ตอนที่ 8 รสรักที่ตรึงใจ ep2
“พร้อมไหม..”
น้ำเสียงทุ้มดังกังวานขึ้นเมื่อเข้าประจำที่ในกองถ่ายละคร หลังจากกวาดสายตามองสำรวจทุกอย่างในบริเวณที่เตรียมถ่ายทำในฉากที่หนึ่ง
“ กล้องพร้อม นักแสดงพร้อม เริ่ม..”
เมื่อเขาสั่งเสร็จสายตาก็จับอยู่ที่นักแสดงที่อยู่ในฉาก แต่ทว่าความสนใจของเขาเหมือนถูกปัดให้ถอยห่าง เมื่อมองเห็นเงาของใครบางคนถือถ้วยกาแฟจิบอย่างใจเย็นเดินเข้าไปอิงสะโพกกับโต๊ะตัวหนึ่งแล้วทอดสายตามองดูการแสดงของนักแสดงในฉาก ทำให้เขาเผลอจ้องมองเธอนิ่งอยู่นาน
มองแม้กระทั่งถ้วยกาแฟที่จรดริมฝีปากบาง เขาอดนึกอิจฉาถ้วยกาแฟนั้นเสียไม่ได้ เพราะมันสามารถสัมผัสกับความอ่อนนุ่มของกลีบปากของเธออย่างไม่มีใครว่าอะไร
สายตาคมสำรวจร่างบางอรชรภายใต้เสื้อยืดคลุมทับด้วยเสื้อไหมพรมถักแบบเก๋ไก๋กับกางเกงผ้าเนื้อดี เรือนผมดัดยาวกระจายละอยู่ตามใบหน้าและแผ่นหลัง ดวงหน้าเรียวงามกระจ่างตา โดยเฉพาะพวงแก้มขาวที่สุกปลั่งแดงระเรื่ออย่างน่ามอง
เขาเผลอมองจ้องอยู่นานจนลืมที่จะสั่งนักแสดงและกล้อง จนทำให้ให้กิตติภพผู้ช่วยของเขายื่นมือมาเขย่าบ่ากว้างของเขาอย่างแรง ปลุกให้เขาตื่นจากภวังค์ที่กำลังดิ่งลึก
“อะไรเข้าสิงนายวะปราชญ์ ตั้งใจหน่อยสิ..”
เขาหลับตานิ่งเมื่อเงยหน้าขึ้นก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้งพร้อมกับยกสองมือกางออก
“ขอโทษนะครับ ผมผิดเอง..”
ตรีอภิรมย์หันไปมองหน้าเขาที่หันมาพร้อมกับยิ้มให้เธอ ก่อนจะหันกลับไปสนใจกับงานของเขาท่ามกลางสายตาของเธอ ที่บอกใคร ๆ ว่าอยากเห็นการถ่ายละคร แต่ความจริงแล้วมีบ่อยครั้งที่เธอก็เผลอจ้องมองปราชญ์เช่นกัน
เธอบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมถึงชอบแอบมองผู้ชายคนนี้นัก ทั้งที่เธอเองก็พบเห็นผู้ชายหน้าตาดี บุคลิกดีมามาก แต่ทำไมไม่สะดุดใจเหมือนผู้ชายคนนี้
“คุณตรีได้อ่านบทละครเรื่องนี้แล้วใช่ไหมครับ..”
เมื่อถ่ายทำเสร็จเขาก็เดินมาหาเธอ
“ฉันมารับหน้าที่แทนพี่ไชยพศแล้วนี่คะ งานที่พี่ไชยพศค้างไว้ฉันก็ควรจะสานต่อให้เรียบร้อย..”
เธอหันมามองใบหน้าด้านข้างของเขา
“ไม่อยากให้ใครมาสบประมาทว่าเป็นเด็กฝึกงานที่ไม่ได้เรื่อง..”
เขาค่อย ๆ หันหน้าไปมองหน้าเธอพลางอมยิ้มน้อย ๆ
“เป็นไงบ้างครับ..”
“แค่ฉากแรกเองนี่คะ..”
เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก
“ละครฉากแรก แต่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งเรื่องก็มีนะครับ..”
