ตอนที่ 3 :: สารภาพ
ตอนที่ 3
สารภาพ
เช้าวันต่อมา
"อื้อ~" คะน้าส่งเสียงครางอย่างงัวเงียเมื่อแสงของเช้าวันใหม่ส่องเข้ามากระทบใบหน้าจนเธอตื่นจากห้วงภวังค์
"อ๊ะ! ทำไมมันเจ็บแบบนี้นะ" เธอลืมตาขึ้นแล้วขยับตัวเล็กน้อย แต่ความรู้สึกเจ็บร้าวระบมก็แล่นไปทั่วร่างกาย โดยเฉพาะ...ตรงจุดนั้น
"นะ นี่มันอะไรกัน!" นอนอยู่ดี ๆ ก็เจ็บไปทั้งตัวว่าแปลกใจแล้ว แต่ที่แปลกยิ่งกว่าคือพอเธอหันมองซ้ายขวากลับเจอเพื่อนชายทั้งสองนอนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งกว่านั้นอีกคือทั้งเธอและเพื่อนร่างกายเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งสามคน!
"นี่มันอะไรกัน! ตื่นขึ้นมานะไทม์! ขุนพล!" เธอตะโกนปลุกร่างหนาทั้งสองพร้อมกับจับผ้าห่มที่คลุมตัวเองและทั้งสองหนุ่มไว้แน่น
"อื้อ ตื่นแล้วเหรอครับเด็กดี" ไทม์งัวเงียขึ้นมาคนแรกหากแต่ยังลืมตาไม่หมด
แต่เขา...เรียกเธอว่าเด็กดีงั้นเหรอ
"อื้อ ที่รักตื่นไวจัง นึกว่าจะสลบนานกว่านี้ซะอีก อึดเหมือนกันนะเรา" คราวนี้เป็นขุนพลที่เอ่ยตามมาแถมยังปรือตามองเธออย่างง่วง ๆ อยู่เลย
แต่เขา...เรียกเธอว่าที่รักงั้นเหรอ
"ดะ เด็กดีอะไรกัน! ที่รักอะไรกัน! ลืมตามาคุยกันดี ๆ นะ!" คะน้าตีแขนพวกเขาคนละทีจนคนตัวใหญ่ทั้งสองรีบสะดุ้งตื่นด้วยความเจ็บ
"คะน้า! /คะน้า!" พอลืมตาขึ้นจนเต็มสองตาแล้วเห็นว่าคนที่พวกเขารังแกเมื่อคืนตื่นและมีสติดีแล้วทั้งสองก็เรียกชื่อเธออย่างตกใจพร้อมกัน
"ใช่! ฉันเอง! นะ นี่มัน...เรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมพวกเราถึง..." คะน้ามองหน้าไทม์กับขุนพลสลับไปมาอย่างสับสน ก่อนที่สายตาคู่สวยจะเหลือบไปเห็นถุงยางอนามัยที่ถูกใช้แล้วถอดระเกะระกะอยู่ตามพื้นห้อง
"พะ พวกเราคงไม่ได้..." เธอสงสัยขึ้นมาแล้วส่ายหน้าหลายที ทุกอย่างที่เจอตรงหน้าตอนนี้มันบ่งบอกให้เธอคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากเรื่องอย่างว่า...
"ได้สิ ได้...หลายยกเลย" ไทม์บอกเสียงแผ่ว แต่คะน้าก็ได้ยิน ขุนพลเองก็เช่นกัน
"ไอ้ห่า ยังจะเล่น" ขุนพลปาหมอนใส่เพื่อนที่เล่นไม่รู้จักเวล่ำเวลา เพราะตอนนี้คะน้ามีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด เธอยกมือขึ้นทุบศีรษะตัวเองเบา ๆ เพราะจำอะไรไม่ได้เลย
"มันไม่จริงใช่ไหม" ใบหน้าหวานหันมาถามขุนพล เขาจึงอึกอักอย่างไม่รู้จะพูดดีไหม
"เอ่อ..."
