ตอนที่1-3
เฟอนันเดสถึงกับอึ้งไปชั่วขณะก่อนจะมองลูกน้องคนสนิทด้วยดวงตาลุกวาบๆ “นี่นายรู้แล้ว จนไปสืบมาหมดแล้ว”
“ขอโทษด้วยครับ แต่ผมเห็นสายตาเจ้านายมองเธออย่างสนใจผมก็เลยไปสืบข้อมูลมารอไว้ เผื่อเจ้านายสนใจ”
“เธอชื่ออะไรนะ”
“พุดมาลัยครับ ชื่อเล่นว่าโบว์”
เฟอนันเดสครางในลำคอ นึกอยากได้เธอมาเป็นคู่นอนชั่วคราว แต่ก็ต้องบอกปัดอย่างเสียดาย “แต่ฉันไม่สน ฉันไม่อยากยุ่งกับพนักงานในบริษัทฯ ฉันไม่อยากให้ใครเอาไปพูดต่อ หาคนอื่นให้ฉันแล้วกันระหว่างที่ฉันอยู่ที่นี่”
คาร์เตอร์แปลกใจที่จู่ๆเจ้านายเกิดเปลี่ยนใจกะทันหันแต่ก็ไม่กล้าถามรีบโค้งศีรษะรับคำ “ได้ครับ ถ้าเจ้านายต้องการแบบนั้น”
“เดี๋ยวฉันจะลงไปเดินดูที่คลังสินค้าสักหน่อย นายไม่ต้องตามไปฉันจะไปเงียบๆ” เฟอนันเดสสั่งงานต่อทันที เพราะไม่อยากให้ใบหน้าของพุดมาลัยเข้ามาก่อกวนอีก ยังไงเขาต้องรักษากฎกติกาที่ตั้งไว้กับตัวเองว่าจะไม่ยุ่งกับพนักงานในบริษัทฯเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลังหากมีใครนำไปพูดต่อ สาวๆมีอีกมากให้เขาได้เลือกใช้บริการไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงคนนั้น
คนที่มองเขาด้วยสายตาไหวระริก ที่มีทั้งความหวาดหวั่น ประหม่า แต่เขาก็เห็นว่ามีอะไรบางอย่างที่ซุกซ่อนไว้ในดวงตากลมโตคู่สวยนั้น คนที่เขาอยากจุดไฟปรารถนาให้โหมขึ้นแต่ต้องพยายามอดกลั้นไว้
คาร์เตอร์เป็นห่วงเจ้านาย ถึงภายในศูนย์การค้าจะมีกล้องวงจรปิดและพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่หลายจุดแต่ด้วยหน้าที่ก็อยากติดตามเจ้านายไป แต่คำสั่งของคนตรงหน้าก็ถือว่าเด็ดขาด คาร์เตอร์จึงเดินกลับออกไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย
เฟอนันเดสออกจากห้องทำงาน ร่างสูงเดินตัดผ่านส่วนที่เป็นออฟฟิศไปจนกระทั่งเปิดประตูที่มุ่งสู่ส่วนที่เป็นศูนย์การค้า
ในเวลานี้ทั้งศูนย์การค้าเงียบสนิท มีเพียงแสงไฟสลัวจากไฟบางดวงที่เปิดทิ้งไว้ ผิดกับตอนเช้าที่เขามาถึง เฟอนันเดสมองด้วยดวงตาคมกริบแล้วเดินไปยังแผนกสุรา ซึ่งข้างๆกันจะเป็นคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่เก็บสินค้าต่างๆมากมายไว้ในนั้น
เสียงดนตรีกับเสียงพูดคุยจ้อกแจ้กดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณภายในผับ พุดมาลัยอยากกลับบ้านแล้วเพราะก้มมองเวลาก็เห็นว่าเลยเที่ยงคืนมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอเป่าเค้กร่วมกับทศพลตามคำคะยั้นคะยอของเพื่อนแล้ว ก็อยากกลับ จึงเดินไปกระซิบบอกดาริกาที่ยังเต้นสนุกอยู่
