ตอนที่ 3 เพื่อน
เมื่อเพื่อน ๆ แยกย้ายกันไปหมดและธามคีรีก็เดินหายไปกับสาวรุ่นน้องปี 2 หลังจากที่ไม่พอใจเธอ เฌอแตมที่อ้างว่ามีนัดคุยเรื่องงานจึงไม่ได้ตามเพื่อนคนอื่นไปเมื่อทุกคนชวนกันไปหาอะไรทานคั่นเวลาเพื่อรอเรียนคาบสุดท้ายของวัน แต่ที่จริงแล้วเธออยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ สักพัก เพื่อทบทวนหัวใจและการกระทำของตัวเองมากกว่า
ความจริงแล้วธามคีรีไม่ผิดเลยสักนิด ไม่ว่ามันจะมีแฟนหรือมีคู่หมั้นหรือจะมีเมียมันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเพื่อนที่เธอไม่ควรเอามาหงุดหงิดใส่มันด้วยซ้ำ เมื่อนึกถึงท่าทางโกรธ ๆ ของมันเมื่อครู่แล้วเธอก็รู้สึกผิดลึก ๆ ที่เผลอเอาอารมณ์ส่วนตัวมาอยู่เหนือความจริงจนทำให้เพื่อนที่ดีกับเธออย่างมันต้องโกรธ
"กูขอโทษที่เผลอเอาความรู้สึกมาฟาดฟันใส่มึง ต่อไปนี้กูจะพยายามเป็นเฌอแตมคนเดิม คนที่เป็น..เพื่อน..ของมึงนะธาม" เฌอแตมพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะนั่งปรับอารมณ์ของตัวเองสักพักแล้วเดินขึ้นเรียนคาบสุดท้ายเมื่อได้เวลา
บรรยากาศการเรียนในคาบสุดท้ายไม่ได้น่าอึดอัดเท่าไหร่เหมือนที่ทุกคนคิด เมื่อเฌอแตมและธามคีรีกลับมาพูดคุยกันเหมือนเดิม ซึ่งก็เป็นเฌอแตมที่ปรับอารมณ์ให้เป็นปกติแล้วชวนธามคีรีคุยเหมือนก่อนหน้านี้ไม่ได้มีเรื่องขุ่นเคืองใส่กัน
"มึงไปเที่ยวกับไอ้พวกนั้นหรือเปล่าคืนนี้" เธอหันไปถามธามคีรีเมื่ออีกฝ่ายนั่งลงโต๊ะข้าง ๆ
"ดูก่อน" ธามคีรีตอบเรียบ ๆ
"ไปเถอะพวกมันวางแผนกันแล้ว ไม่ครบองค์เดี๋ยวจะไม่สนุก"
"มึงทำงานจะครบองค์ได้ไง"
"เออน่า เดี๋ยวเลิกงานตามไป ร้านเหล้าที่กูทำก็เลิกแค่เที่ยงคืนนั่นแหละ" เฌอแตมพยายามพูดโน้มน้าวให้ธามคีรีไปกับเพื่อนคนอื่น ๆ เพราะไม่อยากให้ทุกคนหมดสนุก
"เดี๋ยวนี้รับงานร้านเหล้าด้วยเหรอ ไหนมึงบอกจะทำแต่งานร้านกาแฟและเสริ์ฟอาหารเท่านั้น" น้ำเสียงเรียบนิ่งถามก่อนจะหันไปมองด้วยสายตาราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นนักโทษ
"กูเรียนปี 3 จะขึ้นปี 4 แล้วนะธาม ค่าใช้จ่ายมันก็มากขึ้นกูก็ต้องหารายได้เพิ่มสิ"
"แต่มันเสี่ยง มึงก็รู้ร้านเหล้ามีแต่เสือ สิงห์ กระทิงดุที่มันจ้องแต่จะถึงเนื้อถึงตัวมึง" ธามคีรีกดเสียงต่ำไม่ให้เสียงดังจนใครได้ยิน ดีที่ตอนนี้เขาและเฌอแตมนั่งอยู่มุมห้องด้านหลังเพราะเข้าห้องทีหลังคนอื่น
"เออ กูรู้กูดูแลตัวเองได้มึงไม่ต้องห่วง"
"แล้วกลางวันมึงเป็นอะไรถึงฟาดงวงฟาดงาใส่กู" ธามคีรีถือโอกาสถามหาสาเหตุที่ยังติดใจเขาไม่หายเรื่องเมื่อกลางวันที่ผ่านมา
"ก็...ไม่ ไม่มีอะไร กูคงเมนส์มามั้งอารมณ์เลยขึ้น ๆ ลง ๆ มึงอย่าใส่ใจเลย" เฌอแตมตอบปัด ๆ พยายามทำตัวไร้พิรุธแต่มันก็ยิ่งมีพิรุธในสายตาของธามคีรี
"เมนส์มึงมาทุกวันที่ 15 และมันก็มาตรงทุกเดือนมึงอย่ามาโกหก" ธามคีรีดักคอเมื่อเฌอแตมโกหกเขา คนอื่นเขาไม่รู้แต่สำหรับทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเพื่อนสาวคนนี้เขาจำได้ทุกอย่าง และอย่าหวังว่ามันจะโกหกอะไรเขาได้ง่าย ๆ
"ให้มันน้อย ๆ หน่อยมึงอ่ะ ทำตัวเหมือนผัวกูไปทุกวันละ" เฌอแตมหันไปเอ็ดธามคีรีเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองรอบตัวอย่างระแวงกลัวว่าใครจะได้ยิน
"อยากให้ลองเป็นหรือเปล่าล่ะผัวมึงน่ะ" เฌอแตมหันไปมองหน้าธามคีรีคล้ายตกใจอีกครั้ง แม้คำพูดของมันจะดูทีเล่นทีจริงแต่สายตาของมันที่มองมาก็ทำเธอปั่นป่วนใจไม่น้อย
"กูไม่ใช่ว่าที่คู่หมั้นมึงนะธาม" เฌอแตมเผลอพูดประชดออกมา ไม่ว่ามันจะพูดเล่นหรืออะไรก็แล้วแต่หากว่ามันเล่นกับใจของเธอมันก็ไม่ใช่เรื่องดีทั้งนั้น
"เรื่องนี้ใช่มั้ยที่เป็นสาเหตุให้มึงหงุดหงิดใส่กู" ธามคีรีถามกลับไปทันทีเช่นกัน
เฌอแตมรู้สึกอยากตบปากตัวเองหนัก ๆ ที่ปากไวกว่าความคิด เธอพยายามแล้วนะ พยายามที่จะไม่พูดอะไรให้มันต้องเข้าตัว แต่ใจเจ้ากรรมแม่งไม่ร่วมมือเลยจริง ๆ แล้วก็เปิดทางให้ไอ้หน้าหล่อข้าง ๆ ต้อนให้จนมุมอีกจนได้
"มึงหมายถึงเรื่องอะไร" เธอยึดอกถามแม้ในใจจะหวั่น ๆ ไม่รู้จะกลัวอะไรมันนักหนาทั้งที่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เวลานี้อยากจะลุกไปสะกิดเพื่อนในคลาสให้แลกที่นั่งกับเธอจริง ๆ ไม่อยากนั่งใกล้เพื่อนอย่างธามคีรีเลยสักนิด
"มึงรู้กูหมายถึงอะไร"
"กูไม่รู้ และกูก็ไม่อยากเสือกเรื่องของมึงด้วยค่ะ"
"มึงแน่ใจ" ธามคีรีก้มหน้าถามเสียงต่ำ
เฌอแตมส่งสายตาค้อนมาให้เมื่อธามคีรีทำท่าว่าจะต้อนเธอจนมุมให้ได้ และก่อนที่มันจะบีบเอาคำตอบจากเธอจนกว่ามันจะพอใจอาจารย์ก็เดินเข้าคลาสมาเสียก่อน เฌอแตมถอนใจดังเฮือกราวกับมีระฆังมาช่วยชีวิตเธอไว้
