จุดเริ่มต้น ... ต่อ
“ป้าเนียนยังอยู่ไหม”
“เมื่อตอนเที่ยงได้ยินแกบ่นปวดหลัง เห็นเข้าห้องไปนอนเหยียดหลังอยู่มั้ง” จุติเป็นคนตอบ ณัฏฐ์บอกไปทางคนที่ยืนตัวเปียกด้วยสายตาไม่ใคร่จะพอใจนัก
“ไปช่วยเตรียมอาหารหน่อยปาน”
จุติเลยพยักหน้าแล้วอาสา “เดี๋ยวติช่วย”
“ไม่ต้อง! เดี๋ยวกูจัดการเอง” ณัฏฐ์บอกเสียงแข็ง ส่งสายตาบีบบังคับให้ทำตามที่เขาสั่ง
ปานทิพย์หน้าเจื่อน หันไปบอกจุติว่า “ไม่เป็นไรหรอกติ เดี๋ยวติรอชิมฝีมือปานอยู่นี่แหละ”
ณัฏฐ์ไม่รีรอเดินนำเข้าบ้านไปก่อน หญิงสาวคนนั้นจึงค่อย ๆ เดินตามไป
อรนลินยืนมองเหตุการณ์อย่างอารมณ์ดี
ศึกชิงนางแหง ๆ เลยแบบนี้ เธอจะเกาะขอบจอรอดูจนจบเลยล่ะ ยิ้มสวยอยู่ภายในใจว่าขอเชียร์ให้ณัฏฐ์ชนะเถอะ เพราะเธอหมั่นไส้นายจุติอะไรนี่เหลือจะทนจริง ๆ คนอะไรหน้าตาก็พอดูได้หรอกนะ แต่วางมาด ขี้เก๊กชะมัด
ชายคนที่เป็นเพื่อนของณัฏฐ์เงียบแล้วเอาแต่นั่งมองเธอ
จนอรนลินอึดอัด
เพราะอีกฝ่ายเอนตัวพิงพนักมองมาทั้ง ๆ ที่ตัวเขาเองนั้นเปลือยอกอยู่ ยังดีที่ท่อนล่างของเขามีผ้าเช็ดตัวสีน้ำเงินเข้มปิดเอาไว้กันอุจาดสายตา
แต่ก็เถอะ...ผู้ชายอะไรไร้มารยาท จนเธอนึกรังเกียจ
และนานโขทีเดียวกว่าที่ณัฏฐ์จะกลับออกมา หลังจากปล่อยให้เธออยู่กับผู้ชายในชุดว่ายน้ำตามลำพัง
ไม่เคยสักครั้งที่คนง่าย ๆ สบาย ๆ อย่างอรนลินจะอึดอัดกับการอยู่ร่วมกับใคร
ก่อนกลับอรนลินแอบภาวนาอยู่ภายในใจว่าขออย่าให้เธอได้เจอะเจอกับเขาอีกเลย
‘นายอะไรนั่นนะ...อ้อ นายจุติ ขออย่าให้ต้องเจอกับเขาอีกเลย รู้สึกไม่ถูกชะตาเลยแม้แต่น้อย’
“ใช่จ้ะข้าวฟ่าง งานเลื่อนเข้ามาอีก”
“บ้า ป่องเปิ่งอะไร ตลกละ เคนะ ไว้เดี๋ยวเจอกันที่งานเลย”
“อือ คิดถึงเหมือนกัน”
อรนลินวางสายแล้วนั่งอมยิ้มคนเดียวที่ระเบียงบ้าน พอดีที่มารดาเดินเข้ามาสมทบ จึงยิ้มน่ารักส่งให้ ก่อนเอ่ยปากขออนุญาต
“คุณแม่คะ หนูดีจะไปงานวันเกิดข้าวฟ่างนะคะ”
อรทัยเงียบไปเป็นนาน แล้วถึงได้ถามออกไปว่า “ที่ไหนคะลูก”
พอได้ยินชื่อโรงแรม ที่ซึ่งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร คนเป็นแม่ก็หน้านิ่วทันที บอกกลับไปว่า “แม่ไม่อยากให้ลูกไปเลย เมื่อคืนแม่ฝันว่ามีคนมาตัดนิ้วก้อยของแม่”
อรนลินยิ้มแล้วลุกขึ้นมาบีบนวดไหล่มารดา “หูย คุณแม่น่ะ เอาเรื่องฝันมาอ้างอีกแล้ว เนี่ย ๆ เพราะคุณแม่คิดมากก็เลยเก็บเอาไปฝันหรอกค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับหนูดีเลย” พูดจบ หอมแก้มมารดาอย่างประจบแล้วอ้อนเสียงหวานอีกที
“ให้หนูดีไปเถอะนะคะ เพื่อน ๆ บอกว่าจะฉลองให้หนูดีด้วย ที่ได้หมั้นเป็นคนแรกในกลุ่มเลยน่ะ” คนเป็นลูกพูดแบบติดตลก ถึงอย่างนั้นก็ดูไม่ได้ยินดีนักในน้ำเสียง