“ดา ฉันกลับก่อนนะ ฉันไม่ไหวแล้วง่วง ดาเองก็รีบกลับล่ะ”
“อะไรกันโบว์ อย่าทำตัวโบราณหน่อยเลย ไหนๆมาเที่ยวแล้วอยู่ต่ออีกหน่อยเถอะ”
“ไม่เอาล่ะ อยากกลับแล้ว ง่วง”
พุดมาลัยบอกแล้วหมุนตัวเดินกลับออกมาทำให้ดาริกาหน้าเหวอ อยากอยู่ต่อเพราะกำลังสนุกแต่ก็อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ ทศพลเห็นเหตุการณ์เข้าพอดีเลยเดินมาถาม
“น้องโบว์จะกลับแล้วหรือดา”
“ใช่ค่ะพี่ทศ ดาว่าจะกลับแล้วเหมือนกันเป็นห่วงโบว์กลับคนเดียว”
“ดากำลังสนุกอยู่ต่อกับเพื่อนเถอะ พี่เป็นคนชวนโบว์มาเองเดี๋ยวพี่ตามไปส่งโบว์เขาเอง”
“จะดีเหรอคะ”
“ดีสิ ดาอยู่ต่อเถอะ พี่ไปส่งโบว์เอง หรือว่าดาไม่ไว้ใจพี่” ทศพลถามกลับทำให้ดาริกาหลบสายตาจะบอกว่าระแวงก็ไม่เชิงไว้ใจก็ไม่ใช่ แต่เพื่อนที่มาด้วยกันก็กระตุกมือเร่งให้ไปแดนซ์ต่อ เลยรีบย้ำบอกทศพล
“ดาไว้ใจพี่ทศนะคะ งั้นดาฝากเพื่อนด้วย พี่ทศส่งให้ถึงบ้านด้วยนะคะ เดี๋ยวดาจะโทรหา”
ทศพลพยักหน้า แล้วรีบบอกให้ดาริกาไปสนุกต่อ ก่อนจะรีบเดินตามพุดมาลัยที่ออกจากร้านไปไกลแล้ว ทศพลวิ่งตามไปจนทัน ตอนที่พุดมาลัยกำลังยืนรอรถแท็กซี่อยู่หน้าร้าน ทศพลเห็นพุดมาลัยก้มหน้าควานหาอะไรบางอย่างวุ่นวายในกระเป๋า
“หาอะไรอยู่หรือครับน้องโบว์”
พุดมาลัยหันไปมองอย่างไม่ค่อยไว้ใจนักแต่กังวลเรื่องกระเป๋าสตางค์มากกว่า ถ้าหายไปคงเสียดายมาก“กระเป๋าสตางค์โบว์หายค่ะ ไม่รู้ทำหล่นที่ไหน”
“หายในร้านหรือเปล่าครับ พี่จะช่วยหา”
พุดมาลัยส่ายหน้า “โบว์ว่าไม่ได้หายที่นี่หรอกค่ะ โบว์ไม่ได้เปิดกระเป๋าเลย ของอื่นก็อยู่ครบ สงสัยโบว์จะทำหล่นที่ห้างตอนที่จะออกมา เดี๋ยวโบว์จะกลับไปดูที่ห้างก่อนนะคะ”
“น้องโบว์จะไปยังไงนี่มันดึกมากแล้ว ให้พี่ไปส่งดีกว่า ไปคนเดียวพี่เป็นห่วง”
พุดมาลัยนิ่วหน้าคิดหนัก เธอเองก็ไม่ไว้ใจทศพลเท่าไร แต่ระหว่างทศพลกับมิจฉาชีพที่แฝงตัวมายามวิกาล เธอเลือกที่จะให้ทศพลไปส่งดีกว่า
“ถ้าไม่รบกวนพี่ทศ โบว์ขอรบกวนหน่อยนะคะ” เพราะไม่มีเงินที่จะให้ขึ้นรถแท็กซี่ กอปรกับร้อนใจเรื่องกระเป๋าสตางค์จึงทำให้ต้องไปกับทศพล
“ไม่รบกวนเลยครับ เรารีบไปกันเถอะ”
เมื่อทศพลกระตือรือร้นที่จะไปส่ง พุดมาลัยจึงรีบเดินตามไปอย่างว่าง่ายโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองก็กำลังตกอยู่ในความอันตรายเช่นเดียวกัน
