บทย่อ
เธอคือเมียรักของเขา
1
“หนูไม่แต่งงานกับพี่เข้มนะแม่”
เสียงของมะลิดังขึ้นอย่างหงุดหงิด เธอหน้างอเป็นม้าหมากรุกเมื่อได้รับข่าวว่าบิดามารดาของเข้มมาทาบทามสู่ขอ แล้วบิดามารดาของเธอก็ดันยกเธอให้เสียได้ โดยที่ไม่เอ่ยถามเธอสักนิด
“ไม่แต่งไม่ได้ พ่อแม่มันมาขอเอ็งแล้ว แล้วข้ากับพ่อเอ็งก็ยกให้ไปแล้วด้วย”
“แม่ ทำไมไม่ถามหนูก่อน” มะลิหน้างอใส่มารดา เข้มเป็นหนุ่มวัยสามสิบที่เป็นเพื่อนรักกับพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเธอ หรือเรียกง่ายๆ ว่าญาติผู้พี่นั่นเอง
“ถามแล้วเอ็งจะตอบตกลงรึ”
“แม่ก็รู้ว่าหนูไม่อยากแต่งงาน”
“ไอ้เข้มนิสัยดี ขยันขันแข็งมันไม่ดีตรงไหนรึ เอ็งถึงไม่ชอบมัน”
“พี่เข้มดำ” เธอหลบเลี่ยง จริงๆ ยังไม่อยากออกเรือน อายุแค่ 18 อยากทำอะไรอีกตั้งหลายอย่าง เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนในชนบทถึงให้ลูกหลานแต่งงานเร็วนัก
“ชิชะนังนี่ เอ็งขาวตายล่ะ”
“หนูไม่ขาวแต่ก็ไม่ดำเท่าพี่เข้มก็แล้วกันแม่ แต่งงานกันไปลูกออกมาจะมองเห็นไหม”
“คนตัวดำแต่ใจดีนะโว้ย ขยันก็ขยัน แกแต่งกับมันไปขี้คร้านจะสบายไม่ต้องทำอะไรเลย มันรักเอ็งเทียวไล้เทียวขื่อเอ็งมานานหลายปีแล้ว เอ็งก็ใจอ่อนกับมันบ้างเถอะว่ะ”
เพราะเข้มติดสินบนพ่อแม่ของเธอยังไงเล่า ท่านถึงได้พูดเชียร์ขนาดนี้ เช้าถึงเย็นถึง ซื้อของมากำนัล ผลหมากรากไม้ไม่เคยขาด สุรายาดอง เธอล่ะเกลียดนักพวกเอาหน้ากับผู้ใหญ่
“แม่น่าจะถามหนูก่อน”
“ยังไงก็ตกลงไปแล้ว อย่าให้ต้องเสียผู้ใหญ่ อาทิตย์หน้าฤกษ์ดี พ่อเอ็งไปหาฤกษ์มาให้แล้ว”
“จะบ้าเหรอแม่ ให้แต่งอาทิตย์หน้านี่นะ”
“นังมะลิ เอ็งกล้าว่าข้าบ้าเลยเหรอ”
“หนูไม่ได้ว่าแม่” มะลิรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงเอ็งก็ต้องแต่ง”
“โธ่... แม่ ฉันอยากจะเลือกผัวเองไม่ได้หรือไง”
“เอ็งเป็นลูกก็ต้องทำตามพ่อแม่ พ่อแม่หวังดีเลือกให้ ไม่ดียังไงวะ”
“ไม่พูดกับแม่แล้ว” มะลิลุกหนีสีหน้ามีแง่งอน หน่ายจะคุยกับมารดา เธอรู้ดีว่าเข้มต้องมีของกำนัลมาให้พร้อมด้วยสินสอดที่บิดามารดานึกชอบใจ
หญิงสาวเดินหนีออกมาดูวัวที่ทุ่งนาก็เจอเข้ากับคนที่ต้องแต่งงานด้วย ไม่ชอบวิธีการมัดมือชกของเขากับบิดามารดา เธอเลยเบือนหน้าหนีก่อนจะซอยเท้าหลบเลี่ยงในทันที
“มะลิ เดี๋ยวก่อนสิ” เข้ม หนุ่มวัยสามสิบเรียกเด็กสาววัยยี่สิบอย่างดีใจ ก่อนจะวิ่งมาดักหน้าหล่อนเอาไว้
“ถอยไปเลยนะ”
“คุยกับพี่ก่อนสิ”
“ไม่คุย”
“อาทิตย์หน้าเราจะแต่งงานกันแล้วนะ”
“ใครจะแต่งงานกับพี่”
“รังเกียจอะไรพี่นักหนา”
“ฉันยังไม่อยากแต่งงาน”
เธอตอบเสียงแข็ง เธอคิดว่าตัวเองอายุยังน้อย ยังไม่สมควรจะแต่งงานเสียด้วยซ้ำ เธอไม่อยากมีครอบครัว เห็นครอบครัวคนอื่นแล้วมีแต่ความทุกข์ เหนื่อยหนักต้องเลี้ยงลูกดูแลผัว ไม่ได้เที่ยวเล่นสบายๆ เหมือนคนโสด ปกติแล้วในหมู่บ้านนั้น สาวๆ จะออกเรือนกันเร็วเพราะพ่อแม่ขี้เกียจเลี้ยงดู ก็ปล่อยให้ไปอยู่กับสามี
แรกๆ เธอก็เห็นว่าสามีรักสามีเอาใจ แต่พอได้กันแล้ว อยู่กันไปก็ออกลาย สำมะเลเทเมาบ้างล่ะ ไหนจะขี้เกียจบ้างล่ะ ตอนแต่งกันใหม่ๆ ข้าวใหม่ปลามันน้ำต้มผักที่ว่าขมยังหวาน พออยู่กันไปนานๆ น้ำต้มผักว่าหวานยังว่าขม จากที่กลัวเมียเหนื่อยก็ด่าทอให้เมียทำงาน จิกด่าสารพัด มีลูกเต้าก็ต้องเลี้ยงดู เพิ่มภาระเข้าไปอีก สุดท้ายนอกจากเลี้ยงลูกแล้วก็ยังต้องเลี้ยงผัวด้วย
เธอเห็นบิดามารดาเป็นตัวอย่าง มารดานั้นทำงานเหนื่อยหนักทุกวัน บิดาก็ตั้งวงกินเหล้าเมาหัวราน้ำ ทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง หากวันไหนไม่มีจะกินนั่นแหละถึงได้ทำ พอมีกินก็ใช้จ่ายจนหมดแล้วค่อยหางานทำใหม่
“พี่สัญญาว่าจะดูแลมะลิให้ดีไม่ให้ต้องเหนื่อย”
“เหอะ! ผู้ชายทุกคนก็พูดแบบนี้ พอแต่งไปฉันเห็นเมียทำงานงกๆ”
“พี่จะไม่กินเหล้า จะไม่ขี้เกียจ” เข้มรีบตบปากรับคำ เขามองเด็กสาวด้วยความรู้สึกรักใคร่ แอบพึงใจมานานหลายปีรอจนเธอโตเป็นสาว เขาไม่เคยเถลไถล เที่ยวเตร่ สำมะเลเทเมา ทำงานเก็บเงินอดออมและประหยัดจนเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง

