จุดเริ่มต้น ... ต่อ
เมื่อข้าวฟ่างขอออกไปคุยกับแฟนหนุ่มที่ด้านนอกของร้าน
นั่งคนเดียวร่วมชั่วโมงได้ อรนลินก็ต้องผงะหนี เมื่อจู่ ๆ ก็มีมือยื่นแก้วเครื่องดื่มส่งให้ตรงหน้า หญิงสาวแหงนมองเจ้าของมือ พอเห็นว่าเป็นใคร ก็ขยับหนี ไม่รับเครื่องดื่ม แล้วเบือนหน้ามองคนอื่น ที่กำลังเต้นกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยงบนฟลอร์
อดมองหาเจ้าของวันเกิดไม่ได้ ว่าป่านนี้แล้วคุยกันถึงไหน ปรับความเข้าใจกันได้หรือยังก็ไม่รู้
คอยดูนะ ถ้าเข้ามาแล้วจะแกล้งงอนใส่เสียเลย ค่าที่ปล่อยให้ต้องรอนานแบบนี้
“ข้าวฟ่างไปไหน”
อรนลินชะงักเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าควรพูดหรือไม่ เลยตัดสินใจปดออกไป “ไปคุยกับเพื่อนอีกกลุ่มข้างนอกมั้งคะ”
จุติพยักหน้า “ไอ้ดินมันรู้ไหมเนี่ยว่าว่าที่คู่หมั้นมาเที่ยวที่แบบนี้”
“คู่หมั้นไม่ใช่เจ้าชีวิตนะคะ ต่อให้แต่งงานกันแล้วก็ไม่ควรลิดรอนสิทธิ์ของกันและกันค่ะ”
“อย่างนั้นหรือ” จุติถามกลับด้วยการลากเสียงยาว อย่างต้องการยียวน กดมุมปากสองข้างลง ทำหน้าราวกับกำลังฟังเด็กอนุบาลอธิบายหลักการเศรษฐศาสตร์ขั้นสูงอยู่
“ถ้าเป็นผมนะ จะตีให้ก้นลายเลย ถ้ารู้ว่ามาเที่ยวแบบนี้ ผมไม่ชอบให้แฟนมาเที่ยวที่แบบนี้น่ะครับ”
จุติโน้มหน้าเข้าไปจนใกล้เกินเหตุ แต่สาวเจ้าก็ย้อนกลับ อย่างไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ “ดีที่ฉันไม่ใช่ว่าที่คู่หมั้นหรือแฟนของคุณ”
จุติมองว่าที่คู่หมั้นของณัฏฐ์อย่างเคือง ๆ “คุณไม่มีบุญขนาดจะได้เป็นคู่หมั้นหรือแฟนของผมหรอก”
“ถ้าต้องมีบุญแล้วได้เป็นแฟนของคุณ ฉันขอไม่มีดีกว่า”
จุติอ้าปากจะงัดข้อต่อ แต่แล้วกลับถูกเสียงหวานร้องเรียกขัดขึ้นว่า “ติขา...” เสียงดัดจนหวานแหลม ดังมาก่อนตัวเสียอีก จนเจ้าของผับและอรนลินต้องหันไปมองแทบจะพร้อม ๆ กัน
“ริต้าตามหาตั้งนานแน่ะ”
จุติรีบผละออกจากคนที่อยากแกล้งเมื่อครู่ จนอรนลินนึกหมั่นไส้ หญิงสาวคู่ควงจุติตามมากอดแขนจุติแน่น พอเห็นว่าเขาอยู่กับผู้หญิงหน้าตาสวยหวานก็เบ้ปาก ถามด้วยความระแวงปนหมั่นไส้ “แม่นี่ใครคะติ”
อรนลินยิ้มแล้วคิดอะไรสนุก ๆ ได้เลยย้อนถามไปว่า “คิดว่าใครล่ะคะ”
“ติ นี่คุณนอกใจริต้าหรือคะ”
อรนลินเลยบีบเสียงถามบ้าง กลั้นยิ้มเต็มที่ เมื่อเห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของจุติ “แล้วแม่นี่ใครคะติขา”
ริต้าไม่ฟังคำใด ๆ ตวัดมือขึ้นจะตบ จุติไวกว่า รีบเอาตัวเข้าไปบังว่าที่คู่หมั้นของเพื่อน พร้อมจับมือริต้าไว้มั่น ปรามเสียงเข้ม “อย่านะริต้า”
“นี่ติรักมัน จนลงมือกับริต้าเลยหรือคะ”
การลงมือที่สาวริต้ากล่าวหา คือการจับมือเอาไว้ ไม่ให้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับหญิงสาวอีกคน เพราะริต้าขึ้นชื่อมากเรื่องหาเรื่องกับคนอื่นไปทั่ว แล้วก็ยังขี้หึงมาก ๆ อีกด้วย ทั้งที่คุยกันแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นแบบไหน แต่ริต้าก็ไม่วายจะผลักตัวเองให้ขึ้นไปอยู่ในอีกสถานะ
ริต้าดิ้นจนหลุดจากมือของจุติแล้ว ก็ตรงเข้าไปคว้าคอเสื้อของอรนลิน ออกแรงกระชากสุดแรง จนมีเสียงดัง แควก! และเศษผ้าชิ้นเล็ก ๆ ก็ขาดติดมือเจ้าหล่อนไปด้วย
“ว้าย!”
