บทย่อ
“มาสั่งกูได้ไงวะ เสียเหลี่ยมมาเฟียฉิบหาย! ไม่น่าพลาดไปปล้ำเลยโว้ย!” จากเด็กอุปการะสู่หมอไวน์คนสวยเรียบร้อยแสนดี ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไปเมื่อเธอเอ่ยปาก (ขอมีอะไรกับมาเฟียหนุ่มสุดเย็นชาใจร้ายเป็นที่สุด) ซึ่งเป็นคนอุปการะเธอ เรื่องราวพัวพันเมื่อเธอได้เขาแล้วหนีห่างกลายเป็นเขาที่ไล่ตามทุกวิถีทางเพียงแค่ได้ตื่นมามองหน้าเธอทุกวัน......... “เขาคงเห็นว่าแผลฉกรรจ์ นอนพักเถอะค่ะเสียเลือดมาก เดี๋ยวหน้ามืด” “อย่าพูดเหมือนฉันอ่อนแอ!” มือหนาจับหมับที่ข้อมือเรียวจ้องหมอคนสวยตาเขม็ง ไวน์สีหน้าเรียบนิ่งกระชากมือออกหันมองไปทางประตูกลัวใครมาเห็น ทศราชหันมองตามค่อย ๆ ฝืนเหยียดกายขึ้นยืนตามประสาคนอยากเอาชนะ เธอกอดอกยืนมองคนเก่งที่แสนจะเอาแต่ใจด้านทศราชมองเคืองหมอพอยืนได้ก็ก้าวเท้าจะเดินออกไปข้างนอกเองแค่พอเท้าแตะพื้นเขาก็ถึงกับเซเกือบทรุด เธอรีบเขามาประคอง “โอ๊ย!” คิ้วเข้มขมวดปมเม้มปากข่มความเจ็บ “ดื้อ!” เธอเสียงขุ่นหน้าดุ มองหน้าผู้ป่วยที่ดื้อรั้นไม่ฟังหมอ “กล้าบ่นเหรอ หายเจ็บเมื่อไหร่เจอดีแน่” เขาจ้องหน้ากลับมองอย่างมาดหมาย “กลัว....จัง....เลย....”หมอไวน์ยกยิ้มมุมปากดวงตาโตหวานกรุ้มกริ่มไล่มองร่างแกร่งตรงหน้าแล้วลากนิ้วขึ้นเกลี่ยกายกำยำผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปื้อนเลือด “อย่าท้าทายฉันนะไวน์” เขาขบกรามแน่นจับนิ้วเรียวให้หยุดลูบไล้
ตอนที่ 1 กลัวจังเลย
โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
หมอไวน์ สิรดา แพทย์หญิงแผนกศัลยกรรมสวมเสื้อกาวน์ กำลังตรวจแผลคนไข้ที่เธอทำการผ่าตัดเพื่อดูบาดแผลและความเรียบร้อยอยู่ในห้องผู้ป่วยชายที่ส่งสายตาเชื่อมยิ้มหวานให้คุณหมอไวน์ ที่มีรูปร่างเพรียวระหงผิวขาวใบหน้าเรียวเล็กได้รูปรับกับจมูกโด่งรั้นและริมฝีปากอวบอิ่มขนตางอนยาวตาโตแป๋วไร้เดียงสาดูผุดผ่องสดใสอีกทั้งกิริยามารยาทก็อ่อนโยนทำให้เป็นที่หมายตาของทั้งคนไข้ แพทย์ชายและเหล่าบุคลากรรวมถึงผู้บริหารทั้งโสดและมีภรรยาแล้ว แย่งกันเดินหน้าจีบตามตื๊ออยากได้หมอไวน์ไว้ในปกครอง ทว่าหมอไวน์คนสวยไม่เคยชายตาแลผู้ชายเหล่านั้นนอกจากเพื่อนร่วมงานและเจ้านาย จนพยาบาลเล่าลือกันว่าเธอชอบผู้หญิงด้วยกัน
“แผลแห้งดีแล้ว อาการเจ็บจะค่อย ๆ ทุเลาลงนะคะ วันนี้หมอจะลดยาแก้ปวดให้” เสียงหวานที่เอ่ยขึ้นนุ่มนวลจนคนรอบข้างเผลอยิ้มให้กับคุณหมอแสนหวานใจดี
“ถ้าปวดใจต้องทำยังไงครับ....” ผู้ป่วยชายยิ้มกริ่มตาหวานเยิ้ม ไวน์หันมองแล้วอมยิ้มหน้าสวยยิ่งเปล่งปลั่งสวยสดใส
“ลองปรึกษาภรรยาน่าจะดีกว่านะคะ” เธอก้มหน้าขำมองแผ่นชาร์ตในมือ ขนาดภรรยามาเฝ้าทุกวันก็ยังหยอดหมอได้ทุกวันเหมือนกัน ผู้ป่วยชายห่อตัวลงหมดเรี่ยวแรงหน้าสลด พยาบาลที่ยืนอยู่ข้างหลังหมอแอบอมยิ้มขำคนไข้ขยันขายขนมจีบให้หมอไวน์และนี่ไม่ใช่คนแรกที่เป็นแบบนี้เพราะหมอไวน์โดนคนไข้จีบบ่อยครั้งจนเป็นภาพที่ชินตา
สิรดาเดินมาที่เคาน์เตอร์พยาบาลสั่งงานพยาบาลก่อนออกจากวอด หมอธนาเห็นเธอก็รีบเดินยิ้มแป้นเข้าไปหาหญิงสาวทันที
“กลางวันนี้ทานขนมจีนน้ำยาด้วยกันนะ แม่ฝากมาให้หมอไวน์ด้วย” ธนาเพื่อนหมอรุ่นเดียวกันยืนยิ้มอยู่ข้าง ๆ
“อื้ม ฝากขอบคุณ คุณแม่ด้วยนะ” เธอหันไปยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ก่อนจะหันไปส่งแฟ้มผู้ป่วยให้พยาบาล
“หมอไวน์กลางวันนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหมครับ” หมอเบิร์ดเดินมาที่เคาน์เตอร์สอดมือเข้ากระเป๋าชุดกาวน์
“ขอโทษนะ พอดีผมชวนก่อน” หมอธนายักคิ้วกวนหมอเบิร์ดที่มาช้ากว่าตนไปห้าวินาที หมอเบิร์ดมองเคือง หมอไวน์อึกอักยิ้มอ่อนก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความที่ส่งมา
“ขอตัวก่อนนะคะ” เธอเงยมองสองหนุ่มแล้วเดินเลี่ยงไปทันที ปล่อยให้สองหนุ่มเหล่ตามองเคืองกันต่อไป
ภายในห้องสีขาวสะอาดเต็มไปด้วยเครื่องมือแพทย์ ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกหามเข้ามาโดยชายสวมเชิ้ตสีดำแขนยาว พยาบาลรีบเข้ามาดูแลให้วางผู้บาดเจ็บบนเตียงแล้วจัดการตัดเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ชุ่มเลือดบริเวณหน้าท้องออกเผยแผลฉีกขาดเปิดกว้างเลือดไหลไม่หยุดและลึกเอาการ พยาบาลเตรียมเครื่องมือปฐมพยาบาล ไม่นานนักหมอไวน์ก็เปิดประตูเข้ามาภายในห้องแล้วเดินเข้าไปยืนข้างเตียงผู้บาดเจ็บหนุ่มร่างกายกำยำรอยสักเกือบเต็มตัวสายตาคมดังเหยี่ยวมองเธอด้วยหางตาหน้าตาขึงขังแม้กระนั้นก็ไม่อาจปิดบังใบหน้าหล่อคมเข้มมีเสน่ห์นั้นไปได้เพียงแต่ดูเคร่งขรึมไม่น่าเข้าใกล้
“หมอไวน์เป็นหมอเวรวันนี้เหรอคะ” พยาบาลเอ่ยถาม สิรดาไม่ตอบหยิบถุงมือมาสวมแล้วลากเครื่องมือมาปฐมพยาบาลเอง
“ออกไปเถอะค่ะ หมอจัดการเอง” หน้าสวยก้มมองวิเคราะห์บาดแผล พยาบาลยังยืนงงไม่ออกไป หมอไวน์เงยมองสีหน้าเรียบนิ่งดูแปลกไปจากหมอไวน์ที่อ่อนหวานใจดี พยาบาลหน้าเหวออึกอักก่อนจะยอมเดินออกไปโดยดี
หมอไวน์ขะมักเขม้นในการทำแผล ผู้ป่วยมาดโหดนอนหน้านิ่วคิ้วขมวดพ่นลมหายใจข่มความหงุดหงิดโมโหที่โดนลอบทำร้ายอยากลับไปเอาคืนพวกมันติดที่ว่าลูกน้องดันพาเขามาโรงพยาบาล
