2
“ก็เห็นพูดแบบนี้ทุกคน” ดูอย่างญาติผู้พี่ของเธอสิ ดูเป็นคนดี ก่อนแต่งงานบอกภรรยาว่าจะไม่สำมะเลเทเมา จะไม่ขี้เกียจ ซึ่งก็ทำได้จริง พอมีลูกก็ลายออก ทั้งๆ ที่ก่อนแต่งงานประพฤติตัวดีทุกอย่าง เธอไม่เชื่อ ร้อยไม่เชื่อพันไม่เชื่อ ในหมู่บ้านนี้มีแต่ผู้หญิงบอกว่าย้อนเวลากลับไปจะไม่แต่งงานเด็ดขาด แล้วเธอจะไปตกนรกแบบนั้นทำไมกันล่ะ
“พี่ไปบอกพ่อกับแม่ให้ยกเลิกเลย”
“ผู้ใหญ่เขาตกลงกันแล้ว” เข้มพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ที่เห็นว่าที่ภรรยามองเมินใส่
“ตกลงกันแล้วก็ยกเลิกได้”
“พี่ไม่กล้าทำให้ผู้ใหญ่ผิดคำพูดหรอกนะ”
“ถึงฉันเองจะห้ามพ่อแม่ไม่ได้เพราะฉันเป็นลูก แต่ฉันไม่มีวันรักพี่หรอก และไม่มีวันรักผู้ชายคนไหนด้วย”
“อย่าใจร้ายกับพี่นักเลย” เข้มไม่กล้าเซ้าซี้กับเด็กสาวอีกเมื่อเห็นเธอเดินหนีกลับบ้าน แต่เขาก็ไม่ลดละความพยายามหมั่นแวะเวียนไปมาหาสู่เอาข้าวของไปฝากบิดามารดาของเธอ
ชายหนุ่มวัยสามสิบยึดคติที่ว่าเข้าทางผู้ใหญ่ดีที่สุด เข้าตามตรอกออกตามประตูเขาไม่เคยทำอะไรให้เสียหาย และไม่เคยคิดจะล่วงเกินเด็กสาวก่อนจะถึงวันแต่งงาน
ไปบ้านเธอทีไร เธอก็สะบัดหน้าใส่ เขาก็ไม่เคยถือโทษโกรธเคือง คิดว่าสักวันเธอต้องใจอ่อน
วันงานก็มาถึง เข้มเห็นเจ้าสาวที่ออกมาจากห้องแต่งตัวเพื่อมาร่วมพิธี แม้ใบหน้าจะไม่ค่อยเต็มใจแต่เขาก็ต้องตะตะลึงในความสวยของเธอ ใบหน้ากลม เกลี้ยงเกลาผิวขาวใส ผมสีดำขลับเงางามที่เกล้าอยู่กลางกระหม่อมทำให้มองเห็นใบหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน เรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นในชุดไทยประยุกต์ที่เขาเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้เธอทั้งหมด
เขาคิดว่าผู้หญิงทุกคนแต่งงานก็คงอยากแต่งตัวสวยๆ สักครั้งในชีวิต เขาจึงทุ่มไม่อั้น ไม่ให้เธอต้องอายใคร
สินสอดทองหมั้นที่บิดามารดาของเธอเรียกร้องเขาก็จัดหาให้ไม่ขัด บิดามารดาของเขาก็เอ็นดูเธอมาก
เมื่อเธอไม่ชอบคนดื่มเหล้า ไม่ว่าในงานจะมีแขกเหรื่อหรือเพื่อนฝูงยื่นเหล้าให้ดื่มแค่ไหนเข้มก็ไม่รับมาดื่ม แต่ปฏิเสธอย่างไม่ให้เสียน้ำใจ จนโดนแซวว่ากลัวเมียตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าห้องหอ เขาเพียงแต่ยิ้มได้พูดอะไร
เข้มจับมือเจ้าสาวเอาไว้ แต่เธอสะบัดหนี เขาหน้าเสียเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถือสาหาความอะไรเธอ เข้าใจว่าเธอยังไม่ชินและใจเธอก็ยังไม่ได้รักเขาอย่างเต็มที่
แต่เขาก็ไม่เคยละความพยายามเลยแม้แต่น้อย แต่งงานกันไปเขาจะดูแลและทะนุถนอมเธอให้ดีทำให้เธอมีความสุขที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งได้ เขาสัญญากับตัวเองแบบนั้น
หลังจากผ่านพ้นพิธีต่างๆ ในช่วงกลางวัน รวมถึงการเลี้ยงแขกก็เป็นพิธีส่งตัวเข้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอ ผู้ใหญ่ต่างอวยพรให้คู่บ่าวสาวมีความสุข อยู่กันไปจนแก่เฒ่า มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง เข้มกราบผู้ใหญ่ ในขณะที่มะลิก็ทำตามเช่นกัน
“อย่าเข้ามานะ” พอผู้ใหญ่ออกไปจากห้องแล้ว มะลิก็รีบถอยหนีขู่เสียงฝ่อ
“พี่ไม่ทำอะไรมะลิหรอก ถ้ามะลิไม่เต็มใจ” เพราะเขารักของเขา รอมานาน เขาอยากเอาชนะใจเธอด้วยความดีและความรัก ไม่อยากหักหาญน้ำใจให้เธอต้องขึงโกรธไปมากกว่านี้
“มะลิอาบน้ำก่อนเลยนะ ตามสบายเลย”
เรือนหอแห่งนี้เขาสร้างขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ เป็นบ้านที่เขาปลูกขึ้นมาใหม่ให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะไม่อยากให้เธอต้องลำบาก
มะลิเข้าห้องน้ำก็รีบอาบน้ำแต่งตัวมิดชิดออกมาอย่างระแวดระวัง เธอเห็นเจ้าบ่าวของตัวเองอาบน้ำเรียบร้อยแล้วเหมือนกันก็นึกสงสัยแต่ไม่ถาม เขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขาสิ
“พี่ไปอาบน้ำข้างนอกมาจ้ะ ข้างนอกมีห้องน้ำด้วยนะ” เขาบอกคนที่เหลือบมองแต่ไม่พูดอะไร
“บอกทำไม ใครไปอยากรู้” เธอว่าให้ก่อนจะเดินไปนั่งบนเตียง เหลือบสายตามามองเห็นเขาตามมาก็สะดุ้งรีบลุกหนีในทันที
“ขึ้นมาทำไม”
“วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน จะเข้านอนแล้วไง หรือมะลิจะทำอะไรกันก่อน”
“บ้า! ลามก” เธอเหวใส่ทันทีหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู” คนขี้อายแต่สุดแสนจะรักเมียยกมือขึ้นลูบท้ายทอยไปมาในทันที
“จะทำอะไร” เขาขยับผ้าห่มทำท่าจะขึ้นนอนเธอก็รีบเหวใส่อีกรอบ
“จะนอนแล้วครับ มะลิไม่นอนเหรอ” เขาเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
“นอนสิ ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง” เธอโกหกคำโต เหนื่อยจริงแต่ไม่รู้สึกง่วงสักนิด กลัวเขาทำมิดีมิร้ายเสียมากกว่า
