ตอนที่ 6 ความอิ่มเอมใจแม้ชั่วขณะ ep6
มัณฑิตารอจนคุณสุตาภัทร์ออกไปจากห้องโถงจึงหันมามองหน้าเขา
“ทำไมไม่บอกคุณย่าล่ะคะว่าเราเป็นอะไรกัน..”
เจ้าหล่อนทำแสนงอนเมื่อนั่งลงใกล้ ๆ เขาแล้วเมินหน้าไปอีกทาง ในขณะที่เขามองหน้าหล่อนแล้วยิ้มที่มุมปาก
“แล้วเราเป็นอะไรกันล่ะครับ..หือ..”
เจ้าหล่อนหันขวับมามองหน้าที่ยิ้มละไมของเขาทันทีด้วยหัวใจที่เจ็บแปลบแต่เขากลับยิ้มใส่หน้าหล่อนแล้วขยิบตาให้
“ไป..”
เขาตัดบทด้วยการลุกขึ้นรวบข้อมือเรียวของหล่อนที่ยังทำท่างงงันจนเขาต้องหันมาหา
“ไม่ได้อยู่ด้วยกันนานแล้วไม่ใช่หรือ หาอาหารอร่อยทาน ดูหนัง ฟังเพลงเต้นรำแล้วก็..”
เจ้าหล่อนยังนิ่ง ทำให้เขาปล่อยข้อมือหล่อนแล้วสอดมือลงกระเป๋ากางเกงพร้อมกับมองไปเบื้องหน้าโดยไม่คิดจะใส่ใจความแสนงอนเหมือนต้องการเรียกร้องความสนใจจากเขา แม้มัณฑิตาจะรู้ดีว่า ไม่ว่าหล่อนจะแกล้งทำงอนเพื่อให้เขาง้อสักกี่ครั้งก็ไม่เป็นผล แต่มันก็ติดเป็นนิสัยจนแก้ไม่หายไปแล้ว
“พรุ่งนี้ผมต้องเริ่มงานแล้ว จะไม่มีเวลาให้คุณอีก เพราะละครเรื่องนี้คุณไม่ได้แสดงด้วย..หากไม่อยากไปกับผมก็ตามสบายนะครับ..”
เขาพูดพร้อมกับเตรียมก้าวเดินแต่ยังช้ากว่าหล่อนที่รีบลุกขึ้นแล้วสอดมือไปคล้องแขนเขาทันที
“แค่นี้ก็งอนด้วยหรือคะที่รัก..ไปค่ะ คุณอยู่ไหนฑิตาอยู่ด้วย โอเค๊..”
เขายักคิ้วพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก และเดินตรงไปยังรถของหล่อนเข้าประจำที่คนขับโดยมีหล่อนเคียงข้างออกไปท่ามกลางสายตาของคุณสุตาภัทร์ที่มองผ่านมาทางหน้าต่างอีกห้องหนึ่งใกล้ลานจอดรถ
“คงไม่ใช่คนนี้หรอกค่ะคุณท่าน..”
“ฉันก็มั่นใจว่าต้องไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้เหมือนกัน..”
“แล้วจะห่วงอะไรคะ..”
แม่สมคิดติงขึ้นเบา ๆ เมื่อเห็นเจ้านายสูงวัยยังคงทอดสายตามองตามหลังรถสปอร์ตหรูสีแดงเพลิงคันนั้นไป
“น่ากลัว ผู้หญิงคนนี้มีสายตาที่เชิญชวนก็จริง แต่บางอย่างในแววตาบอกฉันว่า หล่อนน่ากลัว..”
“คิดมากค่ะคุณท่าน สมัยนี้เป็นเรื่องธรรมดาค่ะการคบหาของหนุ่มสาวโดยไม่ได้แต่งงาน ดูใจกันไปสิบปี แล้วค่อยแต่งก็มี บางคู่ดูใจกันแต่เดือนเดียวก็เลิกลา บอกว่าไปกันไม่ได้ ขอเป็นแค่เพื่อน..โดยเฉพาะในกลุ่มของดารานักแสดง..”
“รู้เรื่องดีนะ..”
แม่สมคิดยิ้มเย็น
“ก็มีเจ้านายน้อยเป็นผู้กำกับนี่คะ..”
สตรีทั้งสองประสานเสียงหัวเราะเบา ๆ
วอสก้าแก้วสุดท้ายถูกสาดลงคอรวดเดียวหมด ก่อนเจ้าของใบหน้าคร้ามคมที่หล่อสะอาดจะหันมามองดวงหน้าสวยงามพริ้มของมัณฑิตาในขณะที่เจ้าหล่อนบรรจงจิบบลูเลดี้ซึ่งมีส่วนผสมของ ตากีลา บลูคูราโซ่ น้ำมะนาวและน้ำเชื่อม ในแก้วค็อกเทลอย่างใจเย็น
“ผมมีเวลาให้คุณอีกสามชั่วโมง..”