“ถ้าอย่างนั้น ผู้ชมคงรอดูแค่ฉากแรกแล้วตอนเอวสานก็พอมังคะ..”
เธอพูดพร้อมกับหันหลังให้เขาเตรียมเดินจากไป แต่เหมือนนึกอะไรได้จึงหันกลับมาหาเขา
“แต่ดูเหมือน ผู้กำกับจะเหม่อลอยไปหน่อยนะคะ สนใจงานด้วยค่ะ ฉันอยากให้งานออกมาดีที่สุด..”
เขามองหน้าเธอพลางยิ้มน้อย ๆ
“อาจจะเป็นเพราะหัวใจของผมมันลอยหายไปในค่ำคืนนั้นที่ได้เจอใครบางคน แล้วจู่ ๆ ก็มีโอกาสเห็นมันกลับมาอีกครั้งพร้อมใครคนนั้น ก็เลยเหม่อลอยไปเล็กน้อย แต่คงไม่ทำให้เสียงานหรอกครับ..”
เขายกข้อมือมองนาฬิกาที่ข้อมือ
“ทานข้าวเที่ยงกันไหมครับ..”
“ฉันมีนัดแล้วค่ะ..”
เธอเอียงคอพลางยิ้มใส่ตาเขา
“เมื่อมองเห็นหัวใจของตนเองกลับมาพร้อมใครคนนั้น ก็ขอให้มีความสุขกับใครคนนั้นนะคะ..”
เธอพูดจบก็หันหลัง
“จะมีความสุขกับใครคนนั้นได้ไงครับ ในเมื่อหัวใจของผมกำลังจะลอยหายไปอีกแล้ว..”
“ตามกลับมาสิคะ..”
เขาก้าวมาหยุดตรงหน้าของเธอ
“ทานมื้อเที่ยงกับผมสิครับ หากอยากให้หัวใจของผมคงที่..”
“เจ้าของหัวใจของคุณคงไม่พอใจนัก..”
“ไม่มีครับ หัวใจของผมเป็นอิสระ..”
“แต่ฉันมีนัดแล้ว ขอตัวนะคะ..”
เธอพูดจบก็เตรียมจะเดินจากไป
“ตรี..”
เสียงเรียกนั้นทำให้เธอหันกลับไป
“พี่ไชยพศ..”
“อ้าว..นายเองหรือ ฉันนึกว่านายแบบที่ไหนมายืนจีบน้องสาวของฉัน..”
เมื่อไชยพศชายหนุ่มวัยเดียวกับปราชญ์เดินเข้ามาใกล้ เธอก็ต้องแปลกใจเมื่อพี่ชายของเธอดูสนิทสนมและคุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างมาก
“รู้จักกันแล้วสินะ..”
“ค่ะ..ตรีกำลังจะไปที่ร้านอาหาร..”
“ล่วงหน้าไปก่อนเลยนะจ๊ะ พี่จะไปรับคุณสาที่สนามบินแล้วจะตามไปสมทบ..”
ไชยพศหันไปหาปราชญ์
“คุณสาเพิ่งกลับมาถึงสนามบิน แล้วรถฉันก็ดันเสีย ไม่รู้มาเกเรอะไรตอนนี้ ..”
ไชยพศหันมาหาเธอ
“พี่ขอยืมรถตรีก่อนนะจ๊ะแล้วจะตามไป..”
ตรีอภิรมย์ส่งลูกกุญแจให้พี่ชาย
“นายว่างไหม..”
ปราชญ์พยักหน้า
“ไปทานมื้อเที่ยงกันนะ ไปกับตรีอภิรมย์ รอฉันที่นั่น..”
ไชยพศพูดจบก็หมุนร่างก้าวจากไป
“พี่คะ..”
เธอมีโอกาสร้องเรียกพี่ชายได้เพียงเท่านั้นเมื่อดูเหมือนว่าไชยพศจะรีบจริง ๆ
“เชิญครับ..”
ปราชญ์ผายมือออกไปด้านข้างก่อนจะก้าวนำเธอไปยังรถของเขา
“ช่วยบอกสถานที่ให้ผมทราบด้วยครับ..”
เขาบอกเมื่อเธอเปิดประตูก้าวขึ้นรถนั่งคู่เขาในเบาะหน้า
