4ท่าทีที่เปลี่ยนไปจนน่ากลัว
ตอนที่ 2
ท่าทีที่เปลี่ยนไปจนน่ากลัว
เช้าแห่งการทำงานหมุนวนผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ หลังจากวันนั้นที่กล้ากวีบอกว่าจะขอหยุดพัก อันดาสัมผัสได้ว่าชายหนุ่มเริ่มทำตัวแปลกไปจากปกติ เขามีท่าทีห่างเหินไป นัดกินข้าวอย่างลับ ๆ ที่เคยมีให้หนึ่งครั้งต่ออาทิตย์ก็เริ่มไม่มีจนอันดากังวลใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ตัวชายหนุ่มกลับบอกเพียงแค่งานยุ่ง จนเขาเหนื่อยและอยากให้เธอพักผ่อนไปด้วย
แต่มันคงไม่จริงก็แค่ไปกินข้าวด้วยกันเอง อีกอย่างช่วงที่กล้ากวีขึ้นดำรงตำแหน่งแรก ๆ มันหนักกว่านี้ เขาก็ยังจองโต๊ะอาหารสุดหรูพาเธอไปดินเนอร์ด้วยกันได้เลย แม้จะเป็นการไปกันอย่างลับ ๆ ไม่ให้ใครล่วงรู้ก็ตามที
“ขออนุญาตค่ะ ท่านประธานนี่คือเอกสารที่ฝ่ายการตลาดส่งมาให้ท่านตรวจสอบค่ะ”
“ขอบใจมาก”
“ท่านประธาน เอ่อ คุณกวีคะ”
กล้ากวีชะงักหลังคำเรียกสรรพนามถูกเปลี่ยนจาก การปั้นหน้าเป็นเลขานุการมาเป็นโหมดอันดาคนรักของตัวเอง กล้ากวีเริ่มไม่มั่นใจแล้วสิว่าอันดาจะพูดอะไรกับเขา จะถามอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับเขาอีกหรือเปล่า
“คือว่าดาอยากจะ...”
“คุณอยากจะไปไหน”
กล้ากวีตัดสินใจชิงถามก่อนว่าอันดาอยากทำอะไร
หรือไปไหนไหมเพราะว่าเขาเหมือนนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่ได้นัดอันดาไปเดทดินเนอร์เลยจนมันดูน่าสงสัย เขาเลยคิดที่จะทำมันเพื่อจะได้กลบเกลื่อนความผิดปกติของตัวเองไปด้วย
“คือดาไม่ได้อยากจะเรียกร้องอะไร ดาก็แค่...”
“บอกมาเถอะ จริง ๆ ช่วงนี้ผมเองก็ผิดที่ไม่ได้พาคุณไปดินเนอร์แบบทุกครั้งที่เราต้องไปด้วยกัน”
“ดาเอาแต่ใจได้เหรอคะ”
คำพูดที่บอกออกมาว่าเอาแต่ใจได้เหรอคะ มันเหมือนมีเข็มที่มองไม่เห็น มาจิ้มลงที่ใจของกล้ากวี อันดาแฟนสาว คนนี้แสนดีเสมอต้นเสมอปลาย แต่ก็ยอมรับเลยว่ามันเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เขารู้สึกเบื่อเธอและเมื่อมีน้ำเพชรที่ดูมีชีวิตชีวาและความสดใสมากกว่า เขาจึงรู้สึกชอบว่าที่คู่หมั้นที่ทางบ้านหาให้มากกว่า
“อันดาเข้ามาหาผม” กล้ากวีเรียกอันดาให้เข้ามาหา
เมื่อเห็นหน้าตาที่ดูซึมจนใจรู้สึกแปลก ๆ
เอาจริง ๆ เขารู้ดีว่าการเบื่ออันดาจนอยากมีคนใหม่อย่างน้ำเพชรมันเป็นการเห็นแก่ตัว แต่เพราะเขายังตัดใจที่
จะเสียอันดาไปไม่ได้ จึงได้เลือกเก็บเธอเอาไว้ในเวลาที่รู้สึกว่าน้ำเพชรทำตัวน่าอึดอัดใส่เขา แล้วกลับมาหาเซฟโซนที่
สบายกว่าอย่างอันดา
“คุณกวีอย่ากอดดานานนักสิค่ะ ถ้าดางี่เง่าจนไม่อยากออกไปจากอ้อมกอดนี้ขึ้นมา ดาก็แย่กันพอดีสิ ฮ่า ๆ”
กล้ากวีกระชับอ้อมกอดแน่นกว่าเดิม เสียงหัวเราะที่
อันดาพยายามส่งเสียงออกมา มันช่างฝืนใจของตัวเอง
เสียจริง ในเมื่อมันไม่ได้น่าขำขนาดนั้นก็ไม่เห็นต้องฝืน
ตัวเองเลย
“คนดีของผม ถ้ามันไม่น่าขำขนาดนั้นก็ไม่เห็นต้อง
ฝืนเลยนิ ถ้าอยากร้องไห้ ทำไมถึงไม่ร้องออกมาล่ะ”
“คุณกวีพูดอะไรกัน ดาจะร้อง...อึก ทะ ทำไมกัน”
แม้จะบอกไปแบบนั้น แต่แล้วน้ำตาเจ้ากรรมก็ดันไหลออกมาไม่หยุด อาการสั่นเทาก็เริ่มตามมา สุดท้ายความอึดอัดที่กักเก็บไว้ก็ระเบิด เมื่อได้รับสัมผัสที่อย่างการลูบหลังและจุมพิตที่ไล่ลงมาจากหัวถึงหน้าผากมนของเธอ
“ใจร้ายจัง มาทำให้รู้สึกดีแล้วก็จะจากไป ใจร้ายที่สุด”
“ขอโทษ แต่ช่วยรอหน่อยได้ไหม?”
.
