บท
ตั้งค่า

บทที่ ๗ (ยังไงก็ต้องแต่ง)

บทที่ ๗

(ยังไงก็ต้องแต่ง)

"ไม่แต่งนะแม่....ยังไงฝนก็ไม่แต่ง"

"ไม่ได้!!!!! ..ลูกต้องแต่งอยากให้พ่อเสียผู้ใหญ่หรือยังไง"

"ไม่เอาค่ะ ฝนไม่แต่งคุณพ่อไปรับปากฝั่งนั้นเอง ฝนไม่ได้เห็นด้วยซักหน่อย"

"จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยแกก็ต้องแต่ง ทีตอนหมั้นใครคัดค้านก็ไม่ฟัง ยอมทิ้งตาพัทที่คบหากันมาตั้งนานไปได้ แล้วทีตอนนี้จะไม่แต่ง มันไม่ใช่เด็กเล่นของเล่นนะยัยฝน"

กนกพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินหนีออกมาหาลูกสาวคนเล็กที่คงกำลังวุ่นวายอยู่ในครัว ฟ้าระดาไม่เคยทำอะไรให้ตนผิดหวังเลยสักครั้ง ผิดกับบุตรสาวคนโตสร้างแต่ปัญหาให้ไม่จบไม่สิ้น กนกรู้มาตลอดว่าพงพัทกับบุตรสาวคนโตของตนมีความสัมพันธ์กันเกินเพื่อนฝูง พงพัทก็แสดงออกอย่างชัดเจนมาตลอดว่ารักสิริรัตน์มากแค่ใหน กนกเองยังนึกชอบใจในความรัก ความซื่อสัตย์ของพงพัทที่มีต่อบุตรสาวตน ทั้งๆ ที่บุตรสาวตนไม่ได้ทำตัวน่ารักกับชายหนุ่มเลยสักนิด กนกไม่ได้ถือเรื่องพรหมจารีย์อะไร เขาออกจะเข้าใจในธรรมชาติของชายหญิงดีเลยด้วยซ้ำ วันที่สิริรัตน์หมั้นพงพัทถึงกับเสียศูนย์เลย กนกก็คิดว่าหลังหมั้นสิริรัตน์กับพงพัทคงจะตัดขาดกันแต่ที่ใหนได้ ทั้งคู่ยังคงมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งต่อกันต่อไป จึงทำให้เกิดเหตุเศร้าสลดแบบนี้เกิดขึ้น แล้วจะมายกเลิกงานแต่งงานได้ยังไง พูดได้ว่าต้นเหตุมันมาจากสิริรัตน์โดยตรงก็ว่าได้

"ยัยฟ้าทำอะไรอยู่ลูก"

"ฟ้ากำลังทำวิสกี้เค้กอยู่ค่ะคุณพ่อ"

"วิสกี้...เค้ก....เหล้ากับเค้กนี้หรอลูกมันเข้ากันหรอลูก พ่อไม่เคยได้ยินเลย"

"ใช่ค่ะคุณพ่อ เดี๋ยวคุณพ่อรอชิมเลยนะคะ เมนูนี้ฟ้าทำเพื่อคุณพ่อเลยไม่หวานมากแถมมีกลิ่นอายของวิสกี้ที่คุณพ่อชอบดื่มอีกด้วย ที่จริงเค้กชนิดนี้กำลังเป็นที่นิยมเลยนะคะ ตอนนี้คือบูมมากเลยค่ะ"

"แล้วมันทำยากไหมล่ะลูกไอเหล้าเค้กนี้"

"มันก็ก็ค่อนข้างจะยุ่งยากนะคะคุณพ่อ เราต้องมาแยกว่าเหล้าชนิดไหนเหมาะสมกับเค้กอะไรบางทีถ้าจับคู่เหล้าผิดก็จบเลยค่ะ ต้องทิ้งอย่างเดียว นี้ถ้ามีโอกาสฟ้าอยากไปเรียนทำขนมเพิ่มเติมที่ประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ ที่นั้นมีแต่เชฟฝีมือดี ขึ้นชื่อเรื่องทำขนมเลยค่ะ "

"ฟ้าอยากไปจริงๆ ใช่ไหมลูก"

"ค่ะ ฟ้าอยากไปค่ะคุณพ่อ ที่ญี่ปุ่นมีแต่เชฟเก่งๆ ฟ้าอยากไปเรียนเอาความรู้มาสอนเด็กๆ ที่ประเทศไทย เพราะบางคนพ่อแม่เขาก็ไม่ได้มีเงินส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ ฟ้าคิดว่าถ้าฟ้าไปแล้วนำความรู้มาสอนที่นี้ก็คงจะดี อย่างน้อยๆ เด็กๆ ที่มีความฝันอยากทำขนมเหมือนฟ้าจะได้มีโอกาสเรียนรู้สูตรต้นตำหรับจากญี่ปุ่นโดยผ่านครูคนไทยอย่างฟ้าไงคะคุณพ่อ"

