เมียบำเรอของคุณภวัต

26.0K · จบแล้ว
ปะหนัน
16
บท
165
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

คำว่าบุญคุณทำให้เธอต้องอยู่กับเขาเพื่อชดใช้ แต่สุดท้ายเธอดันตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น ความรักครั้งนี้คงจะไม่เจ็บปวดถ้าเขาไม่ได้มี ตัวจริงคอยอยู่ข้างกาย เมื่อคนของเขาอยู่ตรงนั้น นางบำเรออย่างเธอก็ทำได้แค่เพียงอยู่ในมุมมืดที่ไร้ตัวตน... */*/* “พอดีฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือเขาค่ะ” “ที่ผ่านมาเธอก็ได้รับความช่วยเหลือไปเยอะแล้ว ยังไม่พอใจอีกเหรอ” โสรยารู้ทุกความเคลื่อนไหวของทั้งสอง เขารู้ว่าหญิงสาวเคยทำงานที่ผับมาก่อนและได้รับความช่วยเหลือจากภวัต แล้วเธอยังรู้อีกว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกัน คงจะไปถึงไหนตอนไหนแล้วแต่เธอก็ไม่แคร์ ตราบใดที่เธอกับชายหนุ่มยังไม่ได้แต่งงานกันเขาจะหาเศษหาเลยบ้างเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่หลังจากแต่งงานเมื่อไหร่ถ้าเขาไปยุ่งวุ่นวายกับผู้หญิงคนอื่นล่ะก็ เธอจะทำให้เขาย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี! “คุณพูดอะไร” “ฉันเป็นว่าที่เจ้าสาวของเขา เธอคิดว่าเขาจะไม่เล่าเรื่องเธอให้ฉันฟังหรือไง เธอคงจะหลงเขามากสินะ ถึงได้หูหนวกตาบอดแบบนี้ คิดว่าเขาจะรักเธอจริงๆเหรอ ฝันไปเถอะ ผู้หญิงแบบเธอไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาสักอย่าง เธอควรจะสำเหนียกตัวเองเอาไว้บ้างว่าเธอเป็นแค่นางบำเรอ”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานแบดบอยพลิกชีวิตคู่นอนคืนเดียวโรแมนติกรักหวานๆดราม่า

ตอนที่ 1 หักหน้า

ตอนที่ 1

หักหน้า

ในสังคมไฮโซการจับคู่ให้กันถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกหลานของตัวเองไปคว้าคนไม่มีชาติตระกูลมาเป็นคู่ครอง ญาติผู้ใหญ่จึงจำเป็นต้องเฟ้นหาคนที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมมาครองคู่กับลูกหลานของตัวเอง

ครอบครัวของภวัตก็เป็นหนึ่งในนั้น ทุกคนล้วนแต่งงานกันเพราะความเหมาะสมตามที่ผู้ใหญ่มอง ชายหนุ่มเห็นว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาของตระกูล แม้จะจบจากเมืองนอกเมืองนา แต่เขาก็ไม่คิดจะปฏิเสธการดูตัว

ภวัตไม่มีคนรักและไม่คิดจะหา เพราะฉะนั้นถ้าพ่อแม่เห็นสมควรว่าเขาควรแต่งงานกับใคร เขาก็ไม่ได้ติดขัด ขอแค่พ่อและแม่สบายใจก็เพียงพอแล้ว ส่วนตัวเขาไม่เรื่องมาก ขอแค่ผู้หญิงคนนั้นไม่เข้ามาสร้างปัญหาในชีวิต เขาก็ยินดีที่จะแต่งโดยไม่มีข้อแม้

ชายหนุ่มเดินตามหลังแม่เข้ามาในร้านอาหารชื่อดัง ร้านอาหารที่นี่ต้องจองโต๊ะนานเป็นเดือน แต่สำหรับอภิสิทธิ์ชนอย่างครอบครัวของภวัต แค่โทรหาเจ้าของร้านพวกเขาก็สามารถจองโต๊ะได้ทันที

“สวัสดีค่ะคุณประทีป”

“สวัสดีครับคุณหญิง ต้องขอโทษด้วยนะครับที่นัดมาซะไกล”