“แม่งเอ๊ย!” เขากำหมัดทุบเตียงคนไข้ หมอไวน์ยังคงนิ่งทำแผลอย่างใจเย็น จวบจนทำแผลเสร็จเรียบร้อยเธอหันไปเก็บอุปกรณ์ถอดถุงมือ ผู้ป่วยชายที่มีผ้าพันแผลบนหน้าท้องยันตัวลุกขึ้นสีหน้าเจ็บปวดก่อนจะคว้ามือขาวเรียวของหมอไวน์
“บอกพวกมันให้สวมบัตรประชาชนด้วย เสือกพามาโรงพยาบาล โคตรวุ่นวาย!” เสียงทุ้มเน้นหนักหัวเสียที่ลูกน้องไม่ฟังคำสั่งฝืนพาเขามาโรงพยาบาล
“ป่านนี้คงทำเรื่องเรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกลูกน้องของคุณทศเขารู้ว่าต้องทำอะไร” เธอหันมองก่อนจะค่อย ๆ ติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาทีละเม็ด
“รู้แล้วยังเสือกพามานี่!” เขาเสียงเหวี่ยงหน้าตึงหายใจแรงอย่างหงุดหงิด
“เขาคงเห็นว่าแผลฉกรรจ์ นอนพักเถอะค่ะเสียเลือดมาก เดี๋ยวหน้ามืด”
“อย่าพูดเหมือนฉันอ่อนแอ!” มือหนาจับหมับที่ข้อมือเรียวจ้องหมอคนสวยตาเขม็ง ไวน์สีหน้าเรียบนิ่งกระชากมือออกหันมองไปทางประตูกลัวใครมาเห็น ทศราชหันมองตามค่อย ๆ ฝืนเหยียดกายขึ้นยืนตามประสาคนอยากเอาชนะ เธอกอดอกยืนมองคนเก่งที่แสนจะเอาแต่ใจด้านทศราชมองเคืองหมอพอยืนได้ก็ก้าวเท้าจะเดินออกไปข้างนอกเองแค่พอเท้าแตะพื้นเขาก็ถึงกับเซเกือบทรุด เธอรีบเขามาประคอง
“โอ๊ย!” คิ้วเข้มขมวดปมเม้มปากข่มความเจ็บ
“ดื้อ!” เธอเสียงขุ่นหน้าดุ มองหน้าผู้ป่วยที่ดื้อรั้นไม่ฟังหมอ
“กล้าบ่นเหรอ หายเจ็บเมื่อไหร่เจอดีแน่” เขาจ้องหน้ากลับมองอย่างมาดหมาย
“กลัว....จัง....เลย....”หมอไวน์ยกยิ้มมุมปากดวงตาโตหวานกรุ้มกริ่มไล่มองร่างแกร่งตรงหน้าแล้วลากนิ้วขึ้นเกลี่ยกายกำยำผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปื้อนเลือด
“อย่าท้าทายฉันนะไวน์” เขาขบกรามแน่นจับนิ้วเรียวให้หยุดลูบไล้ ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนแย้มยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่เกรงกลัวเขาเลยสักนิด............เสียงฝีเท้ากำลังใกล้เข้ามาหมอไวน์ผละออกห่างผู้ป่วยชายแล้วเดินไปเปิดประตูห้องทำทีจะเดินออกไป
“คนข้างนอกเขาบอกว่าทำแผลนานจะพาผู้ป่วยกลับให้ได้เลยค่ะ ท่าทางพวกเขาน่ากลัวมากเลยนะคะ” พยาบาลท่าทางประหม่าหวาดกลัวกลุ่มญาติคนไข้
“ทำแผลเสร็จแล้ว บอกให้พวกเขาไปชำระค่ารักษาก่อนค่อยมารับตัวกลับ” หมอไวน์บอกพยาบาลแล้วเหล่หางตามองทศราชที่นั่งหน้าตึงอยู่ในห้อง
“ค่ะ คุณหมอ” พยาบาลรีบรับคำเดินกลับไปที่หน้าเคาน์เตอร์ทันที หมอไวน์เดินออกจากห้องทำแผลปิดประตูเดินตามหลังพยาบาลไป เมื่อออกมาด้านนอกห้องฉุกเฉินหมอไวน์พยักพเยิดหน้าให้กับชายเชิ้ตดำทั้งสี่ที่ยืนทะมึนอยู่ข้างนอกสื่อให้รู้ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี

