บทที่ ๖
“คุณวา คะโทรศัพท์ค่ะ”
เสียงนางอิ่มดังขึ้น เป็นการเรียกสติของเธอกลับจากเรื่องราวเลวร้ายในอดีตที่ผ่านมา ที่ไม่อาจจะแก้ไขอะไรได้อีก มีเพียงทางเดียวคือเธอจะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่เขาได้รู้นั้นมันไม่ใช่เรื่องจริง และรับรู้ว่าเธอกำลังถูกใส่ร้าย
วาทิตาวางอัลบั้มรูปที่จัดเก็บข้อความข่าวทั้งหมดลงในลิ้นชักตู้เก็บของขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ภายในห้องนอนของเธอเอง หญิงสาวจำต้องแยกห้องนอนกับภาคินตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
หญิงสาวใช้นิ้วเรียวปาดน้ำตาที่กำลังไหลให้หมดไป เพราะไม่ต้องการให้ผู้ที่เข้ามาในห้องได้เห็นคราบน้ำตานั้น ทว่าระยะเวลาที่เธอนั่งดูภาพต่างๆ ประจวบกับนึกถึงเรื่องราวเก่าๆ นั้นเธอปล่อยให้น้ำใสๆ ออกมานั้นมันค่อนข้างนานพอดู ทำให้คราบน้ำตาไม่ได้หายไปง่ายๆ อย่างที่เธอต้องการ
“ใครโทรมาคะ ป้าอิ่ม”
น้ำเสียงยังคงสั่นเครือทำให้นางอิ่มรู้ได้ทันทีว่า นายสาวของนางเป็นอะไร นางรู้สึกสงสารและเห็นใจนายสาวอยู่ไม่น้อย แต่นางก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากคอยปลอบประโลมและอยู่ข้างๆ คอยให้กำลังใจเท่านั้น
“คุณไผ่ ค่ะ”
ร่างท้วมเอ่ยชื่อเพื่อนรักซึ่งตอนนี้เจ้าตัวยังคงอยู่ประเทศอเมริกา
“อ๋อ... ค่ะ”
วาทิตารับโทรศัพท์พร้อมยิ้มน้อยๆ ให้หญิงสูงวัยหากแต่สายตาคู่สวยนั่นสิมันไม่ได้ยิ้มไปด้วยกับริมฝีปากบางนั้นเลย เพราะเวลานี้แววตาคู่นั้นมันกลับดูเศร้าหมองยิ่งนัก
“นี่ ยายวาทำไมแกถึงรับสายช้าจังวะ ฉันโทรทางไกลนะยะ”
มณสิชา รีบโวยวายขึ้นทันทีเมื่อสิ้นเสียงของเพื่อนรักแล้ว
“เราขอโทษ พอดีเราอาบน้ำอยู่ และทำไมไม่บอกป้าอิ่มให้เราโทรกลับล่ะ”
“ฉันก็กลัวแกจะไม่โทรกลับมาหาฉันนะสิ”
“และนี่มีเรื่องอะไรด่วนหรือเปล่าไผ่ถึงได้โทรทางไกลมาหาได้แบบนี้”
วาทิตาอดถามเพื่อนสาวไม่ได้ เพราะปกติแล้วทั้งคู่มักติดต่อกันทางอีเมลล์หรือไม่ก็พูดคุยกันผ่านทางไลน์ หรือไม่ก็ทางหน้าเฟซบุ๊ก
“ก็...”
“ก็อะไรมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
วาทิตา รีบถามเพื่อนสาวอีกทันที เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวทิ้งช่วงไปไม่พูดต่อ ด้วยความเป็นห่วง
“เอ่อ... ไม่มีอะไรหรอกฉันก็แค่คิดถึงแกเท่านั้นเอง อยากคุยด้วยแกสบายดีหรือเปล่าทำไมเสียงแกดูแปลกๆ”
มณสิชารีบเปลี่ยนเรื่องทันที โดยดึงเรื่องเสียงของเพื่อนรักขึ้นมาพูดเมื่อเธอสังเกตว่าเสียงเพื่อนรักเปลี่ยนไปฟังดูคล้ายคนเป็นหวัดหรือคล้ายคนกำลังร้องไห้อยู่ก็ว่าได้
“ไม่สบายนิดหน่อย ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกจ้ะช่วงนี้อากาศที่เมืองไทยมันเปลี่ยนบ่อยขอบใจที่เป็นห่วง”
หญิงสาวจำต้องโกหกเพื่อนสาว เพราะเธอไม่อยากให้เพื่อนรักต้องมาคิดมากไปกับเธอด้วย และหากมณสิชารู้เธอคงไม่พอใจเป็นแน่
“เหรอจ๊ะ... แล้วนี่พี่ภีมอยู่ด้วยหรือเปล่า ถ้าให้ฉันเดาคงนั่งอยู่ข้างๆ แกล่ะสิ ฝากบอกพี่ภีมด้วยนะว่าฉันคิดถึง อีกสองเดือนฉันจะรีบกลับไปให้พี่ภีมเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวสักหน่อย”
“เปล่าจ้ะ...พี่ภีมไปประชุมงานที่อเมริกา เห็นว่าไปรัฐเดียวกับที่เธออยู่นั่นแหละ”
ชัว! ชายหนุ่มที่เธอเห็นที่โรงแรมห้าดาวเมื่อสักครู่คือภาคินจริงๆ แต่ทำไมผู้หญิงที่ยื่นเคียงข้างเขาถึงไม่ใช่เพื่อนรักของเธอ และผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันถึงได้ดูสนิทสนมกับภาคินได้ขนาดนั้น