ทศพลพาพุดมาลัยเข้ามาที่ศูนย์การค้าได้เพราะความสนิทสนมส่วนตัวกับพนักงานรักษาความปลอดภัยและตำแหน่งหัวหน้าคลังสินค้าของทศพลก็เป็นใบเบิกทาง พุดมาลัยนึกขอบคุณเขาเรื่องนี้ที่ทำให้เธอเข้ามาค้นหากระเป๋าสตางค์ได้ เธอเดินไปที่ฝ่ายการเงินที่เธอไปส่งเงินไล่มาตามทางเดินก็พบว่ามีกระเป๋าสตางค์ของเธอหล่นอยู่จริงๆ
พุดมาลัยถลาไปเก็บมาด้วยความดีใจที่เห็นว่ามันหล่นอยู่ตรงทางเดินนั้นอย่างที่สงสัย เปิดดูเงินในกระเป๋ามีอยู่สองพันบาทก็ยังอยู่ครบ พุดมาลัยดีใจจนเผลอยิ้มเพราะเงินก้อนนั้นต้องใช้อีกสิบวันกว่าจะสิ้นเดือนมันจึงมีค่ามากสำหรับเธอ
“อยู่นี่เอง โบว์หาเจอแล้วค่ะพี่ทศ”
ทศพลเดินเข้ามาเงียบๆ ทำให้พุดมาลัยที่ย่อตัวไปเก็บกระเป๋าแล้วกำลังยืดตัวขึ้นต้องมองด้วยความรู้สึกตกใจปนไม่ไว้ใจ ความหวาดหวั่นผุดขึ้นมาเมื่อเห็นทศพลยืนใกล้มาก ตอนนี้ทั้งเงียบและมีแต่เธอกับเขาแค่สองคน
“เรากลับกันเถอะค่ะพี่ทศ” พุดมาลัยทำใจดีสู้เสือชวนออกไป แต่ทศพลก็ยังมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ จนเธอต้องรีบเดินเร็วๆผ่านหน้า แต่ก็ถูกทศพลกระชากกลับมาอย่างแรง
“เดี๋ยวก่อนสิโบว์”
ไม่พูดเปล่าแต่ทศพลยังยึดข้อมือบางไว้แน่น
“อ๊ะ! จะทำอะไรคะพี่ทศ ปล่อยมือโบว์นะ นี่มันในที่ทำงานนะคะ”
“พี่ชอบโบว์” ทศพลบอกเสียงแปร่งปร่าอย่างคนกลัดมัน ดวงตาวาววับโลมเลีย
ทศพลเฝ้ารอเวลานี้มานาน เมื่อเห็นว่าพุดมาลัยจะกลับมาที่นี่คนเดียว เขาจึงวาดแผนการในหัวทันที ไม่มีครั้งไหนจะสบโอกาสได้เท่าครั้งนี้ พุดมาลัยไม่เคยเปิดโอกาสให้เขาอยู่ตามลำพังด้วยเลย เขาลุ้นแทบตายตอนที่พุดมาลัยยอมตกปากรับคำมากับเขา ฉะนั้นเขาไม่มีทางพลาดโอกาสดีๆเช่นตอนนี้แน่
ทศพลดึงตัวพุดมาลัยมาระดมจูบ ทว่าพุดมาลัยไวกว่าเบี่ยงหลบได้ทัน ก่อนจะถูกยึดไหล่ให้ตรึงอยู่กับที่ ด้วยได้เปรียบทางด้านสรีระ ทศพลล็อกตัวพุดมาลัยไว้ทั้งสองมือแล้วรีบฉกวูบลงไปหมายจะบดจูบ เป็นจังหวะเดียวกับที่เฟอนันเดสเดินมาเห็นเข้าพอดี
ดวงตาสีบรั่นดีมองด้วยสายตาไม่พอใจ สองคนนั้นเป็นใครและเข้ามาในศูนย์การค้ายามวิกาลได้อย่างไร พนักงานรักษาความปลอดภัยหายหัวไปไหนกันหมดปล่อยให้ใครไม่รู้เข้ามาทำอะไรกันในศูนย์การค้าของเขา เฟอนันเดสกำลังโทรเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยให้มานำตัวไปแจ้งความข้อหาบุกรุก แต่ใบหน้าสวยจัดที่ตามก่อกวนความรู้สึกมาตลอดก็หันมาพอดี เขาจำใบหน้าสวยจัดของพุดมาลัยได้
