2
“ปานทิพย์...หรือเปล่า”
คำตอบสั้น ๆ เหมือนไม่มั่นใจ แต่แววตาที่มองสบตาเธอดูพราวระยับไม่น้อย แต่ก็เป็นเพียงนิดเดียวเท่านั้น แล้วมันก็มองออกยาก ยากชนิดที่ใครก็จับตามองแทบไม่ทัน
คำตอบของณัฏฐ์ทำเอาเจ้าของชื่อยิ้มด้วยความยินดี
เธอดีใจที่เขายังจำเธอได้ เพราะสมัยเรียนเธอเป็นพวกเอาแต่เรียน ไม่ชอบทำกิจกรรมใด ๆ เลย
ที่สำคัญเธอไม่ใช่คนสวย แล้วก็ไม่เด่นเลยสักนิดในความคิดของตัวเธอเอง แต่ผู้ชายอย่างณัฏฐ์ที่เป็นถึงประธานนักเรียน เป็นกัปตันทีมกีฬาของโรงเรียน แล้วยังเป็นตัวแทนของเขตไปแข่งวิชาการ จนได้เหรียญรางวัลกลับมาทุกครั้ง และแน่นอนว่าตอนนี้เขาก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในรุ่น จนใคร ๆ พากันพูดว่าเขาคงถือตัวน่าดู กลับจำเธอได้ จะไม่ให้ตื่นเต้นดีใจได้อย่างไร
“ปานจ๊ะปานจ๋า ติว่าปานเลิกจ้องคุณณัฏฐ์มันเถอะนะ มันไม่โสดแล้วล่ะปาน อีกอย่างคุณณัฏฐ์มันไม่ถูกกับสาวเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดแบบปานด้วย...ใช่ไหมวะ” ท้ายประโยคจุติเหมือนจะถามกันท่าว่าคนนี้ข้าจองอะไรประมาณนั้น
ณัฏฐ์นิ่งงันไป รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏขึ้นตรงมุมปากของเขา
“ตอนนี้ปานทำอะไร อยู่ที่ไหน แล้ว...สวยขนาดนี้มีแฟนหรือยัง” จุติซักด้วยความอยากรู้ ชนิดที่ดูจริงจังมาก ๆ
“โสดจ้ะ งานหรือ ปานไม่มีสังกัดหรอก”
ปานทิพย์ตอบปัดเรื่องงาน เธอไม่กล้าตอบ เพราะช่วยงานบัญชีอยู่หลายที่ รวมถึงร้านกาแฟของรัศมีโชติ กับช่วยงานเล็กน้อยที่บริษัทนำเข้าส่งออกของคุณวัฒน์อีกด้วย
คุณวัฒน์ที่เป็นบิดาของณัฏฐ์
พ่อลูกสองคนนี้ตัดขาดกันตั้งแต่คนพ่อตัดสินใจเดินออกมาจากครอบครัวเดิม แล้วจดทะเบียนสมรสสร้างครอบครัวใหม่กับรัศมีโชติหรือน้าเดือนของเธอ
ปานทิพย์จึงเลี่ยงที่จะตอบคำถามเรื่องงาน แบบที่ต้องพาดพิงถึงบุคคลที่เป็นบิดาของณัฏฐ์ อีกอย่างคือเธอไม่อยากพูดสะกิดแผลในใจของเขา แล้วแสร้งเปลี่ยนกิริยา ทำตาโตล้อเลียนเขาเปลี่ยนเรื่องไปเสีย
“จริงหรือดิน ที่ดินไม่ชอบสาวเปรี้ยวจี๊ดน่ะ ทำไมล่ะ เล่าหน่อยสิ” ถามออกไปด้วยความผิดหวัง เพราะจำได้ว่าสมัยเรียนณัฏฐ์จะควงดาวโรงเรียนที่ทั้งสวยและเปรี้ยว จนเธอมองแกมอิจฉาทุกที แถมก่อนที่จะมีข่าวว่าจะหมั้น เขาก็ยังควงแต่ดาราเปรี้ยวจี๊ดทั้งนั้นเลยนี่นา
แล้วทำไมถึงได้เลิกชอบสาวเปรี้ยวจี๊ดขึ้นมาเสียล่ะ
แต่ท่าทีนิ่งเงียบของณัฏฐ์ก็เหมือนจะช่วยยืนยันคำตอบว่าจริง และคงเป็นเรื่องส่วนตัวมาก ๆ เขาถึงไม่ยอมตอบ ทำเอาปานทิพย์ใจเสีย หมดความมาดมั่นในตัวเองไปเลย