แต่คนเป็นแม่ไม่ทันได้สังเกตอาการ ทำเพียงถอนลมหายใจ สุดท้ายก็พยักหน้า อนุญาตให้ไปในที่สุด แต่ในใจก็อดพะวักพะวนไม่ได้ รู้สึกแปลก ๆ โหวง ๆ ชอบกลนัก เหมือนกับจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับตนและบุตรสาวอย่างนั้นแหละ แต่แล้วก็ปลอบใจตัวเอง ว่าคงคิดมากเกินไปอย่างที่บุตรสาวออกปากท้วงนั่นเอง
ที่ผับชื่อดังย่านแหล่งท่องเที่ยว
อรนลินในชุดเสื้อกระโปรงเข้าชุดสีหวานสมวัยและหน้าตา เดินคล้องแขนเจ้าของงานวันเกิดที่ปิดร้านเลี้ยงเพราะเป็นญาติกับเจ้าของผับ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มคุยหัวเราะสนุกกันหลายต่อหลายเรื่อง เพราะไม่ได้เจอกันมาเกือบครึ่งปี
“เสียดายอะที่หนูดีหมั้นกับพี่ดิน” เจ้าของงานวันเกิดบอกขึ้น
อรนลินขมวดคิ้วถามด้วยสีหน้างุนงง “ทำไมหรือข้าวฟ่าง”
ข้าวฟ่างบอกก่อนโบกมือเรียกคนมาใหม่ “ก็จะแนะนำให้รู้จักกับพี่ชายฟ่างไง นู่นแน่ะมาละ ยู้ฮู ทางนี้ค่ะ”
สาวผมยาวตรงสลวยเจ้าของวันเกิด โบกมือเรียกชายหนุ่มที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นพี่ชาย ไม่ได้สนใจมองตามเพื่อน อรนลินมัวแต่วุ่นวายกับเครื่องดื่มที่บริกรส่งให้เธอ
“ไม่ต้องใส่เหล้านะคะ”
พนักงานพยักหน้ารับติด ๆ กัน รับเครื่องดื่มแล้ว ก็ค่อยหันตามแรงดึงของเพื่อน จากใบหน้ายิ้มแย้มก็แทบหุบยิ้มในทันที เมื่อเห็นว่าญาติของเพื่อนเป็นใคร
“หนูดี นี่พี่ติ พี่ชายฟ่างเอง”
อรนลินชะงักไปครู่ วางเครื่องดื่มลง แล้วยกมือไหว้อย่างเสียมิได้ “สวัสดีค่ะ”
จุติพยักหน้าตอบ แต่ไม่ได้พูดคุยอะไรด้วย บอกข้าวฟ่างว่า “พี่ขึ้นไปบนออฟฟิศก่อนนะ เดี๋ยวลงมานั่งด้วย แล้วอย่าดื่มเยอะนักล่ะ เจ้าของงานเมาน่าเกลียดน่าดูเลย รู้ไหม”
จุติบอกข้าวฟ่างด้วยน้ำเสียงเข้มงวด แล้วใช้นิ้วเคาะเบา ๆ ที่หน้าผากเจ้าของวันเกิด ก่อนจะหันหลังเดินไปยังบันได ขึ้นไปยังชั้นลอย อันเป็นที่ตั้งออฟฟิศที่เขาว่าไว้
“เป็นไงมั่งพี่ชายฟ่าง”
อรนลินยักไหล่ แล้วว่า “ไม่เป็นไงนี่”
“หนูดีเป็นอะไร ทำไมทำหน้าอย่างนั้น ไม่สนุกหรือ”
ข้าวฟ่างถามอย่างตกใจ เมื่อเพื่อนสนิทที่ยังยิ้มแย้มอยู่ดี ๆ เปลี่ยนเป็นเฉยเมยไปเสียนี่ จะว่าไปก็เห็นหน้าบึ้ง ตั้งแต่ที่จุติปรากฏตัวขึ้นนี่เอง
แต่อรนลินรีบปัดความขุ่นมัวทิ้ง ไม่อยากให้เจ้าของวันเกิดคิดมาก เพราะข้าวฟ่างเพิ่งมีเรื่องเข้าใจผิดกับแฟนหนุ่มและยังปรับความเข้าใจกันไม่ได้
ด้วยความรักเพื่อนของอรนลิน จึงรีบปรับอารมณ์เพื่อเจ้าของงาน บอกเสียงสดใสไปว่า “ไม่มีอะไรหรอกน่าฟ่าง มาสนุกกันดีกว่า แฮปปีเบิร์ธเดย์นะ มีความสุขมาก ๆ แต่งงานคิวต่อไปเลยก็ดี”
กอดคอเพื่อน โยกไปตามเพลงโปรด ดื่มเครื่องดื่มด้วยกันเป็นครู่ใหญ่ ก็ปลีกตัวไปนั่งพัก เมื่อข้าวฟ่างขอออกไปคุยกับแฟนหนุ่มที่ด้านนอกของร้าน
