บทที่ 9
บทที่ 9
สีหน้าของมิลินต่างจากสองวันแรกของการไปมหาวิทยาลัยอย่างสิ้นเชิง หน้าตาของเธอสดชื่นเดินฮัมเพลงจากชั้นสองลงมาหาพ่อแม่ที่โต๊ะอาหาร
“วันนี้ลูกสาวพ่ออารมณ์ดีจัง” บิดาของเธอเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ
“อารมณ์ดีสิคะ ก็เมื่อวานไปช็อปปิงมา” มารดาเหล่ตามองไปทางมิลิน ทั้งยังเอ่ยเสียงเรียบเพราะเมื่อหลายวันก่อนมิลินเพิ่งบอกว่าจะงดช็อปปิง แต่เมื่อวานก็ยังไปห้างและซื้อกระเป๋าติดกลับมา
“กระเป๋าสตางค์ใบละไม่กี่พันเองค่ะแม่ ที่มิลินอารมณ์ดีเพราะวันนี้ไม่ต้องเข้ากิจกรรมรับน้องแล้วต่างหาก” เธอจะได้ไปเรียนจริงจังสักที ไม่ต้องนั่งทนร้อนท่ามกลางแดดและไม่ต้องทำกิจกรรมอะไรอีก
“แล้วจะซื้อทำไมจ๊ะ ใบเก่าของลูกก็ยังใช้ได้”
“เยียวยาจิตใจไงคะแม่” ความสุขของเธอคือช็อปปิง เหนื่อยล้าจากเรื่องอะไรมา พอได้ช็อปปิงก็หายเป็นปลิดทิ้งแล้ว
“เอาน่าคุณ” ประมุขของบ้านจับมือภรรยาไว้ เพราะไม่อยากให้ภรรยาดุลูกสาวต่อ เดี๋ยวลูกจะพานไม่อยากไปเรียนอีก
มิลินกอดแขนพ่ออย่างออดอ้อนที่ท่านช่วยเอาไว้ไม่ให้โดนแม่บ่นต่ออีก คนเป็นแม่ได้แต่มองบนเธอดุลูกไม่ได้ตลอด
“กินเยอะ ๆ นะคะแม่” มิลินเอาใจมารดาบ้าง ท่านจะได้มีรอยยิ้มขึ้นมา หญิงสาวตักอาหารใส่จานให้แล้วคลี่ยิ้มหวาน
มารดาของเธออมยิ้มเอาไว้ราวกับกลัวว่าจะเสียฟอร์ม เป็นแบบนี้มาตลอดแค่ลูกอ้อนเธอก็ดุต่อไม่ออกแล้ว ทั้งยังตักอาหารให้ลูกอย่างเอาใจ
หญิงสาวขับรถมามหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง พอเปิดประตูลงจากรถก็เรียกสายตาของคนอื่นให้หันมา หน้าตาสะสวยที่เจือความมั่นใจต่างจากเฟรชชี่คนอื่น ๆ จนมีแต่คนมองด้วยความสนใจ
มิลินรู้ว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาแต่เธอก็เมินเฉย และก้าวเดินไปเรื่อย ๆ แต่ทว่ากลับมีคนมาขวางหน้าเอาไว้
“อะไรของนาย” เสียงหวานแผดดังด้วยความตกใจ คิ้วเรียวสวยย่นเข้าหากันทันที เพราะรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตา แค่เสี้ยวนาทีมิลินก็นึกออกว่าเขาเป็นคนที่จะรับโทษแทนเมื่อวานนี้
คิ้วจึงเลิกขึ้นสูงเป็นเชิงถาม
ปอร์เช่คลี่ยิ้มกว้างพร้อมกับชูถุงแซนด์วิชขึ้นมา เขาแวะซื้อที่หน้ามหาวิทยาลัยตั้งใจจะเอามาฝากมิลิน
“ให้?”
ปอร์เช่พยักหน้าแล้วยื่นมาตรงหน้ามิลิน แต่ทว่าหญิงสาวกลับเมินหนีทั้งยังเดินออกมาโดยที่ไม่หลียวกลับไปมอง
เสียงฝีเท้าที่ดังตามมาติด ๆ ทำให้มิลินรำคาญ เธอรู้ว่าต้องเป็นเขาที่เดินตามมา หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ยังเร่งเท้าเดินต่อไปจนถึงหน้าตึก
ปอร์เช่คว้าแขนมิลินไว้ เธอหันกลับมาแล้วถลึงตาใส่เขาที่มาถูกเนื้อตัวของเธอ มิลินสะบัดแขนออกแล้วชักสีหน้าใส่ ชายหนุ่มเห็นท่าไม่ดีก็ได้แต่ลอบกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก
“เราตั้งใจซื้อมาฝากมิลิน” น้ำเสียงของปอร์เช่แผ่วเบา
“ขอบคุณนะ เราไม่มีอะไรจะให้นายตอบแทนหรอกนะ” มิลินตัดสินใจรับไว้เพราะตัดความรำคาญ เขาจะได้ให้พ้นสักที! แต่คนตรงหน้าก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
“เราไม่ได้อยากได้อะไรตอบแทนเลย” เขาโกหกเพราะที่ทำไปก็อยากได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น
“โอเค” มิลินหมุนตัวหันหลังให้ เพราะเธอจะไปหาเพื่อนที่นั่งรออยู่
“เธอจะไปนั่งตรงไหนเหรอ เราไปด้วยได้ไหม”
“ไม่ได้ เราไม่ชอบนั่งกับคนที่ไม่สนิท”
ปอร์เช่มองตามคนตัวเล็กเดินไปหาเพื่อน แม้ว่าเธอจะแสดงท่าทางว่าไม่อยากทำความรู้จักกับเขาเลยสักนิด แต่เขากลับชอบที่เธอแสดงออกมาอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมาแบบนี้ยิ่งน่าคบหา
ชายหนุ่มไม่เดินตามตื๊อเพราะกลัวว่าจะยิ่งสร้างความรำคาญ เขาเดินขึ้นห้องไปนั่งรอเรียนในคาบแรก ผ่านไปได้แค่ไม่กี่นาที มิลินก็เดินเข้ามาในห้องที่เขานั่งอยู่ แต่สายตาของเธอไม่ได้มองมาที่เขาเลย
