ตอนที่ 9 รสรักที่ตรึงใจ ep3
“ทานอะไรดีครับ..”
เขาช้อนสายตามองหน้าเธอหลังจากหยิบเมนูอาหารขึ้นมาเปิด
“ฉันว่าจะรอพี่ไชยพศก่อน..”
“สั่งมาเถอะครับ เขามาถึงจะได้ทานได้เลย..”
เขาวางเมนูลงตรงหน้าของเธอที่ช้อนสายตามองหน้าเขาที่ยิ้มให้
“มีอะไรติดอยู่ที่หน้าของผมหรือครับ..”
เมื่อเห็นเธอมองเขาอยู่นานจึงเอ่ยถามขึ้นทำให้เธอรีบเมินหน้าไปอีกทางก่อนจะหยิบเมนูขึ้นมาเปิดดู
“ขออาหารไทยนะคะ..”
เธอบอกกับพนักงานที่รอจดรายการพลางมองหน้าเขาที่ยกแก้วน้ำขึ้นจิบ
“แกงเหลืองมะม่วงดิบกับปลาแซลมอน แกงเลียงกุ้งสด ยำเห็ดห้าสหายนะคะ..”
เธอมองหน้าเขา
“ทานอะไรคะ..”
“ คุณสั่งเถอะครับ..”
เขาบอกทำให้เธอเลือกเมนูอาหารมาเพิ่มอีกสองอย่างพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ
“ทำไมยังไม่มาอีกนะ..”
เธอมองไปรอบตัวเมื่อพนักงานยกอาหารมาเสิร์ฟ พี่ชายกับพี่สะใภ้ของเธอก็ยังไม่มา จึงเปิดกระเป๋าหมายจะหาโทรศัพท์มือถือ แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อมันติดอยู่ในรถของเธอที่ไชยพศขับไป แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำอะไรต่อ เสียงโทรศัพท์ ของปราชญ์ก็ดังขึ้น
“ได้สิ ได้ ตามสบาย..”
เขากรอกเสียงลงไปตามสายแล้วมองหน้าเธอเมื่อวางสาย
“นายพศเขาโทรมาบอกผมว่า คุณสา มีเพื่อนมาด้วยจึงไม่สะดวกที่จะมาที่นี่ให้เราทานกันสองคน..”
“ทำไมพี่ไชยพศไม่โทรหาฉันเองล่ะคะ..”
“โทรศัพท์ของคุณอยู่ที่เขา..”
เขามองหน้าเธออย่างสำรวจ
“อึดอัดที่ต้องอยู่กับผมหรือครับ..”
เธอมองสบตาเขา
“ขอโทษที่ทำให้รู้สึกเช่นนั้น แต่ไม่ใช่อึดอัดหรอกค่ะ..”
เธอละสายตาจากหน้าเข้มของเขามองดูอาหารบนโต๊ะที่เขาค่อย ๆ ตักอาหารใส่จานให้เธอ
“ทานเถอะครับ เดี๋ยวนี้ ต้องทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ ครับ เพื่อสุขภาพ..”
เขายิ้มให้เธอก่อนจะตักอาหารใส่ปากแล้วไม่พูดอะไรอีก มีแต่เธอเท่านั้นที่มักจะแอบชำเลืองสายตามองดูเขา
“ไปไหนต่อครับ..”
เมื่อทานอาหารเสร็จเขาก็เป็นคนจ่ายเงินแล้วเดินนำมาที่รถ
“ฉันไปแท็กซี่ก็ได้ค่ะ..”
“อย่าลำบากเลยครับ เว้นเสียแต่คุณไม่พอใจผม ไม่อยากอยู่กับผมตามลำพัง..”
“ฉันเกรงใจค่ะ..”
เขาเปิดประตูรถให้เธอ ที่ยอมก้าวเข้าไปนั่ง
“ไปไหนครับ..”
“ไปสถานีโทรทัศน์ค่ะ..”
“พอดีเลยครับผมมีธุระจะต้องไปพบคุณอลิศรา พี่สาวของคุณด้วย..”
เขาเลี้ยวรถออกไปจากหน้าร้านมุ่งหน้ากลับไปยังสถานีโทรทัศน์ของเธอ
“พี่อุ๊อยู่ฝ่ายเกมส์โชว์นี่คะ ไม่เกี่ยวกับฝ่ายละครสักหน่อย..”
เขาหันมามองใบหน้าด้านข้างของเธอพลางยิ้มน้อย ๆ
“เธอเป็นเพื่อนน้องชายของผมครับ เรียกว่าเคยเป็นแฟนกันก็ได้ แต่ไม่ได้แต่งงานกันเพราะเจ้าน้องชายของผมมันมัวแต่ทำฟาร์มอยู่กับวัวจนไม่สนใจสาว ทำให้พี่สาวของคุณต้องแต่งงานกับไปกับคุณชูพันธุ์ลูกชายเจ้าของนิตยสารดาราเสียก่อน..”
เธอยิ้มเย็นเมื่อหันไปมองหน้าด้านข้างของเขา
“ฉันไม่ได้อยากทราบประวัติสักหน่อย แค่บอกว่าพี่อุ๊อยู่ฝ่ายเกมส์ก็เท่านั้น..”
“ผมอยากอธิบายนี่ครับ แล้วก็อยากบอกต่อด้วยว่าหากคุณอุ๊ไม่รีบแต่งงานไปก่อน มีหวังผมกับน้องชายต้องเปิดศึกชิงนางแน่ ๆ..”
เขาขยิบตาให้เธอเมื่อหันมามองก่อนจะเร่งความเร็วขึ้นไปอีกนิด
“ขอบคุณนะคะ..”
เมื่อก้าวลงจากรถปิดประตูเธอก็เตรียมจะขอบคุณเขาแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ใส่ใจเมื่อก้าวลงจากรถก็เดินลิ่ว ๆ เข้าไปด้านในของตึกสูงละฟ้าในบริเวณสถานีโทรทัศน์ ทำให้เธอต้องยืนมองตามร่างของเขาไปเงียบ ๆ
“บ้าจริง ไร้มารยาท..”
ตรีอภิรมย์รู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่เคยเป็นเมื่อเห็นกิริยาของเขา บางครั้งก็ดูเหมือนเขาจะสนใจเธอ แต่บางครั้งก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเลย
“บ้าที่สุดเลย เธอเป็นอะไรของเธอตรีอภิรมย์..”
ตรีอภิรมย์เอนศีรษะพิงพนักเก้าอี้นวมตัวใหญ่ในห้องทำงานหลังจากเดินขึ้นมาถึงห้องทำงาน แต่กลับไม่สามารถทำงานได้เมื่อในใจนึกถึงแต่ปราชญ์ ผู้ชายที่ดูยากแต่มีเสน่ห์คนนั้น
“รู้สึกเหมือนมองดวงจันทร์บนผิวน้ำเลย..บ้าชะมัด..”
เธอเป่าลมออกจากปาก
“มองเห็นได้ง่าย เข้าใจถึงความงดงามแต่ยากจะไขว่คว้า แล้วคาดเดาได้ยากว่าจะมีลักษณะอย่างไร ยิ่งยื่นมือคว้าก็เหมือนสัมผัสกับความว่างเปล่า..ผู้ชายอะไรประหลาดจริง..”
เธอยื่นมือเตรียมเปิดงานจากแฟ้มตรงหน้าแต่เสียงเคาะประตูก็ดังขัดจังหวะเสียก่อน
“คุณตรีขา..ผ.อ.ฝ่ายเกมส์โชว์เชิญพบค่ะ..”
“พี่อุ๊น่ะหรือ?..”
“ค่ะ เดี๋ยวนี้เลยนะคะ..”
“ทราบแล้วค่ะ..”
ตรีอภิรมย์เดินออกจากห้องตรงไปยังห้องทำงานของอลิศรา พี่สาวของเธอซึ่งอยู่ถัดมาอีกสองชั้น
“มาแล้วหรือจ๊ะ..”
ทันทีที่เห็นหน้าน้องสาว อลิศรา หญิงสาววัยยี่สิบแปด ความสูงไล่เลี่ยกับเธอแต่ท้วมกว่าเล็กน้อย
“รู้จักกันแล้วใช่ไหมจ๊ะ ..”
เจ้าหล่อนเอ่ยถามเมื่อเธอหันไปเห็นปราชญ์ที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างห้องแล้วเขาหันมาค้อมศีรษะให้เธอเล็กน้อย
“ค่ะ มีอะไรหรือคะ..”
“ก่อนที่พี่จะมาอยู่ฝ่ายเกมส์โชว์ก็เคยดูแลงานด้านละครมาก่อน พี่จึงอยากให้ตรีทำความรู้จักกับคุณปราชญ์เอาไว้ เพราะเขาเป็นผู้กำกับที่มีฝีมือมาก งานของสถานีนอกจากด้านละครแล้ว แม้แต่ในเกมส์โชว์บางครั้งก็ยังต้องอาศัยเขามาช่วยกำกับเวที แสงสีด้วยเหมือนกัน..”
เธอมองหน้าเขานิ่ง
“ตรีได้พบเขาสอง สามครั้งแล้วล่ะค่ะ เมื่อครู่ก็เพิ่งไปทานอาหารเที่ยงมา เพราะพี่ไชยพศ ให้ตรีไปรอเก้อเพราะมัวแต่เทคแคร์เพื่อนของพี่ชาลิสา..”
อลิศรายิ้มหวานเมื่อมองหน้าของน้องสาว
“งอนหรือจ๊ะ..พี่ชาลิสาไปดูงานที่ต่างประเทศเป็นเดือนนี่จ๊ะ..”
เธอหันไปมองหน้าปราชญ์ที่เดินเข้ามาใกล้
“รู้สึกว่าผู้กำกับคนนี้จะมีส่วนสำคัญในสถานีของเราไปเกือบทุกเรื่องเลยนะคะ..”
เธอแขวะเขาบ้าง
“พี่จะให้ตรีไปดูเวลาที่คุณปราชญ์ทำงานนะจ๊ะ ทำการบ้านไปให้ดี บางครั้งก่อนการถ่ายทำควรมีประชุมกันว่าบทละครที่นำเสนอมาแล้วอนุมัติให้ถ่ายทำ ควรมีประเด็นไหนที่ต้องเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจหรือสถานการณ์ปัจจุบันบ้าง..”
“ค่ะ..”
“แต่ดูเหมือนว่าละครเรื่องนี้ของคุณกอบชัย ตรีจะไม่ได้เข้าประชุมร่วมกับผู้จัดเลยใช่ไหม..”
“ค่ะ ตรียุ่งด้านอื่นอยู่จนลืมค่ะ..”
“ดังนั้นพี่จึงอยากให้ตรีพูดคุยกับคุณปราชญ์ถึงผลการประชุมนะจ๊ะ เพราะมีบางอย่างแก้ไขและเปลี่ยนแปลงไปแล้วนอกเหนือจากที่แจ้งมาในทีแรก..ส่วนเรื่องอะไรนั้นถามคุณปราชญ์ดูนะจ๊ะ..”
