19
“เดี๋ยวค่ะ....แล้วตกลงเรื่องลูกเมียของพี่หมอล่ะคะ” หญิงสาวไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ทั้งที่ยังไม่ได้ความกระจ่างอย่างเด็ดขาด
“ก็ได้.....งั้นฉันจะพาไปดูให้เห็นกับตาว่าฉันเก็บผู้หญิงไว้กี่คนกันแน่” ชายหนุ่มยกร่างเล็กออกจากตักก่อนจะลุกขึ้นยืนพลางดึงมือยัยตัวแสบให้ออกไปด้วยกัน
หมอหนุ่มพาบุ้งกี๋มาที่ตึกแถวรูปทรงทันสมัยที่สร้างขึ้นใหม่เมื่อไม่นานมานี้นอกจากหมอทัพพ์จะมีโรงพยาบาลของตัวเองแล้ว เขายังซื้อที่ดินเก็บไว้เรื่อย ๆ ตรงไหนเหมาะที่จะพัฒนาสร้างรายได้เขาก็ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างตึกแถวแห่งนี้ก็สร้างเอาไว้ให้คนเช่าค่อย ๆ สร้างฐานะจนมั่นคง......ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทั้งคู่ก็มาถึงที่หมาย ด้วยความที่ห่างจากโรงพยาบาลไม่มากนัก.......หมอทัพพ์จูงมือหญิงสาวไปหยุดยืนอยู่หน้าห้องริมสุดมีหญิงสูงอายุคนหนึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาเช็ดใบตองเหมือนเตรียมจะทำขนมอะไรสักอย่าง
“อ้าวคุณหมอ มีอะไรหรือเปล่าคะถึงได้มาถึงที่นี่” นางพุกวางมือเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มจูงมือหญิงสาวหน้าตาน่ารักเดินเข้ามาด้วยส่งผลให้นางฉีกยิ้มกว้าง สงสัยคนนี้จะเป็นคนพิเศษเพราะนางไม่เคยเห็นหมอทัพพ์จับมือผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน ใคร ๆ ก็รู้ว่าเขาหวงตัวกับสาว ๆ แค่ไหนแต่ในที่ลับก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของหนุ่มทั้งแท่งแต่ในที่แจ้งไม่มีให้เห็นเด็ดขาด
“กานดาล่ะป้า”
“เข้าไปหยิบถาดน่ะค่ะ เดี๋ยวก็มาว่าแต่คุณหมอมีอะไรกับมันหรือคะ”
“มีคนอยากเจอ”
“พี่หมออ่ะ...” บุ้งกี๋กระตุกแขนเขาเบา ๆ ทักท้วง หล่อนไม่ได้บอกว่าอยากเจอเสียหน่อย เขาต่างหากที่ฉุดรั้งหล่อนมาถึงที่นี่
“บุ้งกี๋นี่ป้าพุก แม่ครัวเก่าแก่ของที่บ้านฉัน”
“สวัสดีค่ะป้าพุก” หญิงสาวยกมือไหว้ผู้สูงวัยอย่างคนรู้มารยาทและไม่ถือตัว
“สวัสดีค่ะ...แฟนคุณหมอน่ารักจริง ๆ นะคะ” นางรับไหว้พร้อมกับพิจารณาหญิงสาวตรงหน้าพลางยิ้มอย่างพอใจ
“เหรอ....ฉันว่าน่าตีมากกว่า”
“อุ้ย....น่ารักอย่างนี้ใครตีลงก็ใจดำเกินไปแล้วค่ะ” นางพุกปิดปากหัวเราะชอบใจใช่แน่แล้ว นางคิดไม่ผิดจริง ๆ
“สวัสดีค่ะคุณหมอ” กานดาถือถาดเดินออกมา เมื่อเห็นหมอทัพพ์หล่อนจึงรีบยกมือไหว้ทักทาย
“อยากรู้อะไรก็ถามกานดาสิ” ชายหนุ่มหันมาถามคนที่ยืนเด๋ออยู่ข้างกาย
“ไม่ได้อยากถามสักหน่อย” บุ้งกี๋ตอบอุบอิบ หล่อนอายไม่กล้ามองหน้าใครกลัวว่าคนห่ามจะแฉความมโนของตัวเองจนเกือบจะเป็นเรื่องใหญ่โต
“อ๋อ....สงสัยหนูบุ้งกี๋นึกว่ายัยกานดาเป็นเมียคุณหมอใช่ไหมคะ.......ไม่จริงหรอกค่ะ ตอนที่ไปนอนป่วยที่โรงพยาบาลก็มีคนซุบซิบกันทำนองนี้แหละ....ไม่จริงค่ะ....อย่าไปเชื่อ” นางพุกผู้มากประสบการณ์เดาได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะนางเป็นคนไปเฝ้ากานดาเอง แต่เพราะไม่มีใครถามตรง ๆ นางจึงไม่มีจังหวะจะแก้ต่างให้ ......