ชายวัยกลางคนรูปร่างท้วมยืนขึ้น เอ่ยทักทายแขกคนสำคัญ ข้างกายเขามีหญิงสาวหน้าตาสะสวย ซึ่งทุกคนในที่นี้รู้จักเธอเป็นอย่างดี เพราะเธอคือ ดาราสาวชื่อดังที่มีผลงานการแสดงมากมาย เข้าวงการมาตั้งแต่เด็กๆเดินไปทางไหนใครๆก็รู้จัก

“สวัสดีจ๊ะหนูโสรยา สวยขึ้นนะ”

“ขอบคุณค่ะคุณป้า”

หญิงสาวยกมือไหว้อีกฝ่ายอย่างมีจริต เธอช้อนตามองชายหนุ่ม หวังว่าจะเห็นสายตาระยิบระยับของเขายามมองมา แต่นอกจากภวัตจะมองเมินแล้ว ยังไม่เอ่ยทักทายเธออีกด้วย หญิงสาวหน้าเสียเมื่อเห็นท่าทางเย่อหยิ่งของเขา เธอนั่งลงข้างผู้เป็นพ่อมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ

“ต้องขอโทษด้วยนะคะที่มาช้า วันนี้รถดันติดมากๆ ปกติเวลานี้จะไม่ติดขนาดนี้นะคะเนี่ย”

“ช่วงนี้ผมเองก็ลำบากครับ กว่าจะกลับถึงบ้านก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง สงสัยจะต้องเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า”

คนวัยเดียวกันสนทนากันอย่างถูกคอ โดยไม่ได้สังเกตสีหน้าของคนที่นั่งอยู่ข้างกาย โสรยาหน้าหงิกงอเพราะไม่พอใจที่ภวัตไม่แสดงท่าทีสนใจเธออย่างที่คาดหวังเอาไว้

ในขณะที่ภวัตมีสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกับความสวยของหญิงสาวตัวหน้า แม้ว่าเธอจะเป็นถึงนักแสดงดัง แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นเต้นที่ได้เจอหน้าเธอ

ชีวิตของเขาพบเจอนักแสดงฮอลลีวูดังมามากมาย สมัยที่เรียนอยู่อเมริกา เขามีเพื่อนร่วมชั้นเป็นดาราระดับโลก เพราะฉะนั้นการที่เขาได้เจอดาราในบ้านเกิดตัวเองจึงไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น

“จะว่าไปไม่ได้เจอลูกชายคุณหญิงนานแล้วนะครับ”

“พอดีว่าเขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศค่ะ ส่งไปเรียนที่นู่นตั้งแต่มัธยมปลาย อยู่เมืองไทยแล้วเกเรก็เลยส่งไปอยู่เมืองนอก โชคดีนะคะเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น”

ชายหนุ่มปรายตามองแม่เล็กน้อยก่อนก้มหน้าสนใจโทรศัพท์มือถือในมือต่อ

“เก็บโทรศัพท์ก่อน มันเสียมารยาทนะลูก”

คนเป็นแม่กระซิบลูกชาย ภวัตเองก็นึกขึ้นได้เขาจึงเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า เงยหน้าขึ้นและเอ่ย ขอโทษชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม

“ขอโทษนะครับคุณลุง พอดีผมกำลังคุยเรื่องงาน”

“ไม่เป็นไรไม่ต้องซีเรียส ลุงสบายๆอยู่แล้ว”

ประทีปไม่ได้คิดอะไรเพราะเข้าใจเด็กวัยนี้ อีกอย่างชายหนุ่มก็เรียนจบมาจากเมืองนอก ความคิดความอ่านอาจจะแตกต่างจากคนที่นี่ไปบ้าง เขาไม่ถือสา

“ไม่ซีเรียสไม่ได้หรอกค่ะ ยังต้องขัดเกลาอีกเยอะ มีนิสัยหลายอย่างเลยที่ดิฉันไม่ค่อยชอบ”

ความจริงแล้วเธอไม่ได้เห็นด้วยกับการที่ ลูกชายเดินทางไปเรียนที่อเมริกา แต่เป็น ความต้องการของสามีเธอจึงไม่กล้าขัด

“เขาก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะครับคุณหญิง ปล่อยให้เขาได้ใช้ชีวิตเถอะ”

