02 | ฝันที่เป็นจริง
เท้าเล็กตวัดก้าวลงจากเตียงนอนขนาดใหญ่ในชุดนอนตัวบางพลิ้ว เลื่อนประตูกระจกออกจากกันให้มันเปิดออกกว้าง สายลมเย็นฉ่ำกระทบเรือนร่างอรชร ค่ำคืนอันโดดเดี่ยวมีเพียงดวงดาวและแสงจันทร์อยู่เป็นเพื่อน นานนับหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เธอมาที่นี่เพื่อหนีจากผู้ชายใจอัมหิตที่พรากความสาวของเธอไป มิหนำซ้ำเขายังโหดร้ายโดยการเอามีดเอาปืนมาบังคับขู่เข็ญให้เธอทำตามใจทุกอย่าง
ครืน~ ฟริ้ว~
ลมหนาวพัดมาเป็นละลอกบวกกับเสียงน้ำทะเลกระทบกับหาดทรายขาว แองจี้ทำได้เพียงปล่อยใจไปกับธรรมชาติอันสวยงามในยามราตรีกาล
พึ่บ! แอด~
“…”สะ…เสียงอะไร! หญิงสาวเพียงได้แต่ปิดปากตัวเองพลางคิดในใจ เธออยู่ที่นี่คนเดียวอีกทั้งยังเป็นพื้นที่ส่วนตัวอีกต่างหากจะว่าเสียงลมพัดกระทบกับประตูก็มิอาจเป็นไปได้ เนื่องจากว่าทิศทางลมมาจากทะเลแต่เสียงลงกลอนนั้นดังมาจากหลังบ้านพักตากอากาศ
ตึก! ตึก!
เสียงฝีเท้าหนักของใครคนนึงกำลังเดินมายังห้องนอนของเธอ คนตัวเล็กสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว ร่างบอบบางวิ่งย่องไปคว้าแจกันขนาดกลางที่วางตกแต่งไว้ในมือ ก่อนจะเดินไปหลบอยู่หลังประตู
แก๊ก~ ปัง!
เสียงบิดกลอนดังขึ้นทว่าภายในกลับล็อคไว้แน่นหนาทำให้บุคคลปริศนาพังมันเข้ามาด้วยความง่ายดาย แองจี้น้ำตาแทบไหลอยากจะกรีดร้องให้สุดเสียงทว่าทำได้เพียงปิดปากตัวเองเอาไว้จ้องมองร่างสูงโปร่งผ่านความมืดรวบรวมความกล้าที่มีง้างมือขึ้นสูงเล็งเป้าหมายจะฟาดแจกันลงบนศีรษะอย่างแม่นยำ
พึ่บ~ เพล้ง!!!
“กรี๊ด!! ปล่อยฉันนะ”ไม่ทันที่แองจี้จะได้ทำร้ายร่างกายของชายปริศนา ไวพริบของเขาชั่งดีเหลือเกินก้มหลบการโจมตีของเธอก่อนจะตวัดร่างบางเอาไว้จนแองจี้เผลอปล่อยวัตถุที่ถูกทำจากกระเบื้องลงพื้นจนเกิดเสียงดังสนั่น
“ชู่ว!! ลืมแล้วหรือไงว่ามีผัวเป็นมือขวา”มะ…ไม่จริง! เสียงนั้นมันไม่ใช่เขา ไม่ใช่อย่างแน่นอนไม่มีทางที่ไรเดอร์จะหาเธอเจอ
“ระ...ไรเดอร์!”แองจี้ขานเรียกเขาด้วยน้ำเสียงกระตุกกระตักถึงจะไม่เห็นหน้าก็รับรู้ได้ว่าคือเขา น้ำหอมกลิ่นนี้ ร่างสูงอันบึกบึนแบบนี้เธอจำได้ไม่เคยลืมเลือน
“หึ! ยังจำผัวได้นิ”รอยยิ้มยากเกินจะคาดเดาว่าเขาคิดอะไรอยู่ทำให้เนื้อตัวสั่นเทาทวีคูณเป็นสองเท่า แองจี้ค่อยๆ ถอยหลังหนีทว่าเพียงไม่กี่ก้าวแผ่นหลังบางก็ติดกับกำแพงห้อง
“รู้ไหมว่าฉันเกลียดอะไรมากที่สุด”
“อึก! ยะ…อย่าทำอะไร อะ…แองจี้เลยนะ”น้ำเสียงราบเรียบของชายหนุ่มที่เปล่งออกมามันทำให้ดวงตากลมโตร้อนผ่าว หวาดกลัวระคนผวาเมื่อวงแขนแกร่งตวัดรัดเอวคอด
“อ่า…ทูนหัวรู้ไหม ฉันชอบน้ำเสียงตื่นกลัวของเธอ”เธอหวาดกลัวเขาเหลือเกิน ยิ่งชายหนุ่มเข้าประชิดตัวมาเท่าไหร่ยิ่งมองดวงตาเลื่อนลอยของเขาเธอยิ่งอยากจะหนีไปจากที่ตรงนี้เหลือเกิน
จมูกโด่งเป็นสันคลอเคลียตรงแก้มใสเนียนปลั่ง แองจี้เบือนหน้าหนีราวกับรังเกียจสัมผัสของเขาก็ไม่ปาน
“โรคจิต! ออกไปให้ไกลจากฉัน”เขามันโรคจิตแบบนี้แต่ไหนแต่ไรแล้ว แองจี้เองที่เข้าไปพัวพันในชีวิตของเขาและทำให้รักหมดหัวใจ
“ชู่ว!! ไม่เอานะไม่ว่าพี่แบบนี้”ไรเดอร์ไม่สะทกสะท้านกับวาจาหยาบคายที่เจ้าหล่อนพ่นใส่เลยสักนิด มิหนำซ้ำยังยิ้มกรุ้มกริ่มใส่คนตัวเล็กที่ไม่รู้ว่าความมืดนั้นจะทำให้แองจี้เห็นหรือเปล่า
“อื้อ! จะทำอะไร”ร่างบอบบางถูกดันจนติดกำแพงขนาดตัวที่เล็กกว่าเขาสองเท่าทำให้หญิงสาวลอยเคว้งอย่างง่ายดาย ทว่าเพียงไม่นานไฟในห้องก็ถูกเปิดขึ้นโดยฝีมือของเขา
พึ่บ!
