บทที่ 1
นางจำต้องบอกถึงจุดประสงค์ของเจ้าหนี้แก่ลูกสาวไปและขอร้องให้สุวิมลยอมตกลงทำตามคำขอร้อง ซึ่งอีกฝ่ายก็กรีดร้องลั่นบ้านทันทีก่อนจะยืนกรานว่าไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยอมไปเป็นนางบำเรอของใครให้เป็นขี้ปากชาวบ้านอย่างแน่นอน ซึ่งใครเลยจะคาดคิดว่าหลังจากคำพูดนั้นของสุวิมลจบลงเพียงไม่กี่วันเจ้าตัวก็มาแอบหนีตามดนัย แฟนหนุ่มไฮโซของตัวเองไปไกลถึงนิวยอร์กและไม่ยอมเปิดช่องทางให้ใครติดต่อเธอได้สักคนเดียว ซึ่งมันสร้างความวุ่นวายใจให้แก่ผู้เป็นแม่มากเพราะหนทางเดียวที่จะต่อยอดลมหายใจของครอบครัวไปได้อีกสักหน่อยตอนนี้กลับมาหนีออกจากบ้านไปดื้อๆ
“อีกเดี๋ยวคุณลูซเขาก็จะมาเอาคำตอบแล้ว! ยัยมลนะยัยมลทำอะไรไม่คิดถึงหัวอกของแม่บ้างเลย! แล้วนี่ฉันจะทำยังไงต่อไปดีล่ะเนี่ย! ไอ้ผัวเฮงซวย! ขนาดว่าตายไปแล้วก็ยังสร้างเรื่องทิ้งไว้ให้ ฉันล่ะอยากจะบ้าตาย!!” คุณหญิงกานดาตวาดลั่นอย่างหงุดหงิดก่อนจะแผดเสียงใส่ทุกๆ คนที่อยู่ใกล้อย่างไม่ไว้หน้า หากวันนี้นางไม่มีคำตอบที่น่าพอใจไปให้เขาคนนั้นล่ะก็ รับรองได้เลยว่าทั้งบ้านและทุกๆ สิ่งที่สร้างมาจะต้องถูกยึดเอาไปจนหมดสิ้นแน่นอน ซึ่งนางจะไม่มีวันยอมให้เป็นแบบนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันยอมอย่างเด็ดขาด!
ร่างอวบอิ่มเกินวัยในชุดแม่บ้านสีชมพูอ่อนมอซอค่อยๆ เดินลัดเลาะมาตามถนนฟุตบาทมุ่งหน้าสู่บ้านจักรเทพที่ตนเองอาศัยอยู่มาตั้งแต่จำความได้อย่างไม่คิดเหน็ดเหนื่อย ประภัสสรยกมือปาดเหงื่อที่ขมับบนใบหน้าของตัวเองอย่างแผ่วเบาก่อนจะรีบเร่งฝีเท้ากลับบ้านทันทีที่จ่ายตลาดเสร็จ ด้วยรู้ดีว่าถ้ากลับช้าจะต้องเจออะไร
หญิงสาวที่ตอนนี้อายุได้ยี่สิบห้าปีเต็มแล้ว หากแต่เธอมีวาสนาได้เรียนแค่เพียงมัธยมปลายเท่านั้นเพราะเจ้าของบ้านที่เธออาศัยอยู่สั่งห้ามไม่ให้เธอเรียนต่อมหาลัยแม้ว่าจะพยายามขอร้องท่านสักแค่ไหนคำตอบที่ได้กลับมาก็คือคำว่าไม่อนุญาตเสมอ หญิงสาวที่ถูกนำมาทิ้งเอาไว้ที่หน้าบ้านหลังงามหลังนั้นตั้งแต่ยังแบเบาะจำต้องยอมทำตามผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเธอเอาไว้ แม้จะในสถานะคนรับใช้กินเงินเดินหลักพันไม่ได้มีชีวิตที่ดีงามอะไรเลยสักอย่าง แต่อย่างไร ทั้งคุณหญิงและคุณท่านต่างก็มีบุญคุณต่อเธอด้วยกันทั้งคู่
เพราะฉะนั้นไม่ว่าท่านสั่งให้ทำอะไรต่อให้มันยากเย็นแค่ไหนเธอก็ต้องทำ เพื่อตอบพระคุณอันใหญ่หลวงที่ท่านมีให้กันเสมอ