ประทีปเข้าอกเข้าใจ เขาเองก็เป็นนักเรียนนอก ช่วงที่กลับมาไทยแรกๆญาติพี่น้องก็ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ เพราะเขามีแนวคิดบางอย่างสุดโต่ง ทำให้เขาเหมือนเป็นแกะดำท่ามกลางทุกคนในครอบครัว

“ไหนๆเราก็มาเจอกันแล้ว เรามาพูดเรื่องของเด็กๆกันดีกว่า”

ประทีปไม่อยากให้บรรยากาศอึดอัดเขาจึงเปลี่ยนเรื่อง ที่ทุกคนมาพบกันในวันนี้ก็ต้องการให้ ลูกของทั้งสองได้เจอหน้าและทำความรู้จักกัน แต่เท่าที่ดู เหมือนว่าทั้งคู่จะไม่ค่อยปลื้มกันสักเท่าไหร่

“เรื่องแต่งงานสินะคะ ความจริงทางเราพร้อมเสมอ ดิฉันคุยกับลูกชายแล้ว เขาไม่ได้ติดขัดอะไรค่ะ”

ไม่ได้ติดขัดแต่ก็ไม่เต็มใจ โสรยาดูออก เธอยอมรับว่าชายหนุ่มหล่อมากและตรงสเปค เป็นผู้ชายแบบที่เธอใฝ่ฝัน แต่การกระทำของเขาทำให้เธอไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่ เจอกันครั้งแรกควรจะประทับใจมากกว่านี้แต่เขาทำให้เธอรู้สึกแย่และเสียความมั่นใจ

“ทางผมก็พร้อมเหมือนกันครับ”

“แต่หนูไม่พร้อมนะคะพ่อ”

หญิงสาวโพล่งขึ้นมา ความจริงเธอก็อยากแต่งงานกับเขา เพราะครอบครัวภวัตร่ำรวยและเธอก็ชอบเขาตั้งแต่แรกเห็น แต่ที่พูดไปแบบนั้นเธอแค่ต้องการหักหน้าชายหนุ่ม

“เอ่อ หนูโส ไม่พอใจอะไรพวกเราหรือเปล่าคะ”

หญิงวัยกลางคนเอ่ยถาม เธอไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆโสรยาถึงได้ปฏิเสธการแต่งงาน

“ไม่มีอะไรค่ะ โสแค่ยังไม่พร้อม โสขอตัวก่อนนะคะคุณป้า”

หญิงสาวลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มมองอยู่เธอจึงจ้องเขากลับด้วยสายตาท้าทาย โสรยาเดินออกมาถึงหน้าร้าน แต่ภวัตตามมาดักหน้าไว้

“ทำไมคุณถึงปฏิเสธ”

ชายหนุ่มเอ่ยถาม เขายอมรับว่ารู้สึกเสียหน้ามาก จึงได้ตามมาเค้นเอาคำตอบ

“ฉันไม่ชอบคนไม่มีมารยาท คุณเจอหน้าฉันครั้งแรกคุณก็ไม่ทักทาย แล้วแบบนี้จะให้ฉันตกลงแต่งงานกับคุณหรือคะ ฉันเกลียดผู้ชายประเภทนี้ที่สุด ทำตัวหยิ่งยโส คงคิดว่าตัวเองสูงส่งมากสินะคะ”

ชายหนุ่มที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดไม่ออก เขาไม่คิดเลยว่าจะมีคนกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าเขา

“ความจริงฉันกับคุณ เราก็สถานะเดียวกันนั่นแหละค่ะ ครอบครัวของฉันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าครอบครัวของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวเหมือนกับว่าคุณสูงส่งหรอกค่ะ เพราะยังไงเราสองคนก็ไม่มีใครด้อยไปกว่าใคร”

โสรยาไม่สนใจ ปกติเธอก็เป็นคนแรงๆแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าใครหน้าไหนถ้าทำให้เธอไม่พอใจ เธอก็พร้อมที่จะฟาดเสมอ ทุกคนในวงการต่างก็รู้กิตติศัพท์ของเธอดี เพราะฉะนั้นเธอไม่จำเป็นต้องไว้หน้าใคร ต่อให้คนๆนั้นจะสูงส่งมาจากไหนเธอก็ไม่กลัว

หญิงสาวกระตุกยิ้มเบาๆ ก่อนเดินกลับไปที่รถ เห็นสีหน้าของชายหนุ่มแล้วเธอก็รู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก