาจะเสร็จธุระและได้กลับไปพักผ่อนก็เกือบจะสี่ทุ่ม ระหว่างทางที่ขับรถใกล้จะถึงคอนโดอยู่แล้วเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น…แค่เห็นชื่อที่หน้าจอเขาก็รีบรับทันที

“มีอะไรหรือเปล่าบุ้งกี๋” น้ำเสียงแสดงความห่วงใยอย่างชัดเจน เพราะเจ้าหล่อนอยู่คนเดียวไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าถึงแม้หล่อนจะไม่ใช่เด็กตัวเล็ก ๆ ที่ผอมเก้งก้างแล้วก็เถอะ ไม่อย่างนั้นหล่อนคงไม่โทรหาเขาเวลานี้

“พี่หมอขา คอนโดชื่ออะไรคะ” บุ้งกี๋ออกมาเดินเล่นถนนคนเดินแล้วเพลินไปหน่อยจะกลับคอนโดก็ไปไม่ถูก ชื่อคอนโดก็จำไม่ได้จึงตัดสินใจโทรถามเขาโดยลืมคิดหน้าคิดหลัง

“หืม....นี่เราไม่ได้อยู่ที่คอนโดใช่ไหมบุ้งกี๋นี่มันกี่ทุ่มแล้วห๊ะ....”

หมอทัพพ์ยืนกอดอกมองเด็กในปกครองที่ใส่ชุดสบาย ๆ กางเกงวอร์มขายาวกับเสื้อยืดตัวสั้นพอดีตัวแอบเซ็กซี่เล็ก ๆ ตรงที่เห็นเอวขาวบางวับแวมยามเคลื่อนไหว รวมทั้งรองเท้าผ้าใบคู่เก่งที่เพิ่งถอดไปนั้น ดูโดยรวมก็ถือว่าไม่มากไม่น้อยไป.... แต่ก็ยังขัดใจเขาอยู่ดี.....บุ้งกี๋ไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยแต่ของใช้แต่ละอย่างหล่อนจะเลือกของแบรนด์ดี ๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็ใช้จนคุ้มค่าอย่างรองเท้าผ้าใบที่หล่อนใช้....หล่อนก็ได้มาจากการไปเดินช้อปปิ้งกับเขาครั้งสุดท้ายก่อนขึ้นปีหนึ่งด้วยซ้ำไป หลังจากนั้นตลอดสี่ปีก็ไม่เคยได้เจอกันตัวเป็น ๆ อีกเลย........

“พี่หมอขา.......บุ้งกี๋ขอโทษนะคะ” หญิงสาวแทบจะไหว้ย่อแต่ก็เกรงว่าเขาจะหาว่าหล่อนประชด.....แค่ถามนิดเดียวเองทำไมต้องโมโหขนาดนี้ด้วยนะ

“รู้ไหมว่าไปเดินเที่ยวคนเดียวแบบนั้นมันอันตราย แล้วยังจะแต่งเนื้อแต่งตัวล่อแหลมแบบนี้อีกอยากโชว์นักหรือไง....หรือว่าอยู่กรุงเทพฯหนีเที่ยวบ่อยจนเคยชินสินะ” ความหงุดหงิดงุ่นง่านผลักดันให้เขาใช้วาจาเผ็ดร้อนกับหล่อน

“ไม่ใช่นะคะพี่หมอ ส่วนใหญ่บุ้งกี๋ก็ไปกับอันนาแล้วก็ข้าวหอมตามที่บุ้งกี๋ไลน์มาบอกทุกครั้งนั่นแหละค่ะ แต่พี่หมอต่างหากที่ไม่เคยเปิดอ่านเลย” หญิงสาวอดตัดพ้อไม่ได้ สู้อุตส่าห์เก็บความน้อยใจเอาไว้ไม่เคยพูดให้เขาต้องระคายใจ.......หมดกันยัยบุ้งกี๋ ตั้งใจว่ากลับมาคราวนี้จะเดินหน้ารุกเต็มที่ แต่ทำท่าจะพังไม่เป็นท่าเสียแล้ว....

“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องเธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้อยู่ว่าง ๆ ฉันเหนื่อยเกินกว่าจะมานั่งเอาใจเด็กเหลวไหลอย่างเธอแล้วนะ กรุณารู้จักโตเสียทีเถอะ...” ชายหนุ่มเสียงแข็งใส่อย่างไม่เคยทำมาก่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel