ตอนที่ 7 รสรักที่ตรึงใจ ep1

ทันทีที่ประตูห้องพักในคอนโดส่วนตัวของมัณฑิตาปิดลง ริมฝีปากได้รูปก็ฉกทาบลงมาหากลีบปากของหล่อนแล้วบดขยี้อย่างหนัก พร้อมกับสองฝ่ามือใหญ่ที่ปลดเปลื้องอาภรณ์ของหล่อนออกอย่างรวดเร็ว เฉกเช่นเดียวกัน สองฝ่ามือบางก็ปลดเปลื้องเสื้อผ้าเนื้อดีออกจากร่างกำยำของเขา

ร่างเปลือยสองร่างกำลังลูบไล้บีบเคล้นกันอย่างบ้าคลั่ง ทั้งสองแลกจูบกันอย่างด่ำดื่มเหมือนคู่ปรับมวยที่ฝีมือและชั้นเชิงสูสีทั้งศอกหมัดเข่า และการออกอาวุธ ดูเหมือนทั้งคู่จะรู้ดีว่าคู่ต่อสู้ของตนจะออกอาวุธมาทางใดก็พร้อมจะรับได้ทันท่วงที

ร่างบางของมัณฑิตาผล็อยล่วงลงสู่พื้นที่นอนนุ่มที่กว้างใหญ่ภายใต้สปริงที่เป็นส่วนประกอบหลักของเตียงนี้ เมื่อมีแรงกระทบมันก็พร้อมจะกระเด้งขึ้นตอบโต้อย่างรวดเร็ว

ฝ่ามือบางลูบไล้สำรวจคลำไปตามผิวกายหนุ่มที่นุ่มและแน่นเครียดไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ เรือนร่างได้รูปสมสัดส่วนปราศจากไขมันส่วนเกินของเขาทำให้หล่อนคลั่งไคล้และไหลหลงเขามากกว่าชายคนไหน เพราะพลังขับเคลื่อนทางเพศที่เขาไม่เหมือนใคร

เขารู้จังหวะตอบรับผ่อนส่งให้หล่อนเพ้อหา แม้ขณะนี้เขาเป็นฝ่ายรุกไล่ที่ทำให้หล่อนแทบขาดใจกับลีลาและรอยจูบที่หนักหน่วงหน่วงผสมผสานกับความเรียกร้องเชิงเว้าวอนและชวนเชิญอยู่ในทีทำให้หล่อนผลักไสความเหนียมอายให้กระเด็นกระดอนออกไปอย่างไม่ใยดีแล้วทะยานเข้าหาเขาตามอาการเชิญชวนแล้วสอดรับความหอมหวานรัญจวนจากเขาเอาไว้อย่างเต็มอิ่ม

ริมฝีปากได้รูปจูบไซ้ไล่ลงมาตามซอกคอและร่องอกอวบที่ก้อนเนื้อธรรมชาติที่ตูมตั้งอวบอิ่มแม้จะนุ่มละมุนเพราะไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก็ทำให้เขาอิ่มเอมแล้วถวิลหาปรารถนาจะปลดปล่อยอารมณ์ที่ตื่นเพริดได้ทุกครั้ง

ฝ่ามือใหญ่บีบนวดเลื่อนไล่ลงมาตามแผ่นหลัง เอวสะโพกกลมมน ขยี้ขยำบีบเคล้นพร้อมกับพรมจูบราวกับเป่ามนต์ไปทั่วสรรพางค์กายงามที่บรรเจิดชัด

ร่างบางดีดดิ้นเป็นจังหวะพร้อมกับเสียงร้องครวญคราง มิใช่แสดงออกถึงความเจ็บปวดแต่อย่างใด หากแต่แสดงถึงความกระหึ่มที่ดวงใจที่กำลังผวาตื่น หล่อนบิดร่างไหวไปมาตามสัมผัสที่ร้อนรุมพร่างพรมไปทุกหย่อมหญ้าของชิ้นกายงามที่เฝ้าถนอมฟูมฟักไม่ให้หย่อนคล้อย ประณีตบรรจงทุกขั้นตอนจนสวยสมความตั้งใจ

