2
ทางด้านหมอทัพพ์เขาเดินทางกลับมาจัดการกับปัญหาที่บ้านนาน ๆ ครั้งที่เขาจะได้กลับมาที่ไร่ธารนที....ไร่นี้กว้างใหญ่ไพศาลอันมีบิดาซึ่งตกพุ่มหม้ายเพราะมารดาถึงแก่กรรมไปแล้วหลายปี....ท่านจึงอาศัยอยู่กับเหล่าบริวารอีกหลายคนไม่ยอมไปไหน
ภายในห้องโถงของบ้านไร่ธารนทีซึ่งตอนนี้มีบิดาของเขา นางพุกแม่บ้านเก่าแก่ เด็กสาวร่างอวบและอีกคนที่นั่งหน้าดำคร่ำเครียดคงจะเป็นพ่อของหล่อน.....เรื่องราวอันชวนปวดหัวตรงหน้าก็พาให้เขาอยากหันหลังกลับทันทีแต่ก็จำต้องช่วยสะสาง ไม่อย่างนั้นผู้เป็นบิดาคงไม่ตามตัวเขากลับมา
“หนูท้องกับคุณท่านจริง ๆ นะคะ” เด็กสาวหน้าตาใสซื่ออายุไม่น่าจะเกินสิบแปดปียืนกรานว่าท้องกับคุณนทีบิดาของเขาที่อายุปาเข้าไปหกสิบกว่าแต่ก็ใช่ว่าจะทำผู้หญิงท้องไม่ได้ ซึ่งท่านไม่ใช่คนมักง่ายแบบนั้นเขารู้จักท่านดี แต่ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้
“แกอย่ามาปรักปรำคุณท่านเลยนะนังกานดา บาปกรรมเปล่า ๆ ใครเป็นพ่อของเด็กก็บอกมาพ่อเอ็งคงไม่ถึงกับฆ่ากับแกงกันหรอก” นางพุกแม่บ้านเก่าแก่เป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อในสิ่งที่เด็กสาวพูดเด็ดขาด นางพยายามเกลี้ยกล่อมกานดาตั้งแต่เมื่อวานให้พูดความจริง แต่หล่อนก็ยังยืนยันเช่นเดิมทั้งที่เด็กคนนี้ปกติจะอัธยาศัยดีเรียบร้อยน่ารักไม่น่าจะปั้นเรื่องโกหกได้
หมอทัพพ์หันไปทางบิดาท่านก็ได้แต่ส่ายหน้า เพียงแค่นั้นลูกชายก็เชื่ออย่างสนิทใจว่าท่านไม่ได้ทำ
“ไม่ต้องพูดแล้วนังลูกไม่รักดี ไปแจ้งความ” ชดเข้ามาคว้าข้อมือลูกสาวเตรียมจะลากออกไปและทำอย่างที่พูดในขณะที่กานดาขืนตัวเอาไว้เต็มกำลังทำให้ผู้เป็นพ่อบันดาลโทสะหันมาตบจนหน้าหัน…เด็กสาวผวารีบคลานไปหลบข้างหลังนางพุกท่าทีหวาดกลัวจนตัวสั่น
“นายชด ! หยุดทำป่าเถื่อนได้แล้ว” หมอทัพพ์ไม่พอใจ ถึงยังไงก็ไม่ควรลงไม้ลงมือกันขนาดนี้และจากอาการหวาดผวาของเด็กกานดา บอกได้เลยว่านี่ไม่ใช่การทำร้ายร่างกายกันครั้งแรกแน่นอน
“แล้วคุณหมอจะให้ผมทำยังไง....ผมมันคนจนไม่มีปัญญาจะต่อกรกับคนรวยอย่างพวกคุณหรอก” นายชดตอบโต้อย่างไม่กลัวเกรง เขาไม่ได้เป็นคนของไร่นี้แค่ส่งลูกสาวมาขอทำงานที่บ้านหลังนี้ช่วงปิดเทอมเพราะอยากหารายได้พิเศษและคุณนทีเจ้าของไร่ก็เมตตารับไว้ ไม่นึกเลยว่าจะคิดสกปรกกับเด็กคราวลูกคราวหลานจนเกิดเรื่องราวฉาวโฉ่ มิหนำซ้ำยังไม่ยอมรับผิดอีกต่างหาก
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เพื่อความสบายใจของนายชด ฉันจะรับกานดามาดูแลจนกว่าจะคลอดแล้วค่อยตรวจดีเอ็นเอ อย่างนี้ยุติธรรมพอหรือยัง”
“ก็ได้ แต่หวังว่าคุณหมอจะไม่เล่นตุกติกอีกนะ”นายชดนอกจากโมโหร้ายแล้วเขายังขี้ระแวงอีกด้วย เขาได้ยินคนพูดบ่อย ๆ ว่า คุกไม่ได้มีไว้ขังคนรวย ......
“ถ้ายังไม่ไว้ใจ นายชดจะส่งใครมาอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวก็ได้นะฉันจะพากานดาไปอยู่ที่เชียงใหม่”
ชายวัยกลางคนที่ตอนนี้โทสะเบาบางลงบ้างแล้ว นิ่งคิดที่บ้านลูกเล็กอายุไล่เลี่ยกันอีกสามคนที่เมียเขาต้องดูแล คงต้องปล่อยลูกสาวคนโตไปเพราะถ้าจะว่ากันตามจริงแล้ว ถ้าไม่นับรวมเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งคุณนที และหมอทัพพ์ก็ถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่งตามที่คนงานเคยพูดให้ได้ยิน เขาจึงยอมล่าถอยไปง่าย ๆ เพราะไม่ได้คิดขู่กรรโชกทรัพย์ตั้งแต่ต้นอยู่แล้วที่ตกลงกันไม่ตั้งแต่เมื่อวานก็เพราะไม่มีคนกลางเขาจึงไม่ยอมอ่อนข้อให้ ......
กานดาคลานเข้ามากราบเท้าคุณนทีกับหมอทัพพ์หลังจากบิดาออกไปแล้วด้วยน้ำตานองหน้า
“หนูขอโทษค่ะ...หนูกลัวพ่อตีตายเลยต้องทำแบบนี้” เด็กสาวสารภาพทั้งน้ำตาพร้อมกับพนมมือไหว้
“แล้วทำไมถึงไม่พูดความจริง” ท่านนทีเอ่ยถามไม่มีทีท่าโกรธเกรี้ยวให้เห็น
“หนูไม่รู้จริง ๆ ค่ะ” เด็กสาวส่ายหน้าก่อนจะปล่อยโฮ จนนางพุกต้องเข้าไปกอดปลอบอยู่พักใหญ่
“พ่อตีหนูทุกวัน...ฮึก...หนูไม่รู้จริง ๆ นะคะ” เด็กสาวเล่าไปร้องไห้ไปดูน่าเวทนา
