ตอนที่ 5 :: ยิ่งรู้จักยิ่งน่าสนใจ
ตอนที่ 5
ยิ่งรู้จักยิ่งน่าสนใจ
"คุณเป็นคนกรุงเทพฯ ตั้งแต่เกิดเลยเหรอครับ" พอหญิงสาวยินยอมให้มาส่งบ้าน ระหว่างที่อยู่บนรถภาคินก็หาเรื่องมาชวนเธอคุยทันทีถึงแม้บางเรื่องเขาจะรู้มาแล้วก็ตาม
"ไหนคุณบอกว่าให้คนไปตามสืบประวัติฉันแล้วไงคะ"
"ก็ใช่ครับ แต่เป็นประวัติคร่าว ๆ เพราะงั้นผมว่ามันคงดีถ้าเรามาทำความรู้จักกันต่อหน้าแบบนี้ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมถามคุณก่อน แล้วคุณอยากถามอะไรผมคืนบ้างค่อยถามมาได้เลย โอเคไหมครับ"
"ค่ะ ฉันเป็นคนกรุงเทพฯ" เมื่อไม่รู้จะแย้งอะไรชลธิชาเลยตามน้ำเขาไป
"แล้วคุณอยู่กับแม่แค่สองคนเหรอครับ"
"ค่ะ"
"แล้วพ่อคุณล่ะครับ"
"..."
"เอ่อ...ขอโทษนะครับถ้าผมถามมากไป คุณไม่ต้องตอบก็ได้นะ" ภาคินรีบบอกทันทีเมื่อเห็นว่าร่างบางเงียบไปเมื่อถูกถามถึงพ่อ
"ท่านมีครอบครัวใหม่ไปแล้วค่ะ" ทว่าคนข้างกายกลับยอมตอบออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยราวกับไม่ได้รู้สึกอะไร ภาคินเลยพยักหน้ารับเบา ๆ หากแต่เขาก็รู้สึกได้ว่าภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉยมันคงมีเรื่องราวอะไรมากกว่านั้น
"แล้วคุณ...ยังอยากเรียนต่ออยู่ไหมครับ"
"ค่ะ"
"แล้วอยากเรียนอะไรครับ" ภาคินถามต่อพลางหันมามองเธอไปด้วยระหว่างที่รถกำลังติดไฟแดงอยู่พอดี
"บัญชีค่ะ"
"คุณสนใจด้านนี้เหรอครับ"
"ค่ะ" ชลธิชาตอบเพียงสั้น ๆ พร้อมกับพยักหน้าเบา ๆ
"แล้วทำไมถึงไม่เรียนล่ะครับ"
"ฉันยังไม่มีทุนค่ะ ขอทุนไปก็ไม่เคยได้"
"งั้นยืมผมก่อนไหม แล้วค่อยทำงานใช้ให้ผมทีละนิดก็ได้" ภาคินรีบเสนอเพราะถึงยังไงคนแบบเธอต่อให้เขาให้ฟรี ๆ ก็คงไม่เอาแน่ ๆ
"ไม่เป็นไรค่ะ"
"ไม่เป็นไรได้ไง คุณจะทำงานเก็บเงินไปเรื่อย ๆ ค่อยเรียนแบบนั้นเหรอครับ ผมไม่ได้ให้คุณเฉย ๆ ซะหน่อย ผมบอกว่ายืมก็แสดงว่าคุณต้องคืนผมไงครับ แต่คุณจะคืนตอนไหนหรือเมื่อไหร่ก็ได้ ผมไม่ว่าครับ"
"..."
"แต่ถ้าคุณไม่อยากคืนเป็นเงิน ก็คืนเป็นหัวใจกับความรักให้ผมก็ได้นะครับ ผมยินดีรับไว้ ยินดีมาก ๆ เลย" ว่าพลางกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์มองเธอแบบไม่ละสายตา ทำเอาชลธิชาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะถามเขาบ้าง
"คราวนี้ฉันถามคุณคืนได้รึยังคะ"
"อื้ม เอาสิครับ ถามมาได้เลย"
"ทำไมคุณถึงมาชอบฉันคะ ทำไมถึงเป็นฉัน"
"เพราะคุณทำให้ผมสนใจตั้งแต่แรกเห็นครับ มีอย่างที่ไหนวิ่งเข้าใส่คนร้ายแบบไม่กลัวอะไรเลย ขนาดผมเป็นผู้ชายร่างกายแข็งแรงทั้งแท่งยังไม่กล้าเลย"
"เพราะการไม่มีเงินมันน่ากลัวไงคะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าในกระเป๋าใบนั้นมีเงินกี่บาท แต่จะมีมากมีน้อยมันก็เงิน พอได้เห็นเจ้าของกระเป๋าร้องขอความช่วยเหลืออยู่ต่อหน้าต่อตาแบบนั้นฉันเลยอยู่เฉยไม่ได้"
"คุณคงลำบากมาตลอดเลยสินะครับ ถึงได้เห็นคุณค่าของเงินมากขนาดนี้"
"จะว่าแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอกค่ะ สำหรับคุณคงรวยจนมีหลายครั้งที่คิดว่าจะกินอะไรดีใช่ไหมคะ แต่สำหรับฉันหลายครั้งเลยที่ต้องถามตัวเองว่ามื้อนี้จะเอาอะไรกิน" ชลธิชาพูดออกมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ทว่าสายตาคู่สวยกลับเศร้าหมองลงจนภาคินสังเกตได้
"ผมอาจจะไม่เคยรับรู้ความรู้สึกแบบนั้น แต่ต่อจากนี้ถ้าคุณอยู่กับผม คุณอยากกินอะไรหรืออยากได้อะไรบอกผมได้นะครับ ผมยินดีหามาให้คุณทุกอย่างเลย" ภาคินบอกออกไปจากใจจริง ไม่ได้จะอวดรวยหรืออะไรเลย หากแต่เขาไม่อยากเห็นเธอลำบากเวลาที่อยู่ต่อหน้าเขา
"ไม่หรอกค่ะ ฉันไม่อยากเอาหัวใจมาชดใช้ให้คุณ" ชลธิชารีบปฏิเสธอย่างรู้ทันเขา ทำเอาคนถูกรู้ทันหัวเราะออกมาให้กับความทันคนของเธอ
"หึ ๆ คุณนี่ยิ่งได้รู้จักก็ยิ่งทำให้ผมสนใจคุณมากขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะครับ รู้ตัวรึเปล่า" บอกยิ้ม ๆ พลางมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์อีกแล้ว ชลธิชาเลยทำได้แค่ถอนหายใจแล้วส่ายหน้าเบา ๆ
"แต่รู้ไหมครับว่าไม่มีผู้ชายคนไหนอยากให้คนที่ตัวเองชอบลำบากหรอกนะครับ ผมเองก็เหมือนกัน"
"แต่ฉันก็เป็นผู้หญิงที่ไม่ชอบพึ่งพาใครเหมือนกันค่ะ ฉันชอบพึ่งพาตัวเองมากกว่า" ชลธิชารีบค้าน นั้นเลยทำให้ภาคินมองเธอแล้วระบายยิ้มออกมาอีกครั้งด้วยความประทับใจกับคำพูดของเธอ
"หึ ๆ เนี่ยเห็นไหม คุณทำให้ผมสนใจคุณมากขึ้นอีกแล้ว" ว่ายิ้ม ๆ อีกครั้ง ทำให้ชลธิชาถอนหายใจออกมาอีก
นี่เธอคิดผิดหรือคิดถูกกันแน่ที่พูดออกไปแบบนั้นจนมันเป็นการเปิดทางให้เขาแบบนี้
