ตอนที่ 2 ช่วยเหลือ
ตอนที่ 2
ช่วยเหลือ
ภวัตรู้สึกเสียหน้ามากที่ถูกหญิงสาวต่อว่าแบบไม่ไว้หน้า เขายอมรับว่าตัวเองไร้มารยาทที่ไม่เอ่ยทักทายเธอ แต่ก็ไม่คิดว่าโสรยาจะแก้เผ็ดแบบนี้ ชายหนุ่มถึงกับไปไม่เป็น คนที่มั่นใจในตัวเองสุดขีดแบบเขาพอถูกผู้หญิงปฏิเสธแบบนี้ เขาก็ถึงกับหมดความมั่นใจเลยทีเดียว
ภวัตขอตัวกลับทิ้งให้แม่นั่งคุยกับประทีปต่อ เขาไม่รู้จะไปไหนเห็นว่าเริ่มเย็นแล้วจึงเดินทางมาที่ผับเเห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ริมถนน
ชายหนุ่มเดินเข้ามาด้านในเสียงเพลงดังมากจนไม่ได้ยินเสียงผู้คนที่กำลังพูดคุยกัน ยังไม่หัวค่ำแต่ก็มีคนนั่งกินเหล้าประปราย เขามาคนเดียวจึงเลือกไปนั่งที่หน้าบาร์ สั่งเครื่องดื่มที่ราคาแพงที่สุด ก่อนนั่งดื่มเพียงลำพัง
ไม่รู้ว่าดื่มไปนานแค่ไหน ฟ้าด้านนอกก็เริ่มมืด ผู้คนเริ่มทยอยเข้ามาจนแน่นเต็มพื้นที่ ชายหนุ่มเงยหน้าจากแก้วเหล้ากวาดตามองไปรอบๆ ก่อนเห็นว่ามีหญิงสาวหลายคนกำลังส่งยิ้มมาให้
ความมั่นใจที่หดหายตอนนี้เริ่มเรียกกลับมาได้บ้างแล้ว แค่คำพูดผู้หญิงเพียงคนเดียวไม่ควรเก็บมาคิด เขาไม่ได้แย่ขนาดนั้นเสียหน่อย เธอยังไม่รู้จักเขาดีพอก็ตัดสินกันเสียแล้ว
ชายหนุ่มไม่ได้เสียใจที่ถูกปฏิเสธการแต่งงานแต่เสียหน้ามากกว่า เขารู้จักโสรยาเพราะเธอเป็นดารา ถึงจะไม่สนิทสนมกันแต่เขาก็พอรู้ว่าเธอมีนิสัยใจคออย่างไร เขาไม่ได้คิดอะไรกับหญิงสาว ไม่ได้ชอบเธอเลยแม้แต่น้อย เพราะฉะนั้นเขาไม่ควรให้ความคิดของเธอมามีอิทธิพลเหนือความรู้สึกของตัวเอง
ภวัตยกแก้วทักทายหญิงสาว พวกเธอนั่งกันอยู่หลายคนเขาเลยเลือกที่จะทักทายจากไกลๆไม่เดินเข้าไปหา
เขาแค่อยากรู้ว่าตัวเองยังเป็นที่สนใจของสาวๆอยู่หรือไม่ จึงได้นั่งอยู่ตรงนี้พร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆอีกครั้ง
ด้วยความที่เขาเป็นคนหน้าตาดี บุคลิกดี ทำให้สาวๆหลายคนสนใจ พวกเธอแข่งกันเรียกร้อง ความสนใจด้วยการส่งสายตา แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ เขาเพียงแค่มองเท่านั้นแต่ไม่ได้คิดจะเข้าไปพูดคุยหรือทำความรู้จัก
ในขณะที่เขากำลังมองอะไรไปเรื่อยเปื่อย สายตาก็ดันสะดุดเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกล เธอเป็นหญิงสาวหน้าตาดี แม้ว่าจะไม่ได้แต่งหน้าฉูดฉาดเหมือนผู้หญิงหลายๆคนในนี้ แต่ความสวยของเธอก็โดดเด่นสะดุดตากว่าใคร
ภวัตไม่สามารถละสายตาจากใบหน้านั้นได้ เขามองเธออยู่นานสองนาน ไม่ว่าหญิงสาวจะเดินไปไหนก็จะมีสายตาของชายหนุ่มจับจ้องอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ภวัตเท่านั้นที่สนใจ แต่ยังมีผู้ชายอีกหลายคนที่ดูเหมือนจะสนใจหญิงสาวด้วยเช่นกัน
ในขณะนั้นพนักงานสาวนำเหล้าไปเสิร์ฟให้กับลูกค้า แต่ลูกค้าชายคนหนึ่งกลับวางมือที่ต้นขาของเธอ ทำให้หญิงสาวสะดุ้งโหยงและถอยออกมาหนึ่งก้าว แต่เขาก็ยังไม่ลดละความพยายาม เอื้อมมือมาจับต้นขาหญิงสาวอีกครั้ง แต่คราวนี้มือสกปรกกำลังจะเลื้อยเข้าไปใต้กระโปรง
หญิงสาวยืนนิ่งตัวสั่นไม่กล้าทำอะไร เธอเม้มปากแน่นไม่กล้าขัดขืน ภวัตที่เห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงสาวถึงไม่ถอยออกมา ปล่อยให้ไอ้ผู้ชายบ้ากามคนนั้นลวนลามอยู่ได้
ชายหนุ่มทนไม่ไหว เห็นหญิงสาวยืนตัวสั่นไม่พูดอะไรเขาก็รู้สึกขัดใจเป็นอย่างมาก
“เฮ้ย!”