"ไม่ต้องถอนหายใจขนาดนั้น ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเคลียร์กัน..อย่าพึ่งดีใจไป" คำพูดและสีหน้าคาดโทษของธามคีรีทำเฌอแตมอยากจะทุ่มหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะใส่หน้าหล่อ ๆ นั้นสักครั้งจนมันหายหล่อเลยทีเดียว
"เจอกันคืนนี้นะเพื่อน" แชมเปญโบกไม้โบกมือให้ทุกคนหลังจากจบคลาสและกำลังจะแยกย้ายกันกลับเพื่อพบกันอีกครั้งคืนนี้ตามสถานที่นัดเดิมที่รู้ ๆ กัน
"เออ เจอกันสามทุ่มใครช้าเลี้ยง" เฟียสไล่สายตาแล้วชี้นิ้วไปยังทุกคน
"อ่าว ๆ งั้นกูก็ได้เลี้ยงสิกูเลิกงานดึก" เฌอแตมแย้งขึ้นมาเหมือนไม่ยอม
"ยกเว้นมึงครับเพื่อนสาวคนสวย กรณีพิเศษ" เฟียสหันมาพูดกับเฌอแตมเสียงหวาน
“ดีมากค่ะเพื่อน” เฌอแตมยิ้มหวานตอบเฟียส
"แหวะ!! กูจะอ้วกไอ้เฟียสนั่นเพื่อนมึง" แชมเปญดักคอทันควัน
"กูรู้..แม่งมึงนี่ชอบดักคอตลอด เบรคซะจนกูได้กลิ่นไหม้ไปหมดละ" เฟียสว่าอย่างเซ็ง ๆ
เฌอแตมหัวเราะคิกคักกับสงครามเล็ก ๆ ของเพื่อนแล้วกวาดสายตาไปหาทุกคน ก่อนจะหุบยิ้มเมื่อปะทะสายตากับธามคีรีที่มองมายังเธอนิ่ง
"ถ้างั้นเจอกันคืนนี้ กูขอตัวก่อนนะต้องรีบไปเตรียมตัวเข้างาน" เฌอแตมตัดบท หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง
"เดี๋ยวไปส่ง" ธามคีรีเอ่ยเมื่อเฌอแตมตั้งท่าจะเดินจากไป ในขณะที่เพื่อนคนอื่นแยกตัวไปกันไปหมดแล้ว
แชมเปญไปกับเตชินเพราะไม่ได้เอารถมาและที่พักอยู่ทางเดียวกัน ส่วนมิ้น วายุ และเฟียสต่างก็เดินไปที่รถใครรถมัน
"ไม่เป็นไรกูเกรงใจ เดี๋ยวกูนั่งรถเมล์ไปลงปากซอยร้าน ร้านอยู่ไม่ไกลถนนเท่าไหร่มึงกลับบ้านเถอะ"
"จะ ไป ส่ง" ธามคีรีย้ำความต้องการของตัวเองช้า ๆ ชัด ๆ ด้วยสายตาแน่วแน่
"มึงกำลังเอาแต่ใจ"
"และมึงก็ชอบขัดใจ"
"แต่เรื่องนี้มันเรื่องส่วนตัวกูนะธาม"
"สำหรับกูมึงมีเรื่องส่วนตัวด้วย?" ธามคีรีขมวดคิ้วถามและยังคงไม่ยอมง่าย ๆ หากวันนี้เขาไม่ได้ไปเห็นร้านที่เฌอแตมทำงานกับตาอย่าหวังว่าเขาจะยอม
"มันก็เหมือนที่มึงก็ยังมีเรื่องที่ไม่อยากให้กูรู้นั่นแหละ" เฌอแตมเริ่มโมโหกับความพูดไม่รู้เรื่องของคนตรงหน้าแล้วรีบเดินห่างออกไป แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวเธอก็ต้องตกใจสุดขีด
ว๊าย!!
ธามคีรีเดินตามมาล๊อคคอเฌอแตมจากด้านหลังไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัวจนเธอถึงกับเซ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกอดคอเธอไว้แล้วบังคับให้เดินไปพร้อม ๆ กัน
"ธามทำไรตกใจหมด ปล่อย! คนมองกันใหญ่แล้ว" เฌอแตมพยามยามดิ้น แต่มันก็ไม่ง่ายเลยเพราะดิ้นมากคนก็จะยิ่งจับตามอง
"เลือกเอาเลยแตมว่าจะให้กูกอดคอเดินหรือโอบเอวเดินไปที่รถกู มึงมีแค่สองทางเลือก"
"มึงอย่ามาบังคับ" เฌอแตมกัดฟันพูดให้ได้ยินกันสองคน
"กูไม่ได้บังคับแต่ขอความร่วมมือครับ...เพื่อน"
หนึ่งวันก่อนหน้านี้
"วันนี้ไอ้ธามไม่มาเรียนเหรอวะ" แชมเปญหันหน้ามาถามทุกคนในขณะที่กำลังรออาจารย์ในคาบเรียนแรกของวัน
"เออหว่ะ ปกติก็ไม่เคยมาสายนี่" มิ้นเสริม
"ไม่มา วันนี้มันมีธุระกับที่บ้าน" เตชินที่รู้สาเหตุการลาของเพื่อนบอกกับทุกคน
"เอ๊า!! แล้วทำไมมันไม่บอกในไลน์กลุ่ม ทำไมบอกมึงคนเดียว"
"มึงรู้หรือเปล่าไอ้แตมว่ามันลาวันนี้" แชมเปญเปลี่ยนไปถามเฌอแตมเหมือนกับว่าเธอจะรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับธามคีรี
"กูไม่ใช่เมียมันจะรู้ได้ไง" เฌอแตมตอบไปตามจริงเพราะเธอเองก็พึ่งรู้ตอนนี้ว่าธามคีรีไม่มาเรียน ปกติมันจะบอกเธอทุกครั้ง ครั้งนี้เธอจึงแปลกใจเช่นกันว่าทำไม
"อ่าวเหรอ กูนึกว่าใช่ 555"
จิ๊!!
"มึงเป็นเพื่อนครับไม่ใช่เมีย มันไม่ต้องรายงานมึงทุกเรื่องหรอกครับ" วายุรีบพูดดักคอความอยากรู้อยากเห็นของแชมเปญ
"โว๊ะ! กูแค่สงสัย ปกติจะคุยกันในในไลน์ไง" แชมเปญเถียงกับวายุ
"เลิกเถียงกันได้ละ มันมีธุระกับที่บ้านเรื่องว่าที่คู่หมั้นของมัน" เตชินพูดตัดความรำคาญออกไป เพราะเมื่อคืนเขาพึ่งได้คุยกับธามคีรีแต่ก็ไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรมากนัก
"ห๊ะ!! ว่าที่คู่หมั้น" เสียงประสานของแชมเปญและมิ้นดังขึ้นพร้อมกันจนเพื่อนในคลาสหันมามองเป็นตาเดียว
ทั้งเฌอแตม แชมเปญ และมิ้น ต่างก็ตกใจในสิ่งที่เตชินบอก เพราะไม่มีใครระแคะระคายเรื่องของธามคีรีเรื่องนี้สักนิด และเจ้าตัวก็ไม่เคยเล่าอะไรให้เพื่อนฟังเช่นกัน
เฌอแตมรู้สึกใจหายบอกไม่ถูกกับสิ่งที่ได้ยินจากเตชิน แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่ตกใจ แต่มันคือความเสียใจแบบไม่ทันตั้งตัวมากกว่า เธอแอบมีใจให้เพื่อนคนนี้มานานแล้ว แต่คำว่าเพื่อนทำให้เธอต้องคอยหมั่นทำลายความรู้สึกของตัวเองที่มันมากกว่าเพื่อนอยู่ตลอดเวลา และพยายามที่จะถอยออกมาด้วยการปฏิเสธความช่วยเหลือที่มันชอบหยิบยื่นให้ พร้อมรักษาระยะห่างเอาไว้ไม่ให้เกินคำว่า...เพื่อน