หัวใจของหล่อนยิ่งโลดแล่นเมื่อมองเห็นสัดส่วนที่เหมือนรูปทรงเลขาคณิตของเขาอันแสดงออกถึงความเป็นชายที่เพริดแพร้วไร้ชายใดเปรียบปาน

ทั้งด้านกว้างและด้านยาวของสัดส่วนที่มองเห็นทำให้หัวใจของหล่อนเกิดความอึกทึกและกระหึ่มอย่างหนักหน่วงจนยากจะระงับอีกต่อไป เมื่อพยายามจะยื่นมือเพื่อสัมผัสครอบครองยามที่มันผงาดเต็มตัวสมวัยหนุ่มฉกรรจ์ที่เพียบพร้อมไปด้วยเปลวไฟแห่งขุมพลังที่พร้อมจะแสดงฤทธิ์เดช

“ที่รักขา..”

หล่อนร้องเรียกเขาเสียงกระเส่าเมื่อเขาฝังริมฝีปากลงยังเจ้ายอดสีชมพูก่อนจะใช้ไรฟันกดกระหน่ำอย่างแรงจนร่างบางสั่นผวาหวามเกิดความหวั่นไหวจนต้องยกสองมือยันบ่าไหล่กว้างของเขาไว้ทันที

“กลัวหรือครับ..”

เขากระซิบถามก่อนจะฝังริมฝีปากลงดูดซับแผ่ว ๆ แล้วหนักขึ้นก่อนจะใช้ปลายลิ้นดุนดันเกลี่ยหยอกเย้าไปมา สร้างความหฤหรรษ์ในดวงใจให้หล่อนอย่างเหลือล้นจนต้องกรีดร้องออกมาจนลั่นห้อง

“ที่รักคะ..ฑิตาไม่ไหวแล้ว..”

หล่อนบิดร่างไปมาแล้วแอ่นถลาขึ้นลง เรียวขาขาวหนีบเข้าหากันแล้วแยกออก พลางวางปลายนิ้วเรียวยาวลงยังรอยกรีดธรรมชาติที่เอิบอาบชุ่มด้วยหยาดน้ำที่พร่างพรม เปรียบเสมือนมธุรสที่กระจายพลังอันร้อนแรงเพื่อล่อแมลงทั้งหลายให้หลงถลาเข้ามาสู่ความฝันอันวิจิตร

ปลายนิ้วเรียวบางเกลี่ยบางสิ่งบางอย่างอันเป็นจุดรวมซึ่งความรู้สึกของสตรีเพศ พร้อมกับร้องครางแผ่ว ๆ เมื่อเขายังสาธยายความร้อนอยู่ที่ทรวงอกอวบของหล่อนแล้วเพิ่มสีสันด้วยการคว้าบรั่นดีที่หัวเตียงของหล่อนเปิดฝาแล้วเทราดลงบนเนื้อตัวของหล่อนก่อนจะบรรจงดูดซับความมึนเมาของบรั่นดีบนเรือนกายงามที่ดีดดิ้นพลิ้วไหวราวกับจะขาดใจ

พลังจูบที่ดื่มดำพร่ำพรอดออดอ้อนและเว้าวอนอยู่ในทีถูกชโลมราบทาบลงยังหน้าท้องน้อย ๆ ของหล่อน ก่อนจะพร่างพรมไปยังท่อนขาขาวนวลที่หนีบเบียดเข้าหากัน พร้อมกับฝ่ามือเรียวบางที่ลูบไล้สัดส่วนของเขาอย่างโหยหา

เรียวขาวถูกแยกออกอย่างช้า ๆ ด้วยฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งแล้วบรรจงวางฝ่ามือลงทาบยังดอกกุหลาบที่กำลังเบ่งบานรอหยาดน้ำชุบชโลมให้ชุ่มเย็น