“อืม…เห็นหน้าสวยๆ ของเธอแล้ว”เมื่อความสว่างไสวแพร่กระจายทั่วห้องทำให้เธอเบิกตากว้างมองเสี้ยวหน้าของผู้ชายที่เธอปรามาสไว้ว่าโรคจิต ยังเหมือนเดิมเขายังคงเหมือนเดิม เกือบห้าปีที่พยายามหนีเขามาตลอดสุดท้ายก็ได้พบกัน ไม่สิ! เธอไม่ได้อยากจะเจอสักนิด
“ปล่อยฉัน!”นึกได้ดังนั้นแองจี้ก็เริ่มมีอาการต่อต้านอีกครั้ง ถึงอย่างไรก็ตามเธอจะไม่มีวันหลงรักผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจอมวายร้ายของฝรั่งเศสแน่นอน จะว่าในครั้งแรกคือความผิดพลาดก็ไม่ใช่เพราะเขาบังคับขู่เข็ญหญิงสาวทั้งนั้น
“ชู่ว~ ไม่เอาสิจ้ะ ผัวอุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาเลยนะ”หลุบตาลงต่ำมองหน้างามหยดย้อย จ้องมองนัยน์สีฟ้าสวย ทว่าจุดที่เขาให้ความสนใจกว่าดวงตาก็คือริมฝีปากอวบอิ่มที่สั่นระริกราวกับเชิญชวน
ไรเดอร์ก้มหน้าหมายจะจุมพิตและบดขยี้แต่เจ้าหล่อนกลับเบี่ยงหน้าหลบจนเป้าหมายของมือขวาพลาดไปฝังตรงซอกคอหอมกรุ่นแทนที่
ฟอด!
“อืม!...หอมเหลือเกิน”ว่างพลางสูดดมความหอมเย้ายวนเข้าอย่างเต็มปอด
“อี๋!!! ออกไปให้ห่าง”แองจี้ดิ้นเร้าทำท่าทีรังเกียจสัมผัสของเขาทั้งที่ในใจของเธอโหยหาแต่เพียงเขา
“มึงกล้าไล่กูเหรอ ห๊ะ!!”ยิ่งเห็นเจ้าหล่อนต่อต้านเขาก็แทบอยากจะบีบคอสวยๆ ให้หักนัก ดูสิแม่คุณคนเค้าอุตส่าห์เจาะพิกัดตามกล้องวงจรปิดแทบทุกตัวในอังกฤษสักกี่ร้อยล้านตัวกัน แต่โชคดีที่เขาฉลาดไม่ล่อเปิดกล้องวงจรปิดแบบพวกโจรกระจอกทำ เขาเพียงย้อนดูตามที่ต่างๆ ตั้งแต่คอนโดจนกระทั่งดูจีพีเอสที่หญิงสาวเปิดดูนั้นจึงทำให้ตามมาถูกที่
“…”
“หยุดมองผัวด้วยสายตาหวาดระแวงได้ไหมวะ”ไรเดอร์ตะคอกใส่ดวงหน้างามเมื่อมองเห็นนัยน์ตาของเธอที่มันสื่อความหมายได้หลายอย่าง ไอ้ที่ว่าหลายอย่างมันหลายอย่างจริงๆ ทั้งโกรธ เกลียด ชิงชัง แค้นเคือง เหมือนเขาฆ่าญาติโกโหติกาเธออย่างไรอย่างนั้นแหละ
“ฉันไม่ใช่ปีศาจ!”
“แกมันปีศาจจะจองเวรจองกรรมฉันทำไม!”อยากจะหายออกไปจากตรงนี้นัก หากใครที่ได้ใกล้ชิดเขาจะรู้ทันทีเลยว่าผู้ชายอย่างไรเดอร์ไม่มีความสุภาพบุรุษกลับตรงกันข้ามเสียอีก ไม่มีใครอยากใช้ชีวิตร่วมกับคนที่ฆ่าคนอย่างเลือดเย็นหรอก
“อย่าเรียกว่าเวรกรรม เพราะมันคือ….”
“...”
“พรหมลิขิต”
