บทที่ ๕ (อุบัติเหตุ)
บทที่ ๕
(อุบัติเหตุ)
หลังออกมาจากห้องสิริรัตน์ชายหนุ่มก็ตรงไปที่ไนท์คลับ ชายหนุ่มเลือกนั่งที่บาร์เหล้าขวดเหล้าที่นพดลกรอกลงไปในคอเหมือนน้ำเปล่ายังไงยังงั้น
ภาพเหตุการณ์และคำพูดของหญิงสาวยังผ่านเข้ามาในสมองของนพดลไม่หยุดยิ่งคิดเขาก็ยิ่งดื่มก็ยิ่งชัดเจนในความทรงจำ
'โธ่เว้ยย...ออกไปจากหัวกูสักที'
"...พี่ดล...ฮื้อๆๆ ...พี่ดลอย่าไป...ฟังฝนก่อน..ฝนรักแค่พี่ดลคนเดียวนะคะ...เชื่อฝนนะคะพี่ดล"
"พอเถอะน้ำฝน....ปล่อยมือพี่..ถ้าน้ำฝนรักพี่จริงน้ำฝนควรจะหยุดที่พี่คนเดียวแต่ที่น้ำฝนยังเก็บผู้ชายคนนั้นไว้เพราะน้ำฝนลังเล....ในเมื่อพี่มาที่หลัง..พี่จะไปเอง..."
"ไม่นะคะพี่ดลให้โอกาสฝนอีกครั้งนะคะ ฮื้อๆๆๆ "
"หึหึ..ร๊ากหรอร๊ากแล้วทำกับกูอย่างนี้หรอ..โธ่โว๊ย"
"พี่ว่าอะไรนะครับผมได้ยินไม่ถนัดเลย เสียงเพลงมันดังแต่ผมว่าพี่เมามากแล้วนะครับ"
บาเท็นเดอร์หนุ่มได้ยินเสียงลูกค้าขี้โวยวายอะไรสักอย่าง เขาได้ยินไม่ชัดจึงได้ถามกับไปอีกรอบ นพดลมองหน้าบาเท็นเดอร์หนุ่มเลือนลางเต็มทีด้วยสติที่เหลือน้อยลงไปทุกที
"..เพ่ม่ายเมาอาวเหล้ามาอีก อึกอึก"
"พอได้แล้วพี่ พี่ไม่ไหวแล้วนะครับ ให้ผมโทรตามที่บ้านพี่มารับไหมครับ"
"ม่ายต้องมายุ่ง..อาวเหล้ามาอีกแก้วก็พอ"
"แก้วสุดท้ายนะพี่...ผมไม่ขายให้พี่แล้วพี่เมามากแล้วนะครับ"
"ก็บอกว่าม่ายมาวไงวะ พูดม่ายรู้เรื่อง ฮึกฮึก"
หนุ่มบาเท็นเดอร์ยื่นแก้วเหล้าให้นพดลอีกแก้ว แก้วนี้เขาชงอ่อนมากเพราะดูจสากสภาพนพดลไม่ไหวแล้วแน่ๆ
นพดลกระดกเหล้าแก้วสุดท้ายลงคอ ชายหนุ่มหยิบธนบัตรสีเทาวางไว้หลายใบซึ่งเกินค่าเครื่องดื่มแน่นอน เสร็จแล้วเขาจึงเดินโซซัดโซเซออกมาขึ้นแล้วขับออกไปด้วยความเมา
"ฮื้อๆๆ ทามมายน้ำฝนต้องทามแบบนี้กับพี่ ความร๊ากของพี่มันม่ายมีค่าเลยช่ายม่าย ฮื้อ"
"..ให้โอกาศฝนนะคะ ต่อไปนี้ฝนสัญญาฝนจะไม่ยุ่งกับพัทอีก นะคะพี่ดล..ให้โอกาสฝนอีกครั้งนะคะ"
"พอเถอะน้ำฝน...พี่ขออยู่คนเดียวสักพัก..อย่าตามมานะพี่ขอ"
นพดลขับรถส่ายไปส่ายมาตามท้องถนน โชคดีที่ดึกแบบนี้รถราบนถนนไม่ค่อยจะมี ชายหนุ่มคิดถึงแต่เรื่องราวเมื่อตอนเย็น ยิ่งคิดน้ำตาลูกผู้ชายยิ่งไหลออกมาก นพดลเหยียบคันเร่งตามอารมณ์อ่อนไหวของตน ยิ่งร้องชายหนุ่มยิ่งเหยียบจนรถหรูของชายหนุ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ และส่ายไปเรื่อยๆ เช่นกัน
~กริ๊งๆๆ ~
"ครายโทรมาวะ"
~กริ๊งๆๆ ~
"ฮาโหล...ครายวะ"
"พี่ดลคะ พี่ดลอยู่ไหนคะ ฝนเป็นห่วงพี่ดลนะคะ"
"หึหึ...ม่ายต้องมาห่วงกูปายห่วงผัวมึงโน้น.."
