บท
ตั้งค่า

3

ผ่องรำไพยืนนัยน์ตาช้ำรอรถเมล์ ในมือมีหนังสือสมัครงานที่เพิ่งซื้อมาจากแผงหนังสือ ยกนาฬิกาขึ้นดูคิดว่าไปสายแน่ๆ แต่เธอไม่แคร์ ดีเหมือนกันเจ้านายที่แสนเกลียดชังกันจะได้ไล่เธอออก โดยไม่ต้องยื่นใบลาออก

รถยุโรปคันหรูวิ่งมาจอดเทียบ เป็นรถท่านประธานใหญ่ หญิงสาวกอดกระเป๋าทำงานแน่น มือเย็นเฉียบ เธอไม่รู้จริงๆ เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นทำไมลูกชายท่านถึงคิดว่าเธอจะจับพ่อของเขา…

“หนูไปด้วยกันขึ้นรถสิ”

เสียงทุ้มฟังดูมีเมตตาเช่นเคยทว่าไม่ได้ทำให้สองขาหญิงสาวขยับ “ดิฉันขอบคุณค่ะเอ่อ…”

“อะไรกันมาเถอะถึงไม่ได้ทำงานกับฉันแล้วแต่ยังอยู่กับลูกชายฉันนะ”

ศิวามหาเศรษฐีวัยเกือบหกสิบยิ้ม ผ่องรำไพตัดสินใจขึ้นรถเพราะหวังจะพูดบางอย่างกับศิวานั่นเอง

ผ่องรำไพนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์แต่งานไม่ไปถึงไหนเพราะมัวเสียใจที่ท่านประธานใหญ่ไม่ให้เธอกลับไปทำงานกับท่านและห้ามคิดเรื่องลาออก

“เธอเก่งอยู่ช่วยเวทิศเถอะ อย่าไปกลัวมันเลยมันชอบเสียงดังแต่ไม่มีอะไรหรอก เวทิศน่ะขยัน ชอบคนขยัน ไม่นานก็จะเข้ากันได้ดีคอยดูสิ แม้ยังเสเพลเรื่องสาวๆ แต่เรื่องงานคราวนี้ได้เธอไปช่วยฉันจะได้เบาใจ”

คำปฏิเสธดูไม่มีนัยยะใดๆ เธอจึงไม่กล้าพูดอะไรต่อ

“ทิศคะแววอยากไปเที่ยวสัปดาห์นี้ทิศคงไม่ปฏิเสธนะคะ” เสียงใสๆ ของดาราชื่อดังทำให้ผ่องรำไพกลับมาสนใจงาน ผู้หญิงคนนี้มาแสดงว่าคนที่เธอไม่อยากเจอก็กำลังเดินมาด้วย แววดาวคือดาราเบอร์ล่าสุดที่เวทิศกำลังคั่ว

“ขอดูตารางงานก่อนนะ” เวทิศตอบ ผ่องรำไพไม่อยากสนใจแต่อดมองตามไม่ได้เมื่อคนทั้งสองเดินผ่านเข้าไปในห้อง

“กาแฟสองที่” อินเตอร์คอมดังขึ้น ผ่องรำไพยกสองมือลูบใบหน้าซีดเซียวเดินไปชงกาแฟ

ในห้องเบรกทานชา กาแฟ เสียงนินทา ชื่นชม รวมทั้งเพ้อหาของสาวๆ ถึงเจ้านายหนุ่มหยุดลงเมื่อเธอเข้าไป ผ่องรำไพทำเป็นไม่สนใจเดินไปชงกาแฟ

“ได้แล้วค่ะ” ผ่องรำไพวางแก้วกาแฟเมื่อเข้าห้อง ก่อนจะหมุนตัวกลับเพราะไม่อยากมองเวทิศับดาราสาวสวยที่นั่งคลอเคลียกันบนโซฟา

“คราวหลังเคาะประตูด้วยคุณเลขา” ดาราสาวสั่ง ผ่องรำไพอึ้งไปแต่ก็รับคำ “ขอโทษค่ะ คราวหลังจะไม่ลืม”

“ได้มาจากไหนคะเนี่ยทิศเชยจังเลขาคุณ” ไม่ทันปิดประตูเสียงนินทาเธอดังให้ได้ยิน ผ่องรำไพเห็นแววตาเย็นชากำลังมองมาหากันก็ปิดประตูเสีย

ผ่องรำไพออกไปทานมื้อเที่ยงเพราะวันนี้รีบจนไม่ได้นำมาจากบ้าน หญิงสาวกำลังสั่งอาหารเหลือบเห็นหญิงสาวในชุดนักศึกษาคล้ายน้องสาวก็วิ่งออกมาดูแต่ไม่ทันเพราะรถยุโรปคันหรูพานักศึกษาคนนั้นออกไปเสียก่อน จึงกดหาน้อง

“รุ้งตอนนี้อยู่ไหน”

“เอ่อ…มหาลัยสิพี่มายุ่งอะไรกับฉัน ฉันจะเรียน” ปลายสายไม่พอใจ

“ถ้าอย่างนั้นพี่ไม่กวน…”

ปลายสายตัดไปไม่ทันพูดจบ หญิงสาวเดินเข้าร้าน อาหารตามสั่งมาเสิร์ฟก็รีบกินทั้งๆ ที่ตั้งแต่เมื่อวานเธอทานอะไรไม่ลงเลย เมื่อคืนก็นอนไม่หลับ แต่จำฝืนในวันนี้เพราะรู้สึกว่าไม่มีเรี่ยวแรงทำงานเลย

“เข้ามาในห้องหน่อย” นั่งเก้าอี้ได้ไม่นานเสียงเจ้านายเรียก หญิงสาวไม่อยากเข้าไปเพราะรู้เขาอยู่ลำพัง จึงไปยืนห่างจากโต๊ะทำงานเขาค่อนข้างไกลเมื่อเข้าไปแล้ว

“เป็นอะไรสายตายาวหรือยังไงถึงไปยืนไกลขนาดนั้น” เวทิศถาม ส่งสายตาดุมา ผ่องรำไพขยับเข้าไปหนึ่งก้าว

“ไปหยิบแฟ้มนางแบบเมื่อปลายปีก่อนที่ถ่ายโฆษณาให้หน่อย”

เวทิศรำคาญท่าทีไม่อยากเข้าใกล้เขาของเธอรีบสั่งงาน เลขาสาวรีบไปยังชั้นวางแฟ้มต้องการทำงานให้เสร็จเร็วไว แฟ้มค่อนข้างสูงหญิงสาวพยายามเอื้อมหยิบต้องโทษตนเองที่ไม่ชอบใส่รองเท้าสูง ทำให้การทำงานตอนนี้ช่างลำบาก แอบหันไปมองเจ้านายเห็นเขาเดินไปคุยมือถือก็เดินไปลากเก้าอี้แถวนั้นมาหนึ่งตัว ถอดรองเท้าขึ้นไปเอาแฟ้ม ได้มาในมือก็ถอนหายใจโล่งอกแต่ก้าวขาจะลงจากเก้าอี้ตกใจเห็นสายตาวาววับกำลังมองอยู่ตกใจพลัดตกจากเก้าอี้ “โอ้ย” หญิงสาวจับก้นที่ระบม คิดว่าเป็นฝีมือคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ทำตาขวางใส่เขาด้วยความลืมตัว

“ทำไมไม่ฟังฉันเมื่อเช้าเธอมากับคุณพ่อหรือ อย่าบอกว่ากลับจากเพนท์เอ้าส์ฉันก็อยู่กับท่านนะ”

หญิงสาวส่ายหน้า “ฉันเปล่าซะหน่อย”

เธอเฝ้าพ่อที่อยู่โรงพยาบาลแต่ทำไมต้องบอกเขาด้วย

“เปล่าเรื่องไหน” เสียงเข้มคาดคั้น ข้อมือเล็กโดนยึดบีบแรงๆ

“แค่ท่านกลัวฉันมาทำงานสาย พบท่านโดยบังเอิญ”

“ ฉันไม่น่าเชื่อใจผู้หญิงอย่างเธอเลย น่าจะจับมัดไว้ที่ห้องฉันสักสองคืน จะได้ไม่ต้องไปออเซาะคุณพ่ออีก”

เรื่องเงินคือจุดอ่อนสำหรับเธอ ผ่องรำไพยอมรับเธอต้องการมัน เมื่อวานเวทิศเซ็นเช็คให้ครึ่งแสนก่อนจะกลับ หญิงสาวกลืนความหยิ่งทะนงรับมันไว้ เพราะเธอต้องใช้เงิน และจำได้ฝังใจเรื่องที่เขาให้ห่างท่านประธานให้มากที่สุด

“ท่านไม่ได้มีอะไรกับฉันแค่คุยกันเรื่องงานจริงๆ นะ” เธอถอยห่างร่างใหญ่

“คงไม่คิดฟังฉันจริงๆ สินะ ถามหน่อยเถอะเมื่อเช้าให้คุณพ่อลูบๆ ล้วงๆ ได้มาอีกเท่าไหร่” เวทิศพูดเหยียดหยามอยากดูสีหน้าแม่เลขาจอมมารยา “นี่ยังไม่รวมครั้งล่ะห้าพัน หมื่น สองหมื่น หลายๆ ครั้ง ”

“เปล่าทำอะไรอย่างที่คุณคิดนะ เมื่อก่อนฉันขอท่านเบิกล่วงหน้าเพราะพ่อ…ฉันป่วย ต้องดูแลน้อง ฉันต้องใช้เงิน” เธออธิบาย

“สำคัญจริงๆ มีด้วยเหรอเบิกเงินล่วงหน้า แต่ว่าบทละครแบบนี้ฉันเหมือนเคยได้อ่าน คิดหรือว่าจะเชื่อเธอง่ายๆ ”

“ไม่เชื่อก็แล้วแต่คุณ แต่ตอนนี้ปล่อยฉันก่อนเถอะคุณ”

“ถ้าจริง ก็เลยคิดขายตัว แย่งผัวชาวบ้านเห็นว่าคุณพ่อฉันพอใจเธอ มันน่าสมเพชกว่าเดิมนัก อย่าหวังฉันจะเห็นใจ ฉันไม่ต้องการให้ครอบครัวศิววงษ์ต้องมามัวหมองพราะเธอแน่”

“ฉันรับเงินเดือนแค่ครึ่งเดียวผ่อนคืนท่านนะ” เธอน้ำตาคลอเสียใจคำพูดดูถูก กอดแฟ้มแน่น

หนักใจ เป็นห่วงพ่อแต่การโดนดูถูกแบบนี้ แลกมากับการได้พึ่งพาเขามันน่าสมเพชเวทนานัก จะทนได้อีกนานเท่าไหร่กันนะ…

“ดอกเบี้ยฉันจะคิดมันเอง ทบความเสียใจของคุณแม่ฉันเข้าไปด้วย” ร่างใหญ่ไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น ได้รูปจากลูกน้องตอนเธอขึ้นรถบิดาก็โกรธดึงลากร่างอวบมาที่เก้าอี้

เวทิศเป็นผู้ชายที่รักแม่มากท่านอยากได้อะไร เขาไม่อยากขัดใจท่าน ใครทำแม่เขาเสียใจต้องโดนดี

“คุณจะทำอะไรฉันอีกปล่อย” หญิงสาวทิ้งแฟ้มดิ้นรนพยายามวิ่งหนีไปเปิดประตู

“เธอต้องจ่ายดอกเบี้ยไงล่ะถ้าทำให้ฉันโมโหโดยการเข้าใกล้คุณพ่อ มานี่ ร่างใหญ่รัดเอวคอด เธอแตะเท้าในอากาศพยายามให้หลุดพ้นร่างใหญ่แต่เรี่ยวแรงแทบไม่มีจึงโดนจับนั่งที่เก้าอี้ โดนมัดมือทั้งสองกับพนักโดยเนกไทของเขา

คนบ้าโรคจิตที่สุด เนคไทอีกแล้ว หญิงสาวดิ้นรนจนทรงผมที่เกล้าไว้หลุดลุ่ย

“ผู้หญิงแบบเธอรู้ไหมทำให้คนอื่นเป็นโรคจิตมามากมายโดยเฉพาะพวกเมียหลวงทั้งหลาย”

ผ่องรำไพขมวดคิ้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel