บทที่ 8/3
“พี่ดีใจที่ได้รู้จักน้ำหวานนะคะ”
พูดจบภัทรพลก็ก้มลงไปสัมผัสเรียวปากสวย แล้วซอกซอนลิ้นเข้าไปตวัดรัดเกี่ยวคนตัวเล็กกว่า ร่างบางขาสั่นเหมือนจะยืนไม่ไหว เอื้อมมือมาคว้าไหล่เขาไว้เพื่อเป็นหลักยึด ภัทรพลจูบต่อไปไม่นาน เรียวลิ้นหวานเล็กก็ตอบสนองต่ออย่างน่ารักน่าใคร่ เรียกเสียงครางฮือจากคนที่โตกว่า ชายหนุ่มช้อนอุ้มหญิงสาวไปวางที่โซฟา มองคนตัวเล็กที่ตอนนี้ปากบวมเจ่ออย่างเสน่หา เอื้อมมือไปถอดชุดสูทออกจากตัว แล้ววางพาดไว้ที่โซฟา ปลดเนคไทออกวางไว้คู่กันป้องกันเสื้อผ้ายับตอนใส่กลับบ้าน เมื่อถอดท่อนบนแล้วเขาก็ก้มลงไปทาบทับร่างบางที่นอนเอนหลังพิงโซฟาอยู่ ประกบปากเข้าจูบหญิงสาวอีกครั้งไล้เลียไปทั่วกลีบปากนุ่ม สลับดูดดึงปากอิ่มจนบวมเจ่อขึ้นมาอีกรอบ มือปลดกระดุมถอดเสื้อเชิ้ตออกจากตัวท่อนล่างคับแน่นดุนดัน จึงยืนขึ้นถอดกางเกงวางพาดไว้ เหลือเพียงบ็อกเซอร์สีขาวตัวเดียวติดกาย
นลินีมองภัทรพลด้วยความเสน่หา
‘เขาเป็นของเธอ’
ผู้ชายของเธอช่างหล่อเหลา สายตากวาดมองไปทั่วร่างอย่างชื่นชม
‘เธออยากสัมผัสเขา’
เหมือนภัทรพลจะอ่านแววตาของเธอออก จึงลดตัวลงไปหา จับมือบางมาวางที่หน้าท้องแกร่ง ชักนำมือน้อยให้ลูบไล้ไปทั่วแผ่นท้อง นำมือเธอให้สอดลึกลงไปในกางเกง นลินีสะดุ้งกับความใหญ่โตที่สัมผัส พยายามชักมือออกภัทรพลกอบกุมมือน้อยไว้ แล้วสะกดสายตาเธอด้วยตาคมของเขา หญิงสาวร้อนผ่าวไปทั้งตัว รู้สึกเสียวซ่านทั้งที่ยังมีเสื้อผ้าครบทุกชิ้น
“พี่อยากให้น้ำหวานสัมผัสพี่ นะคะ”
ถ้อยคำออดอ้อนออกมาจากปาก นลินีจึงสัมผัสเขาตามการชักนำของมือหนา ลูบไล้กายแกร่งขึ้นลง ภัทรพลสลัดบ็อกเซอร์ออกจากตัว มือน้อยที่เร่ิมเป็นงานทำหน้าที่ของตน ยิ่งรูดดูเหมือนเขายิ่งใหญ่โตขึ้น มือเธอสั่นไปหมดภัทรพลใช้สองมือดึงกางเกงรัดรูปออกจากตัวหญิงสาว เหลือเพียงแพนตี้ตัวเล็กที่ปกปิดความเป็นหญิงไว้ เขากรีดนิ้วเรียวตามร่องเสียวโดยที่ยังมีแพนตี้ขวางกั้นอยู่ร่างบางบิดตัวหนีด้วยความเสียว ภัทรพลลดตัวลงนั่งด้านล่างโซฟาจับขาเธอยกขึ้น ดึงกางเกงตัวน้อยออกแล้วรูดทิ้งทางปลายเท้า
เมื่อความเป็นหญิงปรากฎตรงหน้า เขาดึงสะโพกกลมมนให้มาอยู่ตำแหน่งเดียวกับใบหน้า ก้มลงไปไล้เลียที่เนินสาวอย่างหิวกระหาย กวาดลิ้นไปทั่วร่องรูเรียกเสียงครวญครางปานจะขาดใจจากคนตัวเล็กใช้สองนิ้วสอดเข้าไปในร่องรูที่เยิ้มไปด้วยน้ำสวาทเธอตอดรัดเขาแน่นมาก ภัทรพลพยายามดันมือเข้าออกพลันเกิดเสียงแจ๊ะๆ ขึ้น นลินีบิดตัวเกร็งเมื่อความสุขมาเยือนหวีดร้องเสียงดังลั่น ร่องรูสาวตอดรัดนิ้วชายหนุ่มแทบขาด ภัทรพลปล่อยให้เธอซึมซับความเสียว เลื่อนตัวขึ้นไปจูบปากให้เธอได้ลิ้มลองรสชาติของตนเอง
“อื้ม”
นลินีครางเมื่อได้สัมผัสรสชาติของตนเองจากปากของเขา
“ดีไหมคะ”
ภัทรพลถามพิศมองหน้าสวยที่แววตาเต็มไปด้วยความปรารถนาสอดมือเข้าไปปลดตะขาบรา แล้วลูบวนไปทั่วสองเต้าดึงเสื้อยืดออกจากตัว แล้วก้มลงไปดูดดึงสองเต้า นลินีเสียวจนต้องจิกผมเขาไว้ ภัทรพลควานหาเครื่องป้องกันในกระเป๋ากางเกงที่ถอดไว้ข้างตัว จัดการฉีกซองแล้วสวมเข้ากับตัวตนแข็งแกร่งละปากจากอกขาว แล้วลุกขึ้นนั่งบนโซฟา จับหญิงสาวมานั่งตักให้แผ่นหลังเธอพิงอกกว้าง นลินีรู้สึกถึงความดุนดันที่บั้นท้าย พยายามจะขยับ
“อ้า น้ำหวานยกสะโพกนิดนึงค่ะ”
ภัทรพลเอ่ยปากด้วยความเสียว ค่อยๆ สวมสอดตัวตนของตนเองเข้าไปในร่องฟิต
“อ้าพี่พีท ท่านี้มัน..”
นลินีกัดปากจนเจ็บไปหมด
“ดีใช่ไหมคะ”
แค่คำว่าดีคงไม่พอที่จะบรรยายความรู้สึกของเธอในตอนนี้นลินีคิด มันเสียวจนเธอแทบจะทนไม่ได้ ยิ่งมือเขาเอื้อมมาสัมผัสเต้าทรวงอิ่มแล้วขยี้ขย้ำอย่างเมามัน มือหนึ่งก็ยกสะโพกสาวขึ้นลงเป็นจังหวะ ยิ่งทำให้เธอเสียวจนภายในตอดตุบ ตุบ
“น้ำหวานเซ็กซี่มาก ดูตัวเองในกระจกสิคะ”
นลินีมองตามที่ชายหนุ่มบอกเห็นเงารางๆ จากกระจกห้อง ที่ด้านนอกเป็นแสงไฟจากบ้านเรือนฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำเจ้าพระยาเธอรู้ว่ากระจกเป็นกระจกฝั่งเดียวคนข้างนอกมองเข้ามาไม่ได้ แถมห้องยังสูงถึงชั้น 34 แต่พอคิดว่าเธอกำลังร่วมรักกับเขาในขณะที่คนข้างนอกกำลังใช้ชีวิตอยู่ แถมภาพเงาที่สะท้อนท่าทางการร่วมรักในกระจก ก็ทำให้เสียวจนต้องเสร็จอีกรอบ ข้างในรัดแน่นน้ำเสียวอาบแท่งเอ็นของเขาจนรู้สึกได้ถึงความฉ่ำแฉะ ภัทรพลยกตัวของหญิงสาวออก แล้วถอดถอนลำเอ็นออกจากร่องรักที่อาบไปด้วยน้ำหวานจากตัวเธอ เขาจับเธอหันหลัง กดหลังบอบบางลงขนานกับพื้น ให้เธอจับพนักโซฟาไว้ สอดตัวตนของเข้าเข้ามาอีกรอบ แล้วขยับสะโพกเข้าออก เสียงดังจากการร่วมรักในจังหวะเร้าใจ เขาดึงแขนข้างหนึ่งของเธอมาข้างหลัง ในขณะที่ขยับสะโพกเข้าออกรวดเร็ว
“พี่พีทน้ำหวานเสียว อื้มไม่ไหว ไมไหว”
ร่างสาวแทบทรุดกับความเสียวที่มากล้น ภัทรพลพยุงเธอเอาไว้แล้วอัดสะโพกสอบเข้าหนักๆ ความสุขมากมายทะลักออกมา เสียงคำรามลั่นดังไปทั่วห้อง
“น้ำหวาน อ่าส์”
ภัทรพลเรียกชื่อเธอ พร้อมกับปลดปล่อยสายธารทุกหยาดหยดลงบนเครื่องป้องกัน เมื่อเสร็จภารกิจแล้ว ภัทรพลเหลือบมองนาฬิกาที่ผนังห้องบอกเวลาสี่ทุ่ม
‘น่าจะได้อีกยก’ จึงอุ้มหญิงสาวเข้าไปอาบน้ำล้างตัว โดยที่ไม่ลืมถือเครื่องป้องกันเข้าไปด้วย
“ห้องไหนคะ เดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำน้ำหวานขาสั่นหมดแล้ว”
“พี่พีทคะ น้ำหวานไม่ไหวแล้วค่ะ”
เธอตัดพ้อ
“พี่พาไปอาบน้ำอย่างเดียวค่ะ รับรองไม่รังแกในห้องน้ำ”
แต่จะทำในห้องนอนแทนชายหนุ่มคิด เมื่ออาบน้ำล้างตัวเสร็จแล้ว ภัทรพลก็อุ้มนลินีมาวางที่เตียง ร่างเล็กหลับไปทันที ภัทรพลมองภาพคนหลับไปอย่างเสียดาย จึงเอนตัวลงนอนข้างๆ กะว่าให้พักสักงีบค่อยต่อ แต่เมื่อเอนกายลงนอนก็หลับตามเธอไปทันที
ขณะที่ภัทรพลกำลังสำเริงสำราญกับผู้หญิงอีกคนอยู่นั้น ศศินาที่เปิดเน็ตฟลิกซ์ดูฆ่าเวลาขณะรอแฟนหนุ่ม ก็หาวแล้วหาวอีกเพราะความง่วง เนื่องจากเร่งทำแผนการตลาดที่ค้างอยู่มาหลายคืนติด ประกอบกับคืนก่อนหน้านั้นที่แฟนหนุ่มไม่สบาย ก็หมั่นตื่นขึ้นมาคอยวัดไข้ เพราะกลัวเขาจะมีไข้กลางดึก ด้วยความเพลียจึงเผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีตอนเที่ยงคืน เลยลองโทรหา กะว่าถ้าเขาเมาจนขับรถไม่ไหว เธอจะได้ออกไปรับ กดโทรห่างกันทุกห้านาทีก็ไม่รับสาย เลยส่งข้อความไปถาม
“พีทดื่มหรือเปล่า ถ้าขับรถไม่ไหวบอกนะ จะไปรับ”
ส่งไปแล้วก็เงียบไร้การตอบกลับใดใด ศศินาคิดในแง่ดีว่า เขาอาจจะไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ จึงนอนดูหนังที่รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง จนเผลอหลับไปในที่สุด
ฝั่งของภัทรพลรู้สึกตัวตื่นอีกทีก็ตกใจ
‘เชี่ยกี่โมงแล้ววะ’