อรนลินยกสองมือขึ้นปิดด้านหน้าลำตัวเอาไว้ เพราะชุดถูกทึ้งจนขาด
บรรยากาศสนุกสนานโดยรอบชะงักลงทันที จุติปล่อยมือจากคู่ขาคนที่ใช้บริการกันประจำ มาคว้าว่าที่คู่หมั้นของเพื่อนให้ซุกกับอกของเขา เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็นอกอวบ ๆ ของเจ้าหล่อนไปเสียก่อน ส่วนเขาหรือ เห็นหมดแล้ว จนต้องลอบกลืนน้ำลายอยู่นี่อย่างไรเล่า
แล้วภาพที่ทุกคนในร้านเห็น ก็คือจุติกอดอรนลินอยู่ แถมยังตะโกนสั่งคนในร้านด้วยว่า “เด็ก ๆ ใครก็ได้ มาพาคุณริต้าออกไปหน่อย”
สั่งเสร็จก็ยอมคลายร่างนุ่มนิ่มออก พร้อมกับถอดเสื้อของตัวเองคลุมให้อรนลิน เมื่อนึกได้ว่าจะกอดกันไปแบบนี้ตลอดไม่ได้
“ข้าวฟ่างไปไหนวะเนี่ย” เจ้าของผับชื่อดังตวาดถามเสียงดุกับพนักงานในร้าน
“ขึ้นรถไปกับเพื่อนแล้วค่ะคุณติ” เด็กคนหนึ่งในร้านที่เห็นเหตุการณ์บอกเสียงอ่อย จุติเลยยกโทรศัพท์กดโทรหาแต่กลับติดต่อไม่ได้ ส่วนอีกคนทางนี้ก็งอแงจะกลับท่าเดียว จนเขาต้องตวาดเสียงดุใส่
“หยุดโวยวายได้แล้ว ขึ้นไปรอข้าวฟ่างที่ห้องข้างบนก่อนไป”
จุติกดวางสายที่เพียรโทรหาญาติผู้น้อง แล้วจับข้อมือเล็ก ๆ ของอรนลินพาขึ้นไปที่ห้องส่วนตัว ถัดจากออฟฟิศที่ด้านบน
พอพามาถึง อรนลินก็รีบถดตัวหนี ราวกับเขาเป็นถ่านร้อน ๆ ก้อนใหญ่อย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว แถมตวาดแว้ดใส่เขาอีก
“ไปจัดการแฟนคุณนู่น ไม่ต้องมาสนใจฉัน”
“โธ่แม่คุณ ใครสนใจคุณไม่ทราบ” จุติร้องถามอย่างเหลืออด เขาช่วยแท้ ๆ ยังมาโวยวาย มาวีนใส่เขาอีก “เนี่ยอะนะ สาวของไอ้ดิน ผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูก ถุยเถอะครับ ถ้าไม่เพราะคุณไปต่อปากต่อคำกับริต้า มันก็ไม่มีเรื่องวุ่นวายแบบนี้ขึ้นมาหรอก รู้ตัวเอาไว้ด้วย”
คนฟังตาลุกวาบ ด้วยความโกรธที่ถูกอีกฝ่ายพูดใส่ความตนเอง “แฟนคุณนั่นแหละเริ่มก่อน”
“ไอ้ดินมันรู้หรือเปล่าว่าว่าที่คู่หมั้นมันไม่ธรรมดาน่ะ”