"ทำไมพี่ดลพูดกับฝนแบบนี้ละค่ะ ผัวฝนก็พี่ดลไงคะ ฝนไม่ยุ่งกับพัทแล้ว พี่ดลเชื่อฝนนะคะ ฝนรักพี่ดลคนเดียว"
"ม่ายต้องมา......เฮ้ยยยยยย"
เอี๊ยด!!!!!!!
โครม!!!!!!! ....
"พี่ดล...พี่ดลเป็นอะไรคะ...พี่ดลได้ยินฝนไหมคะ"
ตุ๊ดๆๆ ...ตุ๊ดๆๆ ....
นพดลมัวแต่สนใจคนในสายโทรศัพท์ไหนจะอาการเมาที่ขับรถส่ายไปส่าย ทำให้สติสัมปชัญญะในการเอาตัวรอดเป็นศูนย์ รถกะบะแต่งชิ่งขับแข่งกันมาด้วยความเร็ว กะบะสีขาวปาดแซงหน้ารถหรูของนพดล อย่างกระชั่นชิด ทำให้นพดลหักหลบไม่ทัน พุ่งชนท้ายรถกะบะอย่างแรง แรงปะทะเหวี่ยงรถนพดลให้หมุนเคว้งกลางถนน รถเก๋งที่ขับตามท้ายมาด้วยความเร็วหักหลบไม่ทันพุ่งเสยซ้ำไปที่กลางลำของรถหรูที่หมุนอยู่กลางถนน ทำให้รถหรูของนพดลหลุดกระเด็นไปกระแทกเสาไฟฟ้าข้างทาง เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แก้วกระจกหน้ารถแตกละเอียด ตัวนพดลอัดกระแทกติดอยู่ในตัวรถ กว่ากู้ภัยจะมาถึง ชายหนุ่มก็หมดสติ นั่งหายใจรวยรินติดอยู่ในซากรถ
ด่านสิริรัตน์หลังจากสายหลุดจคู่หมั้นหนุ่มหลุดไปแล้ว หญิงสาวก็พยายามโทรซ้ำกับไปอีกหลายสาย แต่ก็ไม่มีคนรับ โทรติดแต่ไม่มีคนรับสิริรัตน์กังวลจนนั่งไม่ติด เธอรักนพดลเป็นเรื่องจริง ถ้าไม่รักเธอคงไม่หมั้นกับชายหนุ่ม จะไม่รักได้ไง นพดลทั้งสุภาพ ทั้งหล่อทั้งรวย และเรื่องอย่างว่าก็ไม่เป็นสองรองใคร นพดลตามใจเธอทุกอย่างจนเธอยอมตกลง หมั้นหมายกับชายหนุ่มในที่สุด
"ฮัลโหลครับ"
"นั่นใครคะ ทำมามารับโทรศัพท์ของพี่ดลค่ะ"
"ผมเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยครับ เจ้าของโทรศัพท์ประสบอุบัติเหตุ ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังใช้เครื่องตัดถ่างงัดเอาตัวผู้บาดเจ็บออกมาจากรถครับ "
"อะ...อะไรนะคะ พี่ดลประสบอุบัติเหตุ"
"ใช่ครับ"
"ที่ไหนคะ ช่วยส่งโลเคชั่นมาให้หน่อยได้ไหมคะ เดี๋ยวฉันทักไลน์พี่ดลไป แล้วพี่ดลเป็นยังไงบ้างคะ"
"อาการหนักอยู่ครับ แต่เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แล้วเสร็จแล้วจะรีบนำส่งโรงพยาบาล ยังไงก็ทักมานะครับเดี๋ยวผมส่งโลเคชั่นเข้าไป คุณเป็นญาติของผู้บาดเจ็บใช่ไหมครับ"
"ฉันเป็นคู่หมั้นค่ะ"
"โอเคครับ รบกวนแจ้งครอบครัวคู่หมั้นคุณให้ด้วยนะครับ"
"ได้ค่ะ ฝากพี่ดลด้วยนะคะ"
สิริรัตน์รีบโทรหาคุณจงจิตต์มารดาของนพดลเป็นการด่วน เพื่อบอกข่าวของนพดลให้ครอบครัวชายหนุ่มทราบ
"ว่าไงลูก..หนูน้ำฝนทำไมโทรมาดึกขนาดนี้ล่ะค่ะ แม่นอนไปแล้วนะคะ "
"ขอโทษคุณแม่ด้วยนะคะ แต่ว่าพี่ดลรถคว่ำค่ะ ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลืออยู่ค่ะ คุณแม่รีบมานะคะ"
"อะไรนะ...ฉันจะเป็นลม..ฟืด..ฟืด...ฮื้อๆๆๆ ....ตาดล ตาดลลูกแม่"
"ตาดลเป็นอะไรคุณจิต"
"คุณพล..ฮื้อๆๆ ตาดล...หนูฝนโทรมาบอกว่าตาดลรถคว่ำ...คุณพลฉันจะเป็นลม...ฮื้อ....."
"คุณแม่อย่าเพิ่งเป็นลมค่ะ รีบมาหาพี่ดลก่อนเถอะค่ะ"
สิริรัตน์กดตัดสายแล้วรับเปลี่ยนเสื้อผ้าขับรถออกไปหาคู่หมั้นทันที ส่วนด้านคุณจงจิตต์กับคุณนวพล บิดามารดาของชายหนุ่มเองก็รีบแต่งตัวออกไปสมทบกับสิริรัตนฺ์เหมือนกัน
"หมอคะ!! ...ลูกชายฉันเป็นอย่างไรบ้างคะ"
"เดี๋ยวหมอขอเข้าไปตรวจก่อนนะครับ"
"คุณหมอช่วยลูกชายดิฉันด้วยนะคะ ช่วยเขาด้วยนะคะ"
"ครับ.."
คุณจงจิตต์จับแขนคุณหมอเขย่าพลางร้องไห้พลางอย่างน่าสงสาร จนคุณนวพลต้องมาดึงมือภรรยาออกเพราะคุณหมอจะได้รีบไปรักษาบุตรชายตน
"คุณแม่จะรั้งคุณหมอไว้ทำไมคะ แทนที่จะให้หมอไปรักษาพี่พล "
"ทำไม..ก็ฉันจะบอกให้คุณหมอช่วยตาดล..ลูกฉัน..ฉันก็ต้องห่วงลูกฉันสิ."
"ห่วงก็ห่วงนั่นแหละค่ะ แต่ที่คุณแม่ทำมันคือการถ่วง"
"เอ๊ะ!!! ยัยน้ำฝน"
"พอๆๆ เถอะคุณจิต พอเถอะหนูน้ำฝน"
"ฉันบอกแล้ว..ว่าไม่เคยอยากให้ตาดลไปหมั้นกับแม่นี้เลย ไม่มีสัมมาคารวะ"