พุดมาลัยนั่นเอง เฟอนันเดสเพ่งมอง หญิงสาวที่ดูอ่อนหวาน แต่กลับทำตัวไวไฟเร่าร้อนกับผู้ชายในสถานที่ที่ไม่สมควรเช่นที่ทำงานแบบนี้ พวกนั้นทำกันได้อย่างไร เขามองเห็นใบหน้าของคนทั้งคู่ชัดเจนก่อนจะหมุนตัวกลับไปพร้อมกับโทรเรียกให้คาร์เตอร์สั่งงานกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยให้มาเชิญสองคนนั้นออกไปก่อนที่เขาจะโมโหแล้วส่งไปสถานีตำรวจแทนโดยไม่ทันเห็นเหตุการณ์ต่อจากนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น
พุดมาลัยตบหน้าของทศพลอย่างแรง หลังจากที่อีกฝ่ายยังตัวงอเป็นกุ้งเพราะพุดมาลัยเตะผ่าหมากได้ทันก่อนที่จะถูกลวนลาม แก้มของทศพลขึ้นรอยแดงนูนเป็นรูปมือ ใบหน้าบิดเบ้น่ารังเกียจจากการที่กล่องดวงใจถูกกระทุ้งอย่างแรง สภาพตอนนี้ของทศพลดูไม่จืด
“อย่าทำแบบนี้กับโบว์อีก ครั้งนี้โบว์จะไม่แจ้งความเพราะเห็นแก่ที่เราเป็นเพื่อนร่วมงานแต่ถ้ามีครั้งหน้าโบว์จะแจ้งความเอาเรื่องทันที”
พุดมาลัยบอกจบก็สะบัดหน้าเดินจากไป ทิ้งให้ทศพลยืนมองใบหน้าแดงก่ำ “มันไม่จบง่ายๆแค่นี้หรอกพุดมาลัย”ทศพลคำราม เดินออกไปจากศูนย์การค้าให้เร็วที่สุด ส่วนพุดมาลัยนั้นเมื่อออกจากศูนย์การค้ามาได้ก็รีบโทรบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้ดาริการู้ทันที อีกฝ่ายได้ยินดังนั้นก็หมดสนุกรีบออกจากผับที่กำลังแดนซ์กระจายนั่งรถแท็กซี่มารับเพื่อนแล้วพุดมาลัยก็กลับไปค้างที่อพาร์ตเม้นต์ของดาริกาเพราะไม่อยากกลับบ้านตอนนี้เพราะกลัวมารดาจะซักถาม
ตื่นเช้ามา พุดมาลัยไม่มีเวลามานั่งเสียใจกับคนเลวๆอย่างทศพลอีก พุดมาลัยบอกกับดาริกาว่าเธอไม่สนใจทศพลว่าจะหาทางกลั่นแกล้งคืนหรือเปล่าจากที่เธอทำร้ายร่างกายเขาไว้ ดาริกาเตือนด้วยความเป็นห่วงให้เธอระวังตัว ก่อนทั้งคู่จะรีบอาบน้ำแต่งตัวมาทำงานตามปกติในตอนเช้า
โดยก่อนออกมาพุดมาลัยโทรหามารดาเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเป็นห่วง
“เมื่อคืนแม่ก็ไม่ได้กลับบ้านเหมือนกัน ถ้าค้างกับยัยดาก็ไม่เป็นไร ว่าแต่โบว์มีเงินให้แม่ยืมสักสองพันไหม”
“แม่” พุดมาลัยคราง เข่าอ่อนยวบเพราะเงินที่มารดาขอคือเงินที่เธอมีติดตัวอยู่
“ว่าไงล่ะ อย่าชักช้าอมพะนำ มีหรือไม่มี”
“โบว์เหลืออยู่สองพันต้องใช้อีกตั้งอาทิตย์นะแม่”
“เออ นั่นแหละ เอามาให้แม่ให้หมด โอนมาก็ได้ แม่ต้องใช้ตอนนี้”
“แต่โบว์ไม่เหลือเลยนะแม่”