หล่อนกัดริมฝีปากพลางเหวี่ยงศีรษะไปมา ดวงตาหลับพริ้มเมื่อปลายนิ้วเรียวสะอาดและแข็งแรงกรีดตามรอยแยกธรรมชาติ สัมผัสกับหยาดน้ำที่พร่างโพยออกมา ก่อนจะสอดลึกไปในช่องทางหนึ่งที่ทำให้หล่อนต้องกรีดร้องออกมาพร้อมกับแยกเรียวขาออกแล้วแอ่นสะโพกกลมมนขึ้นเหมือนจะหาทางให้ปลายนิ้วเรียวแข็งแรงนั้นสอดให้ลึกลงไปอีกนิด

ปลายจมูกโด่งได้รูปจูบไซ้พวงแก้มขาวของหล่อนอย่างหนักหน่วง ซุกไซ้ไปทั่วราวกับกำลังกระตุ้นอารมณ์ที่แตกกระสานของหล่อนให้เตลิดมากขึ้นไปอีกนิด ก่อนจะแยกเรียวขาขาวด้วยท่อนขาที่แข็งแรง

เข่าน้อยตั้งชันขึ้นเมื่อเรียวขาถูกแยกออกพร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่กดเข่าของหล่อนให้เอนราบไปหาลำตัวบางก่อนจะจาบจ้วงผสานร่างลึกลงในร่างของหล่อนอย่างรวดเร็วแม่นยำและหนักหน่วงจนร่างบางสะดุ้งเฮือกแล้วก็ถลาตามติดเมื่อเขาเริ่มขยับสะโพกได้รูปที่แข็งแรง

เมื่อเบียดเข้าจนสุดแล้วถอนออกมาอย่างใจเย็นก่อนจะเบียดผสานกระหน่ำเข้าหาแล้วเพิ่มความเร็วอีกนิดพร้อม ๆ กับริมฝีปากได้รูปที่ดูดซับเนื้อตัวที่เนียนสะอาดของหล่อนก่อนจะหยุดที่เจ้ายอดสีชมพูที่ดุนดันแล้วเกลี่ยเลียอย่างรุนแรงเพิ่มอารมณ์เหมือนยาบำรุงที่ถูกฉีดผสมลงในถุงน้ำเกลือให้คนไข้

เมื่อเขากำลังพาหล่อนเดินทางมาจนเกือบจะถึงที่สุดแห่งเส้นทาง แต่เขากลับหยุดแล้วมองหน้าหล่อนนิ่ง ทำให้หัวใจดวงน้อยของหล่อนหวีดหวิวขึ้นทันที

“ที่รักขอร้องนะคะ อย่าหยุดตอนนี้ได้ไหม ได้โปรด..”

“ผมหยุดเพื่อให้คุณสานต่อต่างหากครับ..”

เขาพูดพร้อมกับเหวี่ยงร่างของหล่อนขึ้นไปทาบอยู่บนร่างของเขาที่เอนนอนลงแผ่นหลังทาบราบกับพื้นที่นอนนุ่ม แม้หล่อนอยากจะตัดพ้อเขาแต่ก็ไม่สามารถทำได้เมื่อความรู้สึกยังกรุ่นอยู่กับความปรารถนาที่ไม่อาจสะกดกลั้น

เจ้าหล่อนกลับต้องเป็นฝ่ายรุกไล่ที่มีฝีเท้าไม่เท่าเขาและพลังยังด้อยกว่าทำให้หล่อนรู้สึกขัดเคืองใจตัวเองที่ถูกเขาหักหลังด้วยการใช้กลเม็ดนี้ ซึ่งหล่อนไม่เคยเตรียมตั้งตัวมาก่อน

แต่ดูเหมือนเขาจะเดาความรู้สึกของหล่อนได้จึงสอดแขนแข็งแรงทั้งสองไปใต้ท่อนขาของหล่อนที่คร่อมเอวของเขาอยู่แล้ววางมือทั้งสองลงที่เอวกลึงของหล่อน พร้อมกับยกร่างของหล่อนลอยขึ้นก่อนจะขยับสะโพกของตนเองที่ร่างกายส่วนสำคัญยังฝังลึกอยู่ในร่างของหล่อน