"พอเป็นเรื่องขนม ลูกสาวพ่อพูดเจื่อยแจ่วขึ้นมาไม่หยุดเลยนะ"

กนกยกมือขึ้นไปลูบหัวลูกสาวคนเล็กอย่างเอ็นดู ดูเอาเถอะขนาดอยากไปเรียนเฉพาะด้านที่ญี่ปุ่นก็ยังไม่เคยมาขอให้ตนส่งเรียน นี้คงตั้งใจเก็บเงินไปเรียนเอาเองสิท่า

"ถ้าฟ้าอยากไปเรียน ก็ไปเถอะลูก พ่อจะส่งฟ้าไปเรียนเอง"

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพ่อ ฟ้าทำงานเก็บเงินอีกสักนิดดีกว่า..ตอนนี้ฟ้าก็พอจะเก็บได้สักก้อนแล้วค่ะ เก็บต่ออีกไม่เท่าไรก็พอค่ะ...แล้วอีกอย่างฟ้าทราบค่ะว่าสถาณะการของบ้านเราไม่ค่อยจะดีมาก ฟ้าไม่รีบหรอกค่ะไปตอนไหนก็เหมือนกันค่ะ คุณพ่อไม่ต้องรำบากหรอกนะคะ"

"ฮึ่ย!! ค่าเรียนจะสักเท่าไรกันเชียว พ่อมีปัญญาส่งลูกสาวพ่อเรียนอยู่แล้วละ ไปก็ตั้งใจเรียน หรือจะเอาลูกเขยญี่ปุ่นมาฝากพ่อสักคนก็ดีนะ พ่อดูๆ แล้วถ้ามัวทำแต่งานก็น่าจะได้แต่งกับงานนั่นแหละ พ่อก็คงจะไม่ได้อุ้มหลาน"

"คุณพ่อก็ แซวฟ้าได้ แง๊... รอลูกพี่ฝนก็ได้นี่คะ เดือนหน้าก็แต่งแล้วนี่"

ฟ้าระดาหันมากอดเอวบิดไว้หลวมๆ เธอไม่ทราบเรื่องที่ว่าคู่หมั้นของพี่สาวประสบอุบัติเหตุ เธอจึงพูดออกมา กนกหน้าขรึมลงเล็กน้อยแต่ก็รีบสบัดมันทิ้งหันกับมายิ้มให้ลูกสาวคนเล็กเช่นเดิม เห็นไหมล่ะผิดคำตนที่ไหนยัยลูกคนนี้ตั้งใจจะพึ่งตัวเองไม่ยอมมาขอความช่วยเหลือจากตนเลยสักนิด ส่วนเรื่องบุตรสาวคนโตไม่ใช่ว่าตนไม่ห่วงลูก แต่ในเมื่อเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอง

สองพ่อลูกหยอกล้อกันอยู่ในครัวกนกก็อยู่ช่วยบุตรสาวหยิบจับทำขนม นารีรัตน์ที่เดินตามสามีมาตั้งแต่ต้นยืนกำหมัดแน่น ตอนแรกหล่อนคิดจะมาคุยเรื่องแต่งงานของยัยน้ำฝน แต่กลับต้องมาได้ยินสองพ่อลูกแสดงความรักต่อกัน นี้ถึงขนาดจะส่งมันไปเรียนที่ญี่ปุ่นเลยหรอ หึหึ...แต่กับลูกสาวอย่างยัยน้ำฝนกับไม่สนใจจะช่วยเหลือ

'พอกันทีฉันจะไม่ทนกับอีลูกเมียน้อยอย่างอีน้ำฟ้าอีกต่อไป ในเมื่อคุณพี่ลำเอียงขนาดนี้ฉันก็จะไม่ทน อีน้ำฟ้ามันจะต้องได้รับบทเรียน หึ"

"แม่...แม่..ว่าไงคุณพ่อยอมไหมคะ"

"แม่ไม่ได้คุย"

"อ้าวคุณแม่ทำไมล่ะ ทำไมไม่ยอมคุยให้ฝนล่ะ แม่จะไม่ช่วยฝนหรือยังไงฝนไม่แต่ง พิการตาบาด แถมเป็นอัมพฤกษ์ตั้งแต่เอวลงไปแบบนั้น ชีวิตฝนก็คงจะเหี่ยวแห้งตายพอดี"

สิริรัตน์โวยวายขึ้นมาก็ไหนมารดาบอกว่าจะไปช่วยคุยกับบิดาให้ตนไง แล้วไหนทำไมไม่คุยล่ะ หญิงสาวร้อนใจจนจะเป็นบ้า ถ้าต้องแต่งงานกับคนพิการแบบนั้น หญิงสาวยอมตายดีกว่า หล่อรวย แล้วไงพิการแบบนั้นจะมีความหมายอะไร จะอวดใครได้มีแต่จะทำให้ขายขี้หน้า

"แกอย่าเพิ่งโวยวายดิยัยฝน แม่มีแผนแกไม่ต้องกลัวแม่ไม่ยอมให้แกมีผัวพิการ"

"คุณแม่จะทำอะไรคะ แผนอะไร"

"เดี๋ยวแกก็รู้ แกไปบอกคุณพ่อเลยนะว่าแกยินดีจะแต่งกับไอง่อยนั่น"

"แต่ว่าฝนไม่อยากแต่งนี้แม่"

"ยัยฝนแกฟังแม่นะก็แค่แต่งชุดเจ้าสาวสวยๆ เข้าพิธี หลังจากนั้นแม่จะจัดการเอง แกแค่เชื่อใจแม่แล้วไม่ต้องถามมาก ไปได้แล้วไปบอกคุณพ่อแกสะ ว่าแกทำนึกผิดแล้ว"

สิริรัตน์ไม่เข้าใจว่ามารดาตนจะทำอะไร ถามไปก็ไม่ยอมบอก ที่นารีรัตน์ไม่ยอมบอกแผนการกับบุตรสาวเพราะกลัวว่าเธอจะทำแผนรั่ว เรื่องนี้เรื่องใหญ่หล่อนต้องนิ่ง แล้วมาคอยดูกัน ทั้งกนกและฟ้าระดาจะต้องตายทั้งเป็น ในเมื่อบังอาจมาทำให้หล่อนเจ็บช้ำน้ำใจไม่พอ นี้ยังบังอาจมาทำให้บุตรสาวตนต้องตกนรกทั้งเป็นที่ต้องไปอยู่กับคนพิการ นารีรัตน์จะไม่มีวันยอม

"คุณพ่อคะ ยัยน้ำฟ้า ทำอะไรกันอยู่น่าสนุกจังเลย"

"ทำเค้กค่ะพี่ฝน พี่ฝนรอชิมนะคะ ฟ้าทำวิสกี้เค้ก สูตรพิเศษของฟ้าเอง"

"ว้าว..น้องสาวพี่เก่งจังเลยนะ มาพี่ช่วย"

"โอ๊ย!!! พี่ฝนไม่ต้องหรอกค่ะ ช่วยชิมก็พอ มาค่ะ คุณพ่อกับพี่ฝนมานั่งตรงนี้นะ เดี๋ยวเอาออกจากเตาอบก่อน"

สิริรัตน์จำต้องฝืนใจญาติดีกับยัยน้องชัง ถ้าเธอไม่ดีด้วยมีหวังบิดารได้ด่าเธออีก ดีไม่ดีจะโดนยึดบัตรเครดิตอีก

"คุณพ่อคะฝนตัดสินใจแต่งงานกับพี่ดลแล้วนะคะ ฝนไม่อยากให้พ่อผิดคำพูด เพราฉะนั้นฝนจะแต่งค่ะ"

"จริงหรอลูก พ่อดีใจที่ฝนคิดได้นะ ดูแลพี่เขาดีๆ พี่เขาไม่ได้จะพิการตลอดชีวิตหรอกลูก ระดับคุณนวพลน่ะไม่ยอมให้ลูกชายคนเดียวต้องพิการหรอก เชื่อพ่อสิ"

"ค่ะคุณพ่อ"

?? เฉลยมา 1 ปมแล้วนะคะ น้ำฝนกับน้ำฟ้า ไม่ใช่แม่เดียวกันนะคะ ทั้งสองเป็นลูกคนละแม่ แต่เรื่องราวของพ่อแม่ทั้งสองจะเป็นยังไง ติดตามตอนต่อไปนะคะ ใครทายถูกบ้างคะ

แม่น้ำฝนทำไมถึงยอมให้ลูกสาวแต่งงานกับนพดล แผนการคืออะไรนะ ฝากติดตามด้วยค่ะ ทายมาน๊าาา

ขอคนละ 1 ไลค์ 1 เม้นนะคะ เรื่องนี้จะเปิดให้อ่านฟรี 1-2 ชั่วโมงนะคะ

ใครใจโดเนทให้หน่อยน๊าาาให้เป็นกำลังใจหน่อยน๊าาา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel