บทที่ ๙
“สวัสดีจ้ะ น้องวา”
เสียงใสไพเราะดังขึ้น ทักทายอย่างสนิทสนม
ใช่! จริงๆ ด้วย แววตาไหววาบอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเจ้าของหุ่น เซ็กซี่ ใบหน้าสวยเด่นหันมาสบตาเธอเต็มๆ
“สวัสดีค่ะ คุณศศิประภา”
หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ อย่างนอบน้อมด้วยเพราะอีกฝ่ายอายุเยอะกว่าเธอหลายปีอยู่
“อะไรกันเรียกพี่ซะเต็มยศเลยนะคะ... เรียกพี่วินนี่เหมือนเดิมก็ได้นี่จ๊ะ คนกันเอง”
ศศิประภาหรือวินนี่ส่งยิ้มหวานให้เธออย่างมีไมตรี แต่ในรอยยิ้มนั้นวาทิตาสัมผัสได้ว่ามีอะไรแอบแฝงไว้
“เอ่อ... ค่ะ พี่วินนี่มีธุระอะไรกับพี่ภีมคะ”
หญิงสาวถามขึ้นตามมารยาทของเจ้าของบ้าน และแฝงด้วยความอยากรู้
“แหม... จริงๆ แล้วพี่ก็ไม่ได้มีธุระอะไรเป็นพิเศษหรอกจ้ะ พี่แค่จะเอาของมาคืนภีมเท่านั้นเอง”
แขกผู้มาเยือนส่งถุงกระดาษสีน้ำเงินเข้มส่งให้หญิงสาวตรงหน้า
“อะไรคะ...”
คนอยากรู้ถามขึ้นพร้อมกับรับถุงสีน้ำเงินเข้มนั้นมา
“เสื้อจ้ะ... อ่อน้องวา อย่างเพิ่งคิดอะไรมากนะจ๊ะพอดีภีมเขาฝากให้พี่ส่งทางโรงแรมซักให้ที่อเมริกาจ้ะแล้วน่าจะลืมเพราะไม่เห็นถามถึง พี่เลยเก็บเอาไว้ให้”
วินนี่ รีบอธิบายเมื่อเห็นสีหน้าวาทิตาไม่สู้ดีนัก และยิ่งได้เห็นสีหน้าแบบนั้นยิ่งเข้าทางคนพูดหล่อนยิ่งเน้นสถานที่ให้อีกฝ่ายรู้อย่างชัดเจน
นี่แสดงว่า พี่วินนี่ไปอเมริกากับพี่ภีมงั้นหรือ คิดได้เช่นนั้นน้ำใสในตาก็เริ่มเอ่อออกมาน้อยๆ ทว่าเธอก็พยายามกลั้นไว้ไม่ให้มันไหลออกมา ไม่มีทางหรอกที่เธอจะแสดงความอ่อนแอให้ผู้หญิงคนตรงหน้าได้เห็น
“อ๋อ... ขอบคุณค่ะ เห็นพี่ภีมบอกวาเหมือนกันค่ะ”
วาทิตายิ้มน้อยๆ ให้ เธอแสร้งทำเป็นว่ารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ทั้งที่จริงแล้วเธอไม่รู้เรื่องนี้เลย
“ถ้างั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว พี่ขอตัวกลับเลยแล้วกัน”
วินนี่ตวัดหางเสียงเล็กน้อย ก่อนคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องรับแขกไป
ยังไม่ทันที่หล่อนจะเดินพ้นประตูของตัวคฤหาสน์ รถสปอร์ตสีดำก็ขับมาจอดด้านหน้าพอดี ภาคินเปิดประตูรถ รีบก้าวลงจากตัวรถพร้อมส่งยิ้มเก๋ให้แขกผู้มาเยือนแสดงความดีใจอย่างเปิดเผยที่เขาได้เจอเธอวันนี้
“ทำไมวินนี่ไม่โทรบอกผมก่อนครับว่าจะมาหาผมที่บ้าน ผมจะได้รอคุณไม่ต้องขับรถออกไปหาคุณถึงคอนโด”
ภาคินเดินเข้ามาโอบรอบเอวบางอย่างสนิทสนม โดยไม่สนใจว่าจะมีสายตาของวาทิตาที่จ้องมองอยู่
“วินนี่ก็แค่จะแวะเอาเสื้อที่ภีมลืมทิ้งไว้มาคืนเท่านั้นค่ะ อีกอย่างเห็นเป็นวันหยุดวินนี่ก็คิดว่าคุณน่าจะอยู่บ้านครอบครัว ก็คุณเล่นไปอเมริกากับวินนี่ตั้งหลายวัน”
วินนี่พูดเน้นเสียงท้ายประโยคอย่างจงใจให้อีกฝ่ายได้ยิน อีกทั้งยังปรายตามาทางวาทิตาพร้อมทั้งยิ้มมุมปากให้หญิงสาวอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า
‘ฮึ... นังเด็กเมื่อวานซืน แกกับฉันกระดูกมันคนละเบอร์กัน ให้มันรู้ไปว่าใครจะแน่กว่าใคร’
ภาพสามีตัวเองยืนโอบกอดหญิงสาวอีกคนสร้างความเจ็บช้ำให้เธอไม่น้อย วาทิตายืนนิ่งขาสั่น กำมือเรียวเล็กไว้แน่นด้วยความเสียใจ น้อยใจ ผสมกับความโกรธ ภาคินใจร้ายกับเธอเหลือเกิน ไม่ให้เกียรติเธอเลยแม้แต่น้อย นี่เขาโกรธ เกลียดเธอถึงขนาดต้องนัดแนะหญิงอื่นให้มาหากันที่บ้านเลยหรือ
จะว่าหญิงอื่นก็ไม่ได้สิ ในเมื่อวินนี่หรือศศิประภาคืออดีตแฟนเก่าเขาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่อเมริกา แต่วินนี่ เป็นฝ่ายสลัดรักจากไปหลังจากได้พบเจอกับนักธุรกิจหนุ่มลูกผสมเมื่อกลับมาประเทศไทย และเธอตัดสินใจบินตามหนุ่มนักธุรกิจลูกผสมไปอเมริกา จากนั้นหล่อนก็ขาดการติดต่อกับเขามารู้ข่าวอีกครั้งคือเจ้าหล่อนแต่งงานกับหนุ่มลูกครึ่งอเมริกาคนนั้นไปแล้ว และจากข่าวนั้นภาคินเสียใจอยู่ไม่น้อย
