20
เช้าวันใหม่
ทันทีที่ลืมตาตื่นหญิงสาวกระวีกระวาดลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปเชียงราย หล่อนตื่นเต้นที่พี่หมอจะพาไปหาญาติผู้ใหญ่ครั้งแรกจึงใช้เวลายืนเลือกเสื้อผ้าอยู่นานกว่าจะตัดสินใจเลือกกระโปรงสีหวานแลดูน่ารักสมวัยออกมาสวมใส่...เพราะหล่อนมัวลังเลว่าควรจะแต่งกายให้ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้หรือเปล่าจะได้ใกล้เคียงกับพี่หมอที่อายุห่างกันสิบปี.....อืม...พี่หมอก็ไม่ได้ดูแก่เสียหน่อย บุ้งกี๋ยิ้มน้อย ๆ เมื่อนึกถึงตรงนี้ บุ้งกี๋ไม่รู้ว่าควรจะวางตัวอย่างไร อีกทั้งวันนี้หล่อนจะได้เจอเพื่อนตัวเป็น ๆ ตั้งใจจะกอดให้หายคิดถึง...แต่ความคิดคำนึงทั้งหมดทั้งมวลเป็นอันต้องพับไปเมื่อเจอกระดาษแผ่นโตสอดไว้หน้าห้อง พี่หมอมีเคสด่วนที่โรงพยาบาล.......
“สวัสดีครับคุณบุ้งกี๋” บาริสต้าหนุ่มออกมาต้อนรับลูกค้าสาวสวยด้วยตัวเองทันทีที่เห็นหล่อนตั้งแต่หน้าร้าน
“สวัสดีค่ะคุณคิม...วันนี้มีโปรโมชั่นพิเศษไหมคะ” หญิงสาวถามยิ้ม ๆ ดวงตาเป็นประกาย ก็คนมันมีความสุขอยู่ตรงไหนก็สุขล้นจนปิดไม่มิด....
“สำหรับคุณบุ้งกี๋มีให้ทุกวันอยู่แล้วครับผม”
“แหม...เพื่อนกันอย่าหยอดสิคะมันเลี่ยน....” บุ้งกี๋ยู่หน้าใส่ ด้วยความเป็นคนอัธยาศัยดีหล่อนจึงเข้ากับคนได้ง่าย และเมื่อตกลงเป็นเพื่อนกับผู้ชายตรงหน้าก็ไม่ต้องมีฟอร์มกันมากมาย...ใจ ๆ กันไปเลยดีกว่า....
“ไม่ทันไรรีบเบรกกันซะแล้ว....ถ้าจะลงทะเบียนเปลี่ยนสถานะตอนนี้จะทันไหมน๊า.......” หนุ่มคิมหัวเราะเก้อที่ถูกเพื่อนใหม่เอาเรื่องจริงมาแซวอย่างรู้ทัน
“จะเปลี่ยนเป็นอะไรดีคะ”
“แฟน”
“ไม่ทันแล้วค่ะ”
“ไม่คิดหน่อยเหรอ...ผมน่ารักน๊า..... ชงกาแฟก็เก่ง ทำอาหารก็ได้” ชายหนุ่มบรรยายคุณสมบัติตัวเอง
“ว้า.....เสียดายอ่ะ แต่บุ้งกี๋มีคู่หมั้นแล้วน่ะสิคะ” หญิงสาวมองเขาตาปริบๆ แต่ฉีกยิ้มเต็มใบหน้าเพราะเข้าใจว่าเขาพูดเล่น
“โอ้ย ! เจ็บ.....” หนุ่มคิมยกมือขึ้นกุมอกก่อนจะทรุดลงนั่ง
หญิงสาวหัวเราะคิกกับความเล่นใหญ่ของคนตรงหน้า ไม่รู้ทำไมถึงไว้ใจเขา อาจจะเป็นเพราะท่าทางสบาย ๆ ดูจริงใจของเขาก็ได้
“ว่าแต่คุณบุ้งกี๋จะรับอะไรดีครับ หรือแค่แวะมาทำให้เจ็บแล้วก็จากไป”
“โกโก้มิ้นท์หอมหวานมันแต่ไม่อ้วนมีไหมคะ”
“จัดไปครับ” หนุ่มคิมเดินหายไปหลังเคาน์เตอร์ เขาลงมือชงเครื่องดื่มแก้วนี้อย่างสุดฝีมือ.....