เขาพูดจบก็วางเงินไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกไปยังลานจอดรถโดยมีเจ้าของบางระหงที่สวมใส่เสื้อผ้าเนื้อดีแนบเนื้ออวดรูปร่างที่เย้ายวนตามไปติด ๆ
“สามชั่วโมงหรือคะ ทำไมล่ะคะ ไหนบอกว่าพรุ่งมีถ่ายละคร..”
“ผมต้องกลับบ้านก่อนสว่างครับเพื่อเตรียมตัว..”
เจ้าหล่อนเข้าไปนั่งคู่กับเขาในรถแล้วทำหน้ายุ่ง
“เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย อยู่กับฑิตาจนสว่างไม่ได้หรือ..อื้อ”
หล่อนมีโอกาสตัดพ้อได้เพียงเท่านั้นเมื่ออ้อมกอดที่อบอุ่นรวบร่างเข้ามาไว้แนบอกตามติดด้วยริมฝีปากได้รูปที่ดูดซับเรียวปากของหล่อนอย่างหนักหน่วงรุนแรงผสานแทรกด้วยปลายลิ้นใหญ่สะอาดที่ร้อนรุมแตะสัมผัสรัดรึงปลายลิ้นเล็กของหล่อนที่ยังไม่ทันตั้งตัวให้รู้สึกหวีดหวิวในหัวใจจนผวาหวาม
ฝ่ามือใหญ่ทั้งสองลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังแล้วไล้ลงมายังเอวกลึงที่คอดกิ่วบีบสองแก้มสะโพกงามงอนก่อนจะวาดปลายนิ้วเรียวไปยังบ่าไหล่แล้วเลื่อนเสื้อเนื้อดีออกเผยให้สัมผัสกับผิวเนื้อที่เนียนลออ
ในขณะที่หล่อนยังเผลอไผลแล้วเคลิบเคลิ้มกับรอยจูบที่เดือดพล่านของเขา สองฝ่ามือใหญ่ก็ทาบลงไปยังเนินอกอวบเลื่อนบราเซียไร้สายออกจากเจ้าปทุมถันที่อวบอ่อนละมุนขยำเบา ๆ แล้วหนักขึ้น ก่อนจะละริมฝีปากจากกลีบปากบางของหล่อนจูบไซ้ไล่ลงมาครอบครองโนมเนื้อที่เด่นผงาด
ท่ามกลางเสียงร้องครางของหล่อนที่เงยหน้าขึ้นพร้อมกับขบกัดริมฝีปากของตัวเองเมื่อสองแขนโอบรอบคอของเขาไว้แน่นพลางเบียดส่ายทรวงอกที่สัมผัสกับปลายจมูกและริมฝีปากที่รุมร้อนราวกับถูกไฟที่ร้อนแรงกำลังแผดเผาอย่างหนัก
สองฝ่ามือใหญ่เลื่อนไปเอวกลึงบีบเคล้นเบา ๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปยังท่อนขาขาวแล้วสอดไปใต้กระโปรงแนบเนื้อระรานกับผิวกายท่อนล่างของหล่อนก่อนจะไล้ฝ่ามือไปยังสองแก้มสะโพกกลมมนขยี้บีบขยำแผ่ว ๆ แล้วหนักขึ้นจนหล่อนเริ่มส่งเสียงร้องดังมากขึ้นเมื่อสองฝ่ามือบางสอดเข้ามาในเส้นผมหยักศกที่นุ่มสลวยของเขาแล้วกดทาบไว้ที่โนมเนื้อที่อวบละมุนของหล่อน
“หยุดทำไมคะที่รัก..”
หล่อนร้องถามเสียงกระเส่าเมื่อเขาค่อย ๆ เงยหน้ามองดวงหน้าหวานของหล่อนที่ดวงตากำลังปรือ กลีบปากบางเผยอออกอย่างเชิญชวน
“ไม่ว่าจะมีเวลามากน้อยแค่ไหน ผมก็ไม่เคยทำให้คุณผิดหวังไม่ใช่หรือครับ..”
เขายิ้มเมื่อขยิบตามองหน้าหล่อนก่อนจะหันกลับไปยังพวงมาลัยรถแล้วสตาร์ทเลี้ยวออกจากที่มุ่งหน้าสู่คอนโดส่วนตัวของหล่อน ในขณะที่มัณฑิตารีบจัดการกับเสื้อผ้าของหล่อนอย่างรวดเร็วทั้งที่ในหัวใจยังลุกโชน