“เอ่อ...ขอโทษนะกานดาที่เข้าใจผิด”
“ไม่เป็นไรค่ะ...คุณหมอเป็นผู้มีพระคุณของดา ถ้าคุณหมอไม่ช่วยพามาอยู่ที่นี่ป่านนี้ดาโดนพ่อตีน่วมไปแล้วค่ะ” คนท้องตอบยิ้ม ๆ
21.00 น.
หลังจากหมอทัพพ์พายัยตัวแสบมาเจอกับผู้หญิงสองคนที่เขาเก็บไว้ เป็นอันเข้าใจกันดีทีนี้ก็เหลืออีกเรื่องให้สะสางเมื่อกลับถึงคอนโด
“เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป” ร่างเล็กถูกรวบเข้าไว้ในวงแขนแกร่ง
บุ้งกี๋ทำท่าจะชิ่งหนีทันทีที่กลับถึงห้องเพราะถูกเขามองแปลก ๆ ตั้งแต่อยู่ที่ร้านอาหารแล้ว หล่อนสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาอย่างช้า ๆ
“เอ่อ...มีอะไรเหรอคะพี่หมอ” หญิงสาวขืนตัวออกแต่ก็ไม่เป็นผลจึงยืนให้เขากอด ก็อุ่นดี.....
“ฉันต้องถามเธอมากกว่าว่ามีอะไรจะบอกหรือเปล่า” หมอหนุ่มยังคาใจกับภาพที่ยัยเด็กแสบหัวร่อต่อกระซิกกับไอ้หนุ่มหน้าอ่อนในร้านกาแฟ
“ไม่มีนี่คะ”
“แน่ใจนะ”
“ค่ะ”
“งั้นพรุ่งนี้จะพาไปหาพ่อ”
“คะ?....ที่เชียงรายน่ะหรือคะ” บุ้งกี๋ตื่นเต้นเพราะตั้งแต่มาอยู่ในความดูแลของพี่หมอเมื่อหลายปีก่อน ทางบ้านของเขาคงไม่รับรู้และพี่หมอก็ไม่เคยพูดถึงด้วย
“อืม...อย่าตื่นสายล่ะพรุ่งนี้เราจะไปกันแต่เช้า”
“ค่ะ.....พี่หมอรู้จักไร่แสงจันทร์ไหมคะ” บุ้งกี๋นึกได้ว่าข้าวหอมอยู่ที่นั่น หล่อนจะได้หาโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนด้วยเลย
“หืม....ทำไมถึงรู้จักไร่แสงจันทร์”
“เพื่อนบุ้งกี๋น่ะค่ะ...ยัยข้าวเพิ่งแต่งงานแล้วไปอยู่ที่นั่น”
“พี่หมอรู้จักใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายสดใส
“อืม...แล้วจะพาไป” ชายหนุ่มหงุดหงิดนิดหน่อยที่ยัยเด็กแสบดีใจที่จะได้เจอเพื่อน มากกว่าเรื่องที่เขาจะพาไปพบบิดาเสียอีก นี่เจ้าหล่อนไม่ตื่นเต้นหรือไม่รู้กันแน่ว่าเขาหมายความว่ายังไง.......
“ขอบคุณนะคะพี่หมอ” บุ้งกี๋ยิ้มหน้าบานหล่อนไม่คิดจะโทรไปบอกเพื่อนเอาไว้เซอร์ไพรส์ดีกว่า...
“ไปนอนได้แล้ว”
“ค่ะ” บุ้งกี๋ยิ้มเงยหน้ามองเขาตาเชื่อม
“ค่ะ แล้วทำไมถึงยังไม่ไป รออะไรหึ”
“กู๊ดไนท์คิสสสสสสส.....”
“แก่แดด...” ปากว่าแต่ก็ก้มลงจูบหน้าผากแผ่วเบาก่อนจะเป็นคนรีบผละไปเอง
บุ้งกี๋มองตามยิ้ม ๆ ที่ทำให้พี่หมอของหล่อนเขิน.....