ภวัตดึงหญิงสาวมาหลบด้านหลัง มองผู้ชายตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะจึงลุกขึ้นมาตั้งท่าจะชกกับภวัต
“อย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ!”
หญิงสาวแทรกตัวเข้ามาดันทั้งสองออกจากกัน เธอไม่อยากเป็นต้นเหตุที่ทำให้แขกมีเรื่องชกต่อยกัน เพราะกลัวว่าตัวเองจะถูกไล่ออก
“คุณหลบไปก่อน เดี๋ยวผมจัดการมันเอง ไอ้ผู้ชายหน้าตัวเมียแบบนี้ต้องโดนสั่งสอน”
“มึงเก่งนักหรือวะ จะมาสั่งสอนกู ดูด้วยว่าพวกกูมากันกี่คน”
มากันกี่คนไม่สำคัญ แต่คนที่มีสติและมีเรี่ยวแรงมากที่สุดในตอนนี้ก็คงมีแค่คนเดียว ส่วนที่เหลือเมาจนคอพับไปเรียบร้อยเเล้ว
“เป็นผู้ชายลวนลามผู้หญิงแบบนี้มันไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยนะครับคุณ”
“แล้วมึงยุ่งอะไร กูเข้ามากูจ่ายเงิน กูจะลวนลามใครก็ได้”
พูดจบก็ทำท่าจะกระชากหญิงสาวเข้าไปใกล้ แต่เธอเบี่ยงหลบไม่อยากให้อีกฝ่ายแตะต้องตัวอีก เมื่อครู่เธอขยะแขยงจนแทบจะอาเจียน ถ้าไม่ได้ชายหนุ่มแปลกหน้ามาช่วยเอาไว้ ป่านนี้เธอคงจะอาเจียนใส่หน้าลูกค้าไปแล้ว
“คุณโตมายังไงครับ ถึงได้มีความคิดสกปรกมาก”
“มึงเป็นผู้ดีนักหรือวะ งั้นวันนี้กูขอต่อยผู้ดีหน่อยก็แล้วกัน”
ทั้งสองทำท่าจะมีเรื่องกันอีกครั้ง หญิงสาวจึงได้ยกมือไหว้ขอร้องให้คนที่มาช่วยเธอถอยไปก่อน
ภวัตไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงสาวตรงหน้าต้องยอมขนาดนี้ ทั้งๆที่ถูกลวนลามต่อหน้าผู้คนแต่เธอกลับไม่เอาเรื่อง
“คุณจะยอมให้มันลวนลามฟรีๆเหรอ”
“ถ้าแขกมีเรื่องกับเพราะฉัน ฉันจะถูกไล่ออกค่ะ อย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ ฉันไม่อยากตกงาน”
หญิงสาวทั้งขอร้องทั้งอ้อนวอน แต่ทางฝั่งคนที่ลวนลามเธอก็ยั่วยุภวัตไม่หยุด ภวัตเองก็ไม่ใช่คนยอมใครง่ายๆ สมัยอยู่อเมริกาเขาไม่ยอมให้ใครมารังแก ขนาดฝรั่งตัวใหญ่ๆเขายังต่อยมาแล้ว กับอีแค่ผู้ชายผอมแห้งแรงน้อยแบบนี้ทำไมเขาจะไม่กล้าแต่พอหญิงสาวขอร้องเขาก็ลังเล รู้สึกสงสารเธอขึ้นมาจึงได้ยั้งมือเอาไว้
“ทำไมไม่ต่อยวะ ไม่กล้าล่ะสิ ไอ้พวกเก่งแต่ปาก กระจอกโว้ย!”
ภวัตพยายามใจเย็นแล้ว แต่สุดท้ายความอดทนของเขาก็หมดลง ชายหนุ่มดันหญิงสาวให้หลบไป ก่อนที่เขาจะง้างหมัดกระแทกลงใบหน้า อีกฝ่ายเต็มแรงจนเซถลาล้มลงไปกองกับพื้น
ใบไหมร้องไห้ไม่ออก เธอปลดผ้ากันเปื้อนออกช้าๆรู้ชะตากรรมตัวเองทันที
“หมัดคนกระจอกแบบผม ทำให้คุณสร่างเมาบ้างไหมครับ”
ภวัตก้มลงไปถาม แต่อีกฝ่ายยังมึนงงอยู่จึงได้แต่แยกเขี้ยวลุกขึ้นมาตอบโต้ไม่ได้
“ถ้ากินเหล้าแล้วสร้างความเดือดร้อนให้สังคมแบบนี้ ก็อย่าออกจากบ้านเลยครับ ออกมาประจานตัวเองแบบนี้สงสารพ่อแม่นะครับ”
ภวัตอดไม่ได้ที่จะสั่งสอน การกระทำของลูกบางทีก็เป็นกระจกส่องสะท้อนการเลี้ยงดูของพ่อแม่เช่นเดียวกัน
