ตอนที่ 2 :: ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ตอนที่ 2
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
"หนูไปนะคะแม่" ชลธิชายกมือไหว้ผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้กำลังนั่งฟังวิทยุอยู่บนวีลแชร์ เมื่อถึงเวลาที่เธอต้องออกไปหางานอีกแล้ว
"แม่ว่าแม่ทำขนมขายช่วยหนูอีกแรงดีไหมลูก" อรดีเสนอเพราะเธอไม่อยากให้ลูกลำบากคนเดียว เพราะตั้งแต่ปีที่แล้วที่เธอต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างไปจนกลายเป็นคนพิการท่อนล่างและใช้การได้แค่ท่อนบน ภาระทุกอย่างก็ตกอยู่ที่ลูกสาวเพียงคนเดียว ยังดีที่เธอช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่างด้วยการใช้มือทั้งสองข้างจนเริ่มชินแล้ว
"ไม่เป็นไรค่ะแม่ เงินเก็บหนูยังพอมีเหลืออยู่บ้าง แม่ไม่ต้องคิดอะไรมากนะคะ" ชลธิชาพยายามฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้มารดาเป็นกังวลเพราะเธอ
"หนูไปนะคะ แล้วหนูจะรีบกลับมาค่ะ"
"จ้ะ โชคดีนะลูก ขอให้ได้งานเร็ว ๆ นะ" สุดท้ายคนเป็นแม่ก็ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน ชลธิชาเลยโน้มตัวลงมากอดเพื่อขอกำลังใจจากแม่ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเธอ
"หนูก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นค่ะ" ว่าจบก็ผละตัวออกแล้วยิ้มให้ผู้เป็นแม่อีกครั้ง ก่อนเธอจะเดินมาเปิดประตูบ้าน ทว่าพอเปิดประตูออกมาสายตาที่กำลังเศร้าก็ปะทะเข้ากับกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งติดอยู่บนประตูบ้านของเธอ
"ประกาศรับสมัครงานด่วน" ริมฝีปากบางอ่านข้อความบนกระดาษถึงรายละเอียด คุณสมบัติผู้สมัคร รวมไปจนถึงสถานที่ทำงานแล้วยิ้มออกมาทันที
"ดีจัง รับวุฒิม.6 ด้วย อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ ขอให้ได้ทีเถอะสาธุ ๆ" พูดพลางพนมมือไว้เหนือหัว เพราะหลังจากที่ถูกไล่ออกจากที่ทำงานเดิมชลธิชาก็หางานใหม่มาตลอด ทั้งเดินหาเอง ทั้งสมัครออนไลน์ แต่สุดท้ายก็ยังเงียบ ครั้งนี้งานนี้จึงกลายเป็นความหวังของเธอ แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่เธอเรียกว่าบังเอิญนั้น แท้จริงแล้วมันคือความตั้งใจของใครอีกคนต่างหาก
เวลาต่อมา
ผับของภาคิน
"สวัสดีค่ะ" ชลธิชาเดินเข้ามายังประตูทางเข้าของผับซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครงานตามรายละเอียดบนประกาศ ก่อนร่างสมส่วนจะยกมือไหว้ชายในชุดสูทที่ยืนอยู่หน้าผับอย่างสุภาพ
"สวัสดีครับ ติดต่อเรื่องอะไรครับ" ร่างสูงของไม้ที่ได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนายให้มายืนรอรับเธอเอ่ยถามกลับอย่างสุภาพ แม้จะรู้ดีอยู่แล้วว่าเธอมาทำไม
"ฉันมาสมัครงานค่ะ ไม่ทราบว่ายังรับอยู่ใช่ไหมคะ"
"รับครับ ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณผู้หญิงตามผมมานะครับ เดี๋ยวผม...พาขึ้นไปสมัครกับเจ้านายผมเลย" ไม้ตอบยิ้ม ๆ เมื่อนึกถึงผู้เป็นนายที่รอเธออยู่อย่างใจจดใจจ่อ ก่อนจะเดินนำเธอขึ้นไปยังห้องทำงานของภาคินทันที
"เชิญครับ" ไม้เปิดประตูแล้วผายมือให้เธอเข้าไปในห้องอย่างสุภาพ ชลธิชาเลยโค้งศีรษะพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณเขาที่สุภาพกับเธอขนาดนี้ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
"สวัสดีค่ะ" พอเข้ามาถึงแล้วเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งประจำอยู่ที่โต๊ะพลางมองมาที่เธอ ชลธิชาก็รีบยกมือไหว้ด้วยความสุภาพเพราะพอเดาออกว่าคนนี้คงเป็นเจ้าของที่นี่แน่นอน
"สวัสดีครับ เชิญนั่งก่อนสิ" ภาคินบอกยิ้ม ๆ ขณะผายมือให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าเขา แล้วระหว่างที่เธอนั่งลงร่างหนาก็แอบลอบมองใบหน้าของเธอเงียบ ๆ แล้วแอบยิ้มอยู่ในใจ
'เม็ดฝน'
ภาคินเอ่ยชื่อนี้แล้วเดินไปรอบ ๆ ห้องระหว่างที่รอให้เธอมาหาเขาที่นี่ แล้วพอเธอมาจนเขาได้ใกล้ชิดเธอขนาดนี้ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายที่ไม่เคยเต้นแรงเวลาอยู่ใกล้ใครก็ดันมาเต้นแรงเพียงแค่ได้ใกล้กับเธอแค่นี้
เม็ดฝนมีใบหน้ารูปไข่ จมูกไม่ได้โด่งมากแต่รับกับริมฝีปากกระจับสีชมพูตามธรรมชาติที่ไม่ได้แต่งเติมอะไรมากมาย พวงแก้มเนียน คิ้วโก่งได้รูป ผิวพรรณสีน้ำผึ้งภายใต้ชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขายาวสีดำอย่างสุภาพ ความสูงของเธอถ้าให้เดาภาคินคิดว่าคงประมาณร้อยหกสิบกว่า ๆ ส่งผลให้เธอมีรูปร่างที่สมส่วนไม่บอบบางจนเกินไป
รวม ๆ แล้วรูปร่างหน้าตาของเธอดีพอสมควรเลยก็ว่าได้
"ดิฉันมาสมัครงานค่ะ" เห็นคนตรงหน้าเอาแต่มองชลธิชาเลยรีบพูดขึ้น ภาคินเลยกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อเรียกสติตัวเองแล้วส่งยิ้มให้เธอ
"ขอโทษทีนะครับ พอดีผมเบลอ ๆ" (เพราะหลงรักเธอเข้าแล้ว) ริมฝีปากหนาตอบไป หากแต่ประโยคท้ายเขาเติมเอาเองในใจ
"ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่ฉันต้องทำอะไรบ้างคะ มีใบสมัครงานให้ไหม"
"อ้อ มีครับ คุณกรอกได้เลย กรอกเสร็จเดี๋ยวผมจะสัมภาษณ์แล้วพิจารณาวันนี้เลย" บอกยิ้ม ๆ ขณะยื่นใบสมัครที่เขาตั้งใจเตรียมเอาไว้แล้วให้เธอ ชลธิชาเลยรีบรับมากรอกอย่างมีความหวังในใจเล็ก ๆ เพราะอย่างน้อยที่นี่ก็สัมภาษณ์และประกาศผลวันนี้เลย ไม่ต้องรอนานเหมือนที่อื่น
