Chapter 3
ผู้หญิงในรถยุโรป 2
“ฉันมาเพื่อขายไร่” หญิงสาวบอกความตั้งใจอย่างไม่ปิดบัง เชิดหน้าไว้ตัว ด้วยคิดว่าฐานะตัวเองเหนือกว่า
“ส่วนคนงานใครสมัครใจอยู่ต่อ ต้องคุยกับเจ้าของใหม่ ไม่อย่างนั้นฉันจะชดเชยให้ตามกฎหมายแรงงาน ที่ไร่มีฝ่ายบุคคลใช่ไหม ให้เขาทำประวัติมา จะได้ให้บัญชีจัดการให้”
เปลวเหลือบตามองเมียนายแวบหนึ่ง ผู้หญิงที่มีตัวตนรางเลือนเพียงในเรื่องเล่า นพจักรเคยบอกว่าแต่งงานแล้ว แต่ไม่มีแม้สักครั้งที่เธอจะย่างกรายมาไร่ แม้รูปภาพสักใบก็ไม่มี
หลังเจ้านายตาย นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงเธอและรู้จักชื่อเสียงเรียงนาม
ตัวจริงก็เป็นอย่างที่คิด ผู้หญิงสวย สวมเชิ้ตผ้าเนื้อดีราคาแพงกับยีนเข้ารูป อวดหุ่นกลมกลึง กิริยากรีดกราย ผมทำสีน้ำตาลอ่อนม้วนปลายเซตมาอย่างดี แต่งหน้ากรีดตาเต็มที่ ริมฝีปากอิ่มเคลือบลิปสติกชมพูฉ่ำ เนื้อตัวกรุ่นด้วยกลิ่นน้ำหอม ไม่มีทีท่าเศร้าหรือทุกข์เลยหลังสามีตายได้ไม่นาน
เขาไม่ชอบผู้หญิงประเภทนี้ เพราะเธอคงจัดอยู่ในกลุ่มสวยแต่รูปจูบไม่หอม
“ครับ นั่นก็แล้วแต่คุณ”
เปลวเดาสถานการณ์ออกอยู่แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่อย่างน้อยก็ต้องการให้เธอมาพูดกับคนในไร่เองจะดีกว่า
เมลานีเม้มปากเคลือบลิปสติกสีชมพูพลางกอดอก ไม่ปิดบังอาการไม่พอใจคนแปลกหน้าช่างบังคับ
เขาเลี้ยวรถขวับกลางถนนโล่ง แรงเหวี่ยงทำเอาเจ้าของรถซึ่งไม่ทันคาดเข็มขัดนิรภัย ไถลตัวไปทางเขา ด้วยความตกใจชายหนุ่มเปลี่ยนมือซ้ายจับพวงมาลัย ส่วนขวาโอบคว้ารอบไหล่เธอไว้
“อุ๊บ!” จมูกโด่งชนเข้ากับอกอุ่นแข็งอย่างจัง
“ขับรถประสาอะไร ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะขับเอง” เมลานีแหว หน้าซับสีเลือด ยกสองมือดันตัวออกห่าง เปลวหยุดรถ
“ผมนึกว่าคุณขิงคาดเข็มขัดแล้ว”
ไม่มีคำขอโทษ แถมยังเหมือนตำหนิอีกต่างหาก
“ทางเข้าไร่ตอนนี้แย่ เป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะรถบรรทุกเราเพิ่งเกิดอุบัติเหตุ”
เปลวเล่าผ่าน ๆ ท่ามกลางอาการใจเต้นระรัว เธอเพิ่งผ่านประสบการณ์เฉียดอุบัติเหตุเลยนะนั่น แถมยังตกอยู่ในวงแขนผู้ชายที่เพิ่งพบหน้า แม้มีสามีแล้วเมลานีก็ไม่ใช่ผู้หญิงกร้านโลก ที่ไม่ถือสากับการสัมผัสกันของเพศตรงข้าม
“ถ้าทางไม่ดีทำไมไม่ซ่อมล่ะ”
เธอซ่อนดวงตากลมไว้ใต้ปอยน้ำตาลผม ซึ่งตกระแก้ม ยามเอี้ยวตัวควานหาเข็มขัดนิรภัยมาคาด
“ค่าซ่อมต้องใช้เงินก้อนใหญ่ คุณนพกำลังจะอนุมัติ แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว”
เขารอจนเธอจัดการเครื่องป้องกันตัวเองเสร็จ จึงค่อยออกรถใหม่
เมลานีคิดในใจว่าเยอะขนาดไหนกันเชียว เธอไม่ต้องการเสียเงินไปมากกว่านี้อีกแล้ว นอกจากเงินจ่ายคนงาน ไม่เช่นนั้นเวลาขายไร่จะยิ่งเข้าเนื้อ
เปลวขับรถย้อนกลับไปทางเธอผ่านมา แล้วเลี้ยวเข้าถนนซีเมนต์สองเลน ก่อนต่อด้วยลูกรังทอดยาว เสียงกรวดดินดีดกระทบใต้ท้องรถดังคึ่ก ๆ
“คุณนพเอาเงินไปทำอะไร ลาดยางถนนรึก็ไม่หมด”
เมลานีบ่นอุบ ด้วยแม้อยู่ในรถยุโรปช่วงล่างนิ่มดี แต่ยังมิวายรับรู้ความกระเด้งกระดอนของพื้นถนน
“นี่ถนนอบต.ครับ เป็นของหลวง ถ้าอยากให้ลาดยางต้องจ่ายค่าน้ำร้อนน้ำชา คุณนพไม่ส่งเสริมการทุจริต เลยปล่อยไว้อย่างนี้”
เปลวยกมุมปากยิ้มนิด ๆ ชื่นชมเมื่อคิดถึงนิสัยส่วนดีของเจ้านาย
“มิน่ารถบรรทุกถึงได้เกิดอุบัติเหตุ”
ปากเคลือบลิปสติกบ่นอุบ ขณะมือสองข้างจับเข็มขัดนิรภัยแน่น กลัวเหตุการณ์เดิมซ้ำรอย
“นายก็ขับดี ๆ ล่ะ”
ตบท้ายด้วยคำสั่ง เขาไม่ตอบ ตามองมุ่งไปยังถนน กระทั่งถึงหลุมบ่อดังที่เล่า รถกระบะดำล่วงหน้าไปจอดรอไม่ไกลนัก เปลวพยายามบังคับหลบเลี่ยง ทว่ายังเจอล้อรถตกหลุม ทำเอาเธอเด้งจากเบาะตกลงก้นจ้ำเบ้า
“อีกนิดเดียวก็ผ่านได้แล้วครับ” เปลวปลอบสาวชาวเมือง หลังเห็นเธอหน้าเหยเก
“ว้าย! นายเปลวระวัง”
หลุมอีกอันอยู่ข้างหน้า ใกล้เสียจนกลัวว่าล้อจะไปติดหล่ม ตาเธอหลับปี๋ด้วยหวาดเสียว มือจับแขนคนขับอย่างลืมตัว ใบหน้ากลายเป็นซบแขนแนบแน่น
หูได้ยินเสียงเครื่องยนต์ตัวเองครางครืดคราด ก่อนแผ่วลงเป็นปรกติในที่สุด
เปลวถอนหายใจยาว เพราะเป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ได้ขับรถหรูลุยถนนวิบากแบบนี้ หากเป็นกระบะคันเก่งจะไปได้เร็วกว่า
เขาเอี้ยวหน้ามายังเพื่อนร่วมทาง ขณะทอดตาลงมอง จมูกก็ชิดเรือนผมนิ่ม กลิ่นรวยรินกรุ่นกำจายเหมือนดอกไม้ฉ่ำหลังฝนตก มืออุ่นละมุนจับแขนเขาไว้ไม่ยอมปล่อย
“คุณขิง จะถึงไร่แล้วนะครับ”
เปลวเตือนทั้งเธอและตัวเอง เมลานีกำลังกลัว จึงทำอะไรแบบไม่คิด เขาก็ไม่ควรจะคิดด้วย แต่ชายหญิงแตะเนื้อต้องตัวโดนกันนิดหน่อย อย่าหวั่นไหววูบวาบไปเลย เธอค่อยลืมตา ปล่อยมือผละจากเขาดังทิ้งของร้อน
“ขอบใจที่พามา”
เมลานีกระแทกเสียง ขยับมานั่งตัวตรง แกล้งจัดทรงผมให้ดูดี ปกปิดความอับอายต่อหน้าเขาเป็นครั้งที่สอง เปลวเพียงผงกศีรษะ แล้วรถยุโรปคันงามก็แล่นเข้าสู่ซุ้มประตูไม้ซุงสลักชื่อไร่ดาราจักร สมใจการรอคอยของใครหลาย ๆ คน