"เอ่ออะไรล่ะ ช่วยบอกฉันทีว่ามันไม่จริง พวกแกไม่ได้ทำใช่ไหม พูดมาสิ!" คะน้ารบเร้าทั้งที่น้ำตาเริ่มไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แต่ความจริงมันก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ
"มันคือเรื่องจริงคะน้า พวกฉันพยายามขังแกไว้ในห้องน้ำแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ผล ฤทธิ์ยามันทำให้แกเปลี่ยนไปเป็นคนละคน พวกฉันก็เลย...ทนไม่ได้" ขุนพลยอมรับไปตามตรง
"ใช่ พวกฉันขอโทษนะคะน้า ถึงจะรู้ว่าขอโทษไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นมา แต่พวกฉันมันก็ผู้ชาย พวกฉัน...ทนไม่ไหวจริง ๆ" ไทม์สารภาพบ้าง เขามองเธอด้วยความรู้สึกผิดจากใจจริง
"แล้วพวกแกมีกันสองคน แต่ไม่มีใครห้ามใครเลยเหรอ!" คะน้ามองหน้าพวกเขาสลับกันทีละคนอย่างโกรธจัดอีกครั้ง
"ฉัน..." ไทม์อยากจะพูดอีกครัั้งแต่เขาก็ต้องเงียบปากลงเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี
"ฉันถูกวางยาก็จริง แต่พวกแกไม่ได้ถูกนี่ ทำไมถึงห้ามตัวเองไม่ได้ หรือถ้าห้ามไม่ได้จริง ๆ ก็มัดฉันไว้ก็ได้ ฉันอุตส่าห์เชื่อใจพวกแกนะ! ฮึก" คะน้ามองทั้งสองอย่างไม่เข้าใจ ถูกแฟนตัวเองวางยาว่าแย่แล้ว ยังมาเสียตัวให้เพื่อนตัวเองอีก แค่คนเดียวก็แย่แล้ว แต่นี่...สองคน
"คะน้า..." ไทม์ขยับตัวเข้ามาหวังจะปลอบเธอ แต่ร่างบางก็ขยับหนีเขา
"ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันไม่อยากฟัง!" คะน้าพยายามจะฝืนตัวเองลงจากเตียง แต่ก็ถูกไทม์รั้งไว้ให้นั่งลงตามเดิม
"เดี๋ยวสิคะน้า แกให้อภัยพวกฉันได้ไหม พวกฉันผิดไปแล้วจริง ๆ" ไทม์ถามเธออย่างเว้าวอน
"ฮึก ฉันจะให้อภัยพวกแกก็ได้ แต่ฉันอยากให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม พวกแกลืมมันไปได้ไหมล่ะ คิดซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น" คะน้าหันมามองเขาทั้งน้ำตา เธอยอมรับว่าโกรธพวกเขา แต่ความเป็นเพื่อนที่มีมานานก็ทำให้เธอไม่ถึงกับเกลียดแล้วจะตัดเพื่อนกันไปเลย
"อยากให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมงั้นเหรอ หึ จะให้เป็นเหมือนเดิมได้ไง ในเมื่อมันไม่เคยเหมือนเดิมมาตั้งแต่แรก" ขุนพลที่เงียบฟังมานานกระตุกยิ้มแล้วมองเธออย่างไม่หลบสายตา หากแต่คำพูดของเขากลับทำให้คะน้าขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ
"ไม่เคยเหมือนเดิมงั้นเหรอ มะ หมายความว่าไงขุน"
"หึ ก็หมายความว่าฉันไม่เคยคิดกับแกแค่เพื่อนเลยไง เพราะฉันชอบแก ชอบมานานแล้ว ชอบก่อนที่แกจะคบกับไอ้เหี้ยเอสเลยด้วยซ้ำ!" ขุนพลบอกเธออย่างจริงจังและหนักแน่น ก่อนที่สายตาคู่คมจะเหลือบไปมองไทม์เป็นสัญญาณว่าถึงเวลาสารภาพสักที
"อีกอย่างนะ ที่พวกฉันห้ามตัวเองไม่ได้ก็เพราะแกคือคนที่พวกฉันชอบไง ความอยากมันก็เลยมีมาก จะให้ยืนดูแกแก้ผ้าต่อหน้าเฉย ๆ มันเป็นไปไม่ได้หรอก" ขุนพลเอ่ยอีกครั้ง จากนั้นไทม์จึงมองเขาสลับกับคะน้าที่มองเขาอยู่ ชายหนุ่มจึงเม้มปากแล้วรีบเปลี่ยนมาอยู่ข้างขุนพลทันที
"ใช่! ฉันเองก็ชอบแกเหมือนกันคะน้า เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันจะไม่ปิดบังมันไว้อีกแล้ว" ไทม์รีบเสริมทัพ ทำเอาคนที่ได้ฟังยิ่งอึ้งเข้าไปใหญ่
นี่มัน เรื่องบ้าอะไรกัน
"นะ นี่พวกแก...เป็นอะไรกันไปหมด" คะน้าสะบัดมือของไทม์ออกก่อนจะส่ายหน้าอย่างสับสนและไม่รู้จะทำยังไงกับความจริงที่เพิ่งได้รู้
"ขอโทษนะคะน้า ขอโทษที่พวกฉันทำลายความเชื่อใจของแก ขอโทษที่เป็นเพื่อนกับแกไม่ได้ แต่พวกฉันชอบแกจริง ๆ นะ" ขุนพลบอกเสียงอ่อนอย่างรู้สึกผิดในช่วงแรก แต่ช่วงหลังเขาบอกด้วยน้ำเสียงและสายตาจริงจัง
"ใช่คะน้า ขอโทษจริง ๆ นะ" ไทม์เอ่ยเสริม แต่คนฟังกลับเอาแต่ส่ายหน้าสับสนทั้งน้ำตา
เธอเสียตัวให้เพื่อนที่สนิทที่สุดทั้งสองคน แถมสองคนนี้ยังมาสารภาพว่าชอบเธออีกอย่างนั้นเหรอ