แม้หล่อนจะรู้ว่าเขามีพลังขับเคลื่อนทางเพศมากแต่ไม่รู้เลยว่าเขาแข็งแรงถึงขนาดยกหล่อนลอยสูงขึ้นแล้วยังสามารถทำหน้าที่เป็นฝ่ายรุกโดยที่เขานอนราบแผ่นหลังทาบอยู่กับพื้น

สะโพกกลมมนของหล่อนลอยขึ้นเหนือสะโพกของเขาในขณะที่ร่างทั้งสองสอดผสานกันอย่างเป็นจังหวะ เขาทำให้หล่อนแทบขาดใจในทุก ๆ จังหวะที่เบียดกระหน่ำ

เขาพลิกร่างเมื่อผลักหล่อนให้เอนแผ่นหลังทาบลงกับพื้นแล้วยกเรียวขาของหล่อนตั้งขึ้นก่อนจะขยับเบียดสะโพกหนาได้รูปที่แข็งแรงกระชั้นถี่แล้วหนักหน่วงเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ จนทำให้หล่อนร้องลั่นด้วยหัวใจที่ตื่นเตลิดแล้วสุขลึกล้ำ

“ฑิตาไม่คิดว่าคุณจะแกล้งฑิตาแบบนี้..”

เจ้าหล่อนต่อว่าหลังจากที่นอนสงบอยู่ในอ้อมแขนของเขาพักใหญ่

“คุณจะได้รู้ว่าควรปรับปรุงอย่างไรไงครับ..”

“ทำไมไม่บอกล่วงหน้าล่ะคะ..”

“คุณจะได้หาคู่ซ้อมที่ไม่ใช่ผมอย่างนั้นหรือครับ..”

“บ้า..”

หล่อนทุบอกเขาอย่างหนักเมื่อตะแคงร่างมองหน้าเขา

“ตั้งแต่คบกับคุณ ฑิตาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหนเลยนะคะ..”

“จริงหรือ..”

เขาถามเสียงเรียบพร้อมกับลุกขึ้นคว้าผ้าเช็ดตัวพันเอวแล้วหายเข้าห้องน้ำไปชั่วครู่ เมื่ออกมาก็สวมใส่เสื้อผ้าของเขาอย่างเรียบร้อย

“จะไปจริงหรือคะ..”

“ผมมีงานครับ ไว้พบกันใหม่..”

เขาพูดเพียงเท่านั้นก็เตรียมจะออกไปจากห้องแต่เจ้าหล่อนก็รีบเบียดร่างนิ่ม ๆ มาหยุดขวางประตู

“ไม่ลงไปส่งนะคะ..เอารถของฑิตาไปได้เลย..”

“อย่าดีกว่าครับผมกลับแท็กซี่ได้..”

เขายื่นมือหมายจะเปิดประตูแต่หล่อนกลับเขย่งปลายเท้าฝังเรียวปากลงมาหาริมฝีปากได้รูปของเขานิ่งและนาน กว่าจะยอมถอยห่าง

“แล้วพบกันใหม่นะคะ..”

เขายิ้มน้อย ๆ โดยไม่ยอมปริปากแม้แต่คำเดียวแล้วก็เดินออกไปจากห้องของหล่อน ท่ามกลางสายตาของหล่อนที่ก้าวตามออกมาที่หน้าห้องเฝ้ามองดูเขาจนหายไปจากสายตา

มัณฑิตาหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบแล้วพ่นควันออกมาแล้วก็หันไปขยี้บุหรี่ทิ้งอย่างหัวเสียก่อนจะสอดสองมือไปในเส้นผมแล้วสะอื้นไห้ออกมาอย่างไม่เหตุผล

“คุณทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง คุณก็รู้ว่าฉันรักคุณ แต่ทำไม..ทำไม..”

หล่อนสะอื้นไห้อย่างหนักอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะปราดน้ำตาออกไป

“ฉันจะต้องได้เป็นเจ้าของคุณ..ต้องเป็นฉันเท่านั้น..”

หล่อนหันไปคว้าบรั่นดีที่หัวเตียงมารินลงแก้วแล้วสาดลงคอ