“ให้สวย เปรี้ยว เฉี่ยวแค่ไหน ดินมันก็ไม่ใจแตกหรอกครับ ขนาดน้องไอวี่ ดาราดังมายืนอ่อยตอนงานเลี้ยงผู้ถือหุ้นรายใหญ่คืนก่อน มันยังยิ้มให้เฉย ๆ เลย เสียดายแทน”
เพื่อนในกลุ่มที่เป็นบริษัทลูกของณัฏฐ์ช่วยตอกย้ำอีกคน พร้อมออกปากเล่าอย่างอิจฉา “ไหนเลยจะน่ารักแบบหนูดี ถ้าไม่เรียบร้อยอ่อนหวาน ไอ้ดินมันไม่แลให้เสียสายตาหรอก...ใช่ไหมครับคุณดิน”
ณัฏฐ์ยังคงเงียบ ไม่ตอบอะไรเพื่อน เอาแต่ดื่มอย่างเดียว
ปานทิพย์มองเก็บรายละเอียดเรื่องของเขาด้วยการเงียบฟังเพื่อนคนอื่น ๆ คุยเช่นกัน
แล้วนึกถึงที่ครูฝึกสอนมา เธอแอบพ่นลมหายใจ ทำทีเป็นนั่งเอนหลัง พิงพนัก ก่อนยกขาไขว้ไขว่ห้างจนชายชุดสวยที่สั้นอยู่แล้วถลกสูงขึ้นไปอีก
มือของเธอตกแต่งเล็บให้เป็นคอลเล็กชันเดียวกันกับชุดหยิบเครื่องดื่มยกขึ้นจิบ ก่อนถามเขาด้วยท่าทีที่มั่นใจอย่างที่สุด ขัดกับหัวใจที่เอาแต่สั่นไหวราวฟ้ากับเหว
“นี่เราไม่เจอกันกี่ปีแล้วเนี่ยดิน”
‘เจ็ดปี สิบเดือน กับอีกสิบห้าวัน’
ปานทิพย์ตะโกนคำตอบดังก้องอยู่ภายในใจ ใต้ท่าทีที่จงใจคล้ายถามเล่น ไม่ได้สนนัก ว่าเขาจะจำมันได้หรือไม่
แต่ณัฏฐ์มองสบตาเธอด้วยแววตายิ้มได้ ก่อนจะเปล่งเสียงทุ้มนุ่มละมุนหู ตอบกลับมาว่า “เจ็ดปี สิบเดือนกับอีกสิบกว่าวันแล้วไหม”
“หูย จำได้ด้วยอะ”
ปานทิพย์ร้องออกมาอย่างตกใจ อดใจเต้นโครมครามกับคำตอบของเขาไม่ได้ ย้อนเขาแบบล้อ ๆ แล้วพยายามส่งสายตาท้าทายให้เขาด้วย
แต่ณัฏฐ์ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างที่ครูฝึกบอกเลยสักข้อว่าเขาสนใจเธอ เช่นหูตาแพรวพราว พูดคุยหยอกล้อ หรือถึงเนื้อถึงตัวอะไรเทือกนั้น ณัฏฐ์ไม่ได้แสดงออกแบบนั้นเลยสักนิด
ปานทิพย์ยกแก้วค็อกเทลขึ้นดื่มทีละนิด เพื่อให้แอลกอฮอล์ในนั้นสร้างความหน้าหนาเพิ่มให้กับตัวเธอเอง
นึกถึงสคริปต์ที่ฝึกฝนมาอย่างดี ค่อยวางแก้วลง แต่ยังคงประคองมันไว้ในอุ้งมือ พร้อมกับโน้มตัวเข้าไปหาเขา จงใจอวดความอวบอิ่มของทรวงอกให้มันล้นออกมาต่อหน้าต่อตาเขาแล้วถามเสียงยั่วนิด ๆ “ท่าทางดินจะรักว่าที่คู่หมั้นน่าดูเลยเนอะ ถามจริง เคยคิดนอกใจบ้างเปล่า”
คาดหวังว่าจะได้เห็นสายตาของเขามองลงมาที่ร่องอกอวบ ๆ แต่เปล่าเลย คนโดนยั่วยังคงรักษาระดับสายตาที่มองมา พร้อมรอยยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถามเธอ ก่อนจะเบนหน้าไปอีกทางเมื่อมีเพื่อนอีกกลุ่มตะโกนเรียก
ปานทิพย์เผลอระบายลมหายใจออกมาพร้อมกับความคิดที่ว่า งานนี้คงไม่ได้เรื่องแล้วแน่ ๆ ทำไมถึงได้ยากนักนะ แล้วเธอจะจัดการเขาแบบไหนดีล่ะทีนี้