หญิงสาวยกสมาร์ทโฟนขึ้นดูเมื่อมีข้อความเข้า หล่อนจึงเดินไปที่เคาน์เตอร์สั่งกาแฟร้อนสำหรับพี่หมออีกแก้วก่อนจะรีบร้อนออกไปทันทีเมื่อจ่ายเงินเรียบร้อย แต่ก็ไม่ลืมหันมาโบกไม้โบกมือให้เพื่อนใหม่ที่ยืนมองอย่าง งง ๆ
“พี่หมอเสร็จธุระแล้วหรือคะ บุ้งกี๋คิดว่าอีกนานเสียอีก”
หมอทัพพ์มองเครื่องดื่มในมือของยัยเด็กแสบก็พอเดาได้ว่าเจ้าหล่อนไปแวะที่ไหนมา ทำให้ใบหน้าเขาเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย
“อืม...ฉันมีธุระต้องบินไปฮ่องกงเย็นนี้เรื่องไปเชียงรายก็คงต้องเลื่อนไปก่อน”
“ไม่เป็นไรค่ะ...ว่าแต่พี่หมอไปคนเดียวหรือคะ”
“ทำไม...จะร้องตามหรือไง...ดูทำหน้าเข้าสิอย่างกับหมาหงอย”
“เปล่าซะหน่อยค่ะ...แต่ถ้าร้องตามแล้วพี่หมอจะให้ไปหรือคะ” ฮึ่ม...อยากมาว่าเป็นหมาหงอย รู้จักบุ้งกี๋น้อยเกินไปแล้ว
“เฮ้ย ! ทำอะไรอย่าเล่นบ้า ๆ” จู่ ๆ ยัยเด็กแสบก็เดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงบนตัก จนเขาตั้งตัวไม่ทัน...หาเรื่องแล้วไหมล่ะ….
“ก็แค่นั่งตัก...บุ้งกี๋จะทับเอาไว้ไม่ให้ไปถ้าพี่หมอไม่ถอนคำพูด” แขนเรียวคล้องคอแถมยังข่มขู่คนตัวโตกว่าหน้าตาเฉย
“ฮึ...ตัวเท่าลูกหมาทำมาขู่”
“พี่หมออ่ะ...ว่าบุ้งกี๋เป็นหมาอีกแล้วนะคะ” หญิงสาวมองเขาตาคว่ำ
ชายหนุ่มหลุบตาลงมองริมฝีปากช่างเจรจาสีชมพูดูหวานฉ่ำจนอดใจไม่ไหวก้มลงฉกชิมลิ้มความหวานเนิ่นนานจนคนบนตักตัวอ่อนเหลวราวกับโดนหลอมละลายถ้าไม่กอดเอาไว้ยัยตัวแสบคงหล่นลงไปกองกับพื้นเป็นแน่….
“อ่ะ...ฉันถอนคำพูดให้แล้วพอใจหรือยัง” หมอหนุ่มรีบพูดพร้อมกับนิ้วชี้กดลงไปเรียวปากนุ่มเมื่อเห็นบุ้งกี๋ขยับปากจะต่อว่า
“นี่คือการถอนคำพูดหรือคะ”
“อืม...จะลองใหม่ก็ได้นะ”
“โอเค...เห็นว่าพี่หมอรีบหรอกนะคะ” บุ้งกี๋ลุกออกจากตักปล่อยให้เขาเก็บของได้สะดวก ท่าทางจะรีบจริง ๆ ด้วย....รีบจนหน้าแดงก่ำเชียว....
บุ้งกี๋ใช้ชีวิตอย่างเหงา ๆ ผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน จนจะล่วงเข้าคืนที่สอง หล่อนก็ยังติดต่อพี่หมอไม่ได้ ไม่รู้ว่าไปกับใครทำไมจะต้องปิดโทรศัพท์ตลอดเวลาด้วย...กลับมาเมื่อไหร่ถ้าไม่มีเหตุผลดี ๆ หล่อนจะ...จะ..นั่นสิจะทำอะไรได้ ขืนทำเป็นงอนถ้าเขาไม่ง้อก็จบกันยิ่งมีชะนีตกมันจ้องจะตะครุบอยู่ด้วย....หญิงสาวนอนกอดหมอนข้างใบโตพลางคิดไปเรื่อยเปื่อยพอเริ่มจะเคลิ้มหลับ ก็ต้องสะดุ้งตื่น....ใจกระตุกวูบตกลงไปที่ตาตุ่มเมื่อเห็นเงาตะคุ่มก่อนที่ไฟในห้องจะสว่างจ้า